ชาตรามือ กลับมาดังอีกครั้ง! มีกลยุทธ์อะไรต้องไปดู

ไม่น่าเชื่อว่ากว่า 72 ปีของ ชาตรามือ ที่เริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจแบบครอบครัวเมื่อ พ.ศ. 2488 มาถึงในยุคที่อะไรๆก็มีการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดนี้ ชาตรามือ จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และกระแสการกลับมาคราวนี้ก็ใช่แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปดูจากทิศทางการเติบโตที่ทายาทรุ่นสามได้วางเอาไว้ ธุรกิจของชาตรามือนับแต่นี้น่าจะติดลมบนต่อไปอีกยาวนาน สิ่งที่ www.ThaiSMEsCenter.com สนใจยิ่งกว่าคืออะไรที่ทำให้ชาตรามือกลับมาเป็นที่พูดถึงได้อีกครั้ง

อันที่จริงชาตรามือก็ไม่ได้หายจากเมืองไทยไปไหนในช่วงที่ผ่านมาแม้เราจะไม่รู้ตัวแต่แบรนด์นี้ก็ยังวางจำหน่ายต่อเนื่องโดยเฉพาะในต่างประเทศนั้นถือว่าชาตรามือ ฮอตฮิตมาก ต่างชาติต่างภาษาเขารู้จักกันในนามของ Cha-Yen หรือ Thai Tea ซึ่งเป็นที่นิยมและขายดีในสิงค์โปร, บรูไน, มาเลเซีย, รัสเซีย และจีน โดยสัดส่วนการตลาดนั้นเน้นที่การส่งออกกว่า 60%

ชาตรามือ

ส่วนที่เหลืออีก 40% คือการขายภายในประเทศและก็ไม่ใช่แค่การขายธรรมดาเพราะลูกค้าคนสำคัญของชาตรามือคือ อเมซอน ซึ่งเป็นธุรกิจร้านกาแฟคู่บุญของ ปตท. ที่ตอนนี้กำลังขยายกิจการอีกหลายแห่งทั่วประเทศ มูลค่าการซื้อชาตรามือของอเมซอนนั้นสูงถึง 88.5 ตัน/เดือน นั้นเป็นเหตุผลว่าที่ผ่านมาชาตรามือแม้ไม่ได้เป็นทอร์คออฟเดอะทาวน์แต่ตัวแบรนด์ก็ขับเคลื่อนตัวเองให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

โดยตัวเลขรายได้ของชาตรามือในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เติบโตขึ้นเป็นลำดับเช่นในปี 2557 มีรายได้อยู่ที่ 206 ล้านบาท ในปี 2558 รายได้ 268 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา 2559 บริษัทมีรายได้ 366 ล้านบาท พิจารณาตัวเลขให้ดีจะพบว่าในขณะที่ธุรกิจอื่นมีรายได้ลดลงและมีแนวโน้มที่ต้องปรับกลยุทธ์ตัวเองมากขึ้นแต่ชาตรามือกลับมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจึงมีคำถามน่าสนใจว่าอะไรที่ทำให้เกิดเป็น “ปรากฏการณ์ชาตรามือ” ขึ้นมาในครั้งนี้

1.การรักษาภาพลักษณ์ในความเป็นแบรนด์ที่ชัดเจน

tra1

ถ้าเราย้อนไปดูโลโก้หรือบรรจุภัณฑ์ของชาตรามือในสมัยก่อตั้งธุรกิจจนถึงเดี๋ยวนี้พบว่าแทบไม่มีอะไรแตกต่าง และนั่นคือเรื่องดีในการสร้างเป็น Brand Awareness ที่ทำให้คนจดจำได้ง่ายดาย ทุกวันนี้พูดถึงชาตรามือทุกคนก็เห็นภาพในหัวชัดเจนว่าต้องเป็นกระป๋องแดงๆ มีรูปมือยกนิ้วโป้ง เรียกว่าไม่มีแบรนด์ไหนกล้าเทียบได้เลย

