7 สิ่งที่คนทำธุรกิจต้องเผชิญก่อนประสบความสำเร็จ

ว่ากันว่าความสุขของนักปีนเขาคือการได้ปีนไปยืนที่จุดสูงสุดของยอดเขา แต่ทว่าใครจะรู้เลยว่าระหว่างทางที่จะมาถึงยอดเขาได้นั้น นักปีนเขาเหล่านี้ ต้องเผชิญกับอะไร มามากมาย ถ้าเปรียบการปีนเขาเป็นการไต่เต้าในเวทีธุรกิจก็มีหลายคนที่มาเริ่มตรงจุดสตาร์ทบางคนเริ่มเดินหน้าแต่สุดท้ายคนประสบความสำเร็จกลับมีจำนวนไม่มากนัก

www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่าความสำเร็จเหล่านี้จำเป็นต้องแลกมาด้วยอะไรมากมายดังนั้นคนที่อยากเดินเข้าสายธุรกิจควรเรียนรู้ 7 สิ่งที่จำเป็นต้องเผชิญ จึงจะพบเจอกับความสำเร็จ การถ่ายทอดความรู้นี้มาจากงานเขียนของ SHERRIE CAMPBELL ซึ่งเขาเป็นนักจิตวทิยาทำงานที่ Yorba Linda, Calif. ร่วมถึงยังเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางธุรกิจให้กับหลายบริษัทด้วย

1.ความสำเร็จย่อมมาพร้อมกับความเครียด

ยิ่งถ้าเราเป็นนักธุรกิจที่เริ่มต้นจากคนธรรมดาไม่ใช่การต่อยอดจากธุรกิจที่สืบทอดต่อมาจากมรดกการเตรียมพร้อมรับมือในเรื่องความเครียดนั้นต้องมากกว่าคนอื่น 2-3เท่าตัว

คนที่เริ่มต้นคือคนที่ต้องลงทุนบางครั้งเรียกว่าเทหมดหน้าตักกับธุรกิจที่ตัวเองมั่นใจ ดังนั้นความคาดหวังย่อมมาคู่กับความเครียดเราต้องป้องกันเรื่องพวกนี้อย่าให้มากระทบกระเทือนถึงการทำงานได้และความจริงอีกข้อคือความผิดหวังที่เราต้องเจอนั้นมีแน่ หาวิธีจัดการอารมณ์เหล่านี้ได้ธุรกิจก็เริ่มต้นได้

2.ระยะเวลาในความสำเร็จที่ต้องรอคอย

ธุรกิจที่เปิดตัววันนี้ไม่มีทางสำเร็จได้กำไรมหาศาลในวันรุ่งขึ้นเป็นแน่ SHERRIE CAMPBELL กล่าวว่า ธุรกิจที่ไม่ว่าจะใหญ่ยักษ์หรือระดับโลกแค่ไหนต่างก็มีช่วงเวลาของตัวเอง อาจจะ 5 ปี 10 ปี

หรือบางธุรกิจก็มีมากกว่านั้น แน่นอนว่าระหว่างทางย่อมมีคำพูดเสียดสี แรงเสียดทานจากคนรอบข้าง การแข่งขันทางการตลาด และอีกหลายปัจจัยที่จะคัดสรรให้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นอยู่รอดได้ในเวทีธุรกิจนี้

3.เวลากับครอบครัวที่ต้องสูญเสียไป

ตัวอย่างก็มีให้เห็นจากหนังหรือภาพยนตร์จำนวนไม่น้อยกับการที่หัวหน้าครอบครัวก้มหน้าก้มตาทำแต่งาน บางคนบ้านช่องไม่กลับอยู่กินทำงานเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต

นั้นหมายถึงว่าความสัมพันธ์ของคุณกับคนในครอบครัวจะสั่นคลอนหากไม่มีการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ดี และถ้าคุณเป็นคนที่ตึงเกินไปสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องสุขภาพและมิตรภาพของครอบครัว ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรจัดสรรเวลาในเรื่องนี้ให้ดีทำงานให้เหมาะสมกับสมรรถภาพของร่างกายจะได้ประโยชน์ต่อธุรกิจมากกว่า

4.ต้องเผชิญกับคู่แข่งทั้งแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผย

เมื่อเป็นการแข่งขันย่อมต้องมีผู้เข้าร่วมแข่งขันแต่ในเวทีธุรกิจผู้แข่งขันของเรานั้นมีทั้งแบบที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว บางคนทำท่าทีเป็นมิตรแต่กลับพยายามล้วงความลับในการทำธุรกิจของเรา หรือบางคนก็เป็นคู่แข่งแบบเปิดเผยที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อตัดกำลังการแข่งขันของเราให้ลดน้อยถอยลง

ดังนั้นหากคุณจะเดินหน้าทำธุรกิจคุณควรจะมีมาตรการในการป้องกันสิ่งเหล่านี้ให้ดี คำว่าพันธมิตรจะเป็นสิ่งที่ช่วยได้มากแต่ปัญหาก็คือว่าเราจะหาพันธมิตรเหล่านั้นได้อย่างไรนั้นเป็นคำตอบที่คนทำธุรกิจต้องไปค้นหาให้เจอโดยเร็ว

5.ความรู้สึกเกลียดชังจากคนอื่น

ขึ้นชื่อว่าการทำธุรกิจย่อมมีผลกระทบถึงคนหลายคน ดูจากข่าวสารที่เกิดขึ้นในบ้านเราก็พอจะเข้าใจ หลายโครงการที่ทำท่าว่าจะเปิดตัวก็ได้รับการต่อต้านจากบางกลุ่มในขณะที่บางกลุ่มก็ให้การสนับสนุน

ซึ่งการต่อต้านหรือสนับสนุนนี้มองในอีกแง่อาจเป็นกลยุทธ์การตลาดจากฝั่งคู่แข่งหรืออาจเป็นจากคนที่เดือดร้อนหรือไม่เห็นชอบกับการทำธุรกิจของเราจริงๆ ดังนั้นโจทย์ที่สำคัญคือทำอย่างไรให้สังคมและคนรอบข้างรู้สึกต่อเราในแง่ลบให้น้อยที่สุดเพื่อลดแรงกดดันจากการทำธุรกิจที่จะไม่ทำให้เราต้องเครียดมากจนเกินไปด้วย

6.มีคำถามเกิดขึ้นกับตัวเองว่าเราทำเพื่ออะไร

อาจจะเรียกว่าเป็นอารมณ์ท้อแท้หรือว่าเหนื่อยล้า ในขณะที่บางธุรกิจกำลังเดินหน้าไปได้สวยงาม มีผลประกอบการที่ดีชนิดที่เรียกว่าหยุดทำตอนนี้ก็มีกำไรหรือขายต่อกิจการให้คนอื่นทำต่อก็มีเงินใช้สุขสบายไปตลอดชีวิต

แต่ส่วนใหญ่นักธุรกิจจะไม่คิดทำเช่นนั้นและยังมุ่งหน้าขยายกิจการต่อเนื่องให้เติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่จนบางครั้งคนรอบข้างแม้กระทั่งตัวเองยังถามตัวเองว่า ทำเพื่ออะไร ดังนั้นหากคิดจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในอนาคตให้เราเตรียมคำตอบนี้ไว้ในใจเพราะเราต้องนึกสงสัยตัวเองขึ้นมาในสักวันแน่นอน

7.ต้องเจอกับปัญหาและความล้มเหลวผิดพลาด

นี่คือเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต้องเรียนรู้ให้มากที่สุดไม่มีธุรกิจใดในโลกที่สวยหรูแบบไม่มีสะดุดไม่ว่าจะไมโครซอฟ บิลเกตส์ มาร์ค ซัลเคิลเบิร์ก หรือธุรกิจอื่นใดก็ตามแต่มีช่วงเวลาที่เลวร้ายในการทำธุรกิจทั้งสิ้น ต่างโจทย์ต่างปัญหาต่างปัจจัยแต่ที่แน่ๆคือเราจะทำอย่างไรที่จะหลุดพ้นจากปัญหาเหล่านั้น

จะทำอย่างไรที่จะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส จะทำอย่างไรให้เราเดินหน้าต่อไปได้แบบที่เสียหายจากความผิดพลาดน้อยที่สุด เรื่องเหล่านี้ไม่มีบทเรียนจากตำราไหนที่สรุปวิธีแก้ปัญหาได้ถูกต้อง นักธุรกิจต้องเรียนรู้ ต้องเผชิญและแก้ปัญหาทุกอย่างเอง ถ้าทำได้โอกาสสำเร็จก็มีมากภูมิคุ้มกันทางธุรกิจก็จะยิ่งมาก ความแข็งแกร่งก็จะมากตามไปด้วยเช่นกัน

เราจะเห็นได้ว่าเส้นทางของความสำเร็จนั้นไม่สามารถโรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่มีเส้นทางที่สวยงามและแสนสบาย จะลำบากมากลำบากน้อยก็ต้องเผชิญกับเรื่องเหล่านี้แทบทั้งสิ้นอยู่ที่วิธีการจัดการ

อยู่ที่ระบบบริหารจัดการ อยู่ที่ความสามารถของผู้ประกอบการเป็นหลัก การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากคือทำอย่างไรให้อยู่รอดแบบมีคุณภาพทั้งนี้แรงบันดาลใจ ความรู้คือสิ่งที่สำคัญจำเป็นที่ต้องมีและรู้จักนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็นด้วย

และสำหรับท่านใดที่ทำธุรกิจแล้วเกิดปัญหาหรือใครที่เพิ่งเข้ามาในแวดวงนี้แล้วประสบปัญหาเรามีกำลังใจดีๆไว้เป็นแรงผลักดันในการทำธุรกิจสามารถเข้ามาเลือกดูเพิ่มเติมพลังใจกันได้ ดูรายละเอียดที่ goo.gl/EPBZeY

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/oJTphR

ขอบคุณภาพจาก freepik.com