2.การต่อยอดธุรกิจที่ไม่ใช่แค่การขายส่งอย่างเดียวอีกต่อไป

tra3

ในยุคแรกคือการรับซื้อใบชามาผลิตชาแล้วส่งขายให้กับร้านค้าที่สนใจ จนเมื่อการตลาดโตขึ้นมาถึงทายาทรุ่นที่2และ3 พัฒนาการเรื่องการทำธุรกิจก็โตขึ้นเป็นลำดับ เดี๋ยวนี้ลองเดินไปดูในห้างสรรพสินค้าดังไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลลาดพร้าว เทอมินอล 21 , เดอะพรอมานาด ,เซ็นทรัลเวสเกต หรือแม้แต่ตามสถานีรถไฟฟ้า สนามบินดอนเมืองเราก็พบร้านเครื่องดื่มของชาตรามือที่มีเมนูหลากหลายไว้บริการลูกค้า

แม้ว่าร้านเครื่องดื่มเหล่านี้จะไม่ได้เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แก่บริษัท แต่การเปิดหน้าร้านนั้นทำให้สินค้าชาตรามือเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ผู้ดื่ม ถือเป็นการสร้าง Brand Awareness ที่ดีได้เช่นกัน

3.สินค้าใหม่อย่างซอฟต์ไอศกรีมและชากุหลาบมาแรงกว่าที่คิด

tra4

น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ว่าทำไมในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมากระแสของชาตรามือถึงกลับมาบูมอีกครั้ง ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมเมื่อมาต่อยอดผลิตภัณฑ์อย่างชากุกลาบและซอฟต์ไอศครีม ก็ทำให้คนสนใจยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมนูอย่างชากุหลาบที่มาพร้อมเทรนด์รักสุขภาพเป็นการเครื่องดื่มที่ช่วยในการขับถ่ายขานรับกับเทรนด์สาวๆที่อยากสวยหุ่นดีได้พอดิบพอดีทีเดียว

tra5

4.เรื่องของแพคเกจก็ออกแบบใหม่ให้สวยสะดุดตา

tra6

แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่แต่เมื่อคิดใหม่ทำใหม่ก็ไฉไลไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะเมนูขายดีอย่างชากุหลาบที่เปลี่ยนแก้วเครื่องดื่มให้เป็นลายกุหลาบไปซะเลย ทีนี้ก็ยิ่งอินเทรนด์เข้าไปใหญ่

5.กระแสไวรัลทำให้คนฮิตเร็วขึ้น

tra7

ยุคนี้เป็นการสื่อสารที่เร็วยิ่งกว่าจรวดอะไรที่ใครเห็นว่าดี อะไรที่ดูแล้วแปลกใหม่แค่ข้ามคืนเดียวก็สร้างยอดขายได้อย่างถล่มทลาย ชาตรามือก็เช่นกันที่ให้กลยุทธ์นี้ อันที่จริง ชาตรามือ แค่ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คนสนใจและเผอิญว่าเกิดกระแสแชร์ทั่วบ้านทั่วเมืองทีนี้สินค้าออกใหม่อย่างซอฟต์ไอศกรีมและชากุหลาบก็ทำให้คนกลับมาพูดถึงชาตรามือได้อีกครั้ง

จะว่าไปแล้วการเกิดปรากฏการณ์ชาตรามือที่กลับมาฮือฮาอีกครั้งก็ต้องให้เครดิตแก่ผู้บริหารที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 3 ที่สำคัญรู้จักการประยุกต์ใช้กระแสยุคใหม่ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ชาตรามือนั้นจะมีส่วนแบ่งในตลาดชาเมืองไทยกว่า 70-80% เรียกว่ามาเงียบๆ แต่กินเรียบทั้งวงการจริงๆ

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/ChaTraMue/

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด