โอโห้! “เบอร์เกอร์เทรลเลอร์” เจ้าแรกในไทย เที่ยวไป ขายไป ยอดขายวันละ 35,000 บาท

OHO Burger พิษโควิดต้องปิดกิจการ 4 สาขา ปรับตัวสู่โมเดล “สัญจร” ออกบูธน็อคดาวน์ธตามต่างจังหวัด หาลูกค้าใหม่ๆ ตั้งตามห้าง 6 เดือน 22 แห่ง ผลตอบรับดี แต่รายรับเท่ากับรายจ่าย ไม่ไปต่อจำใจต้องเลิกขาย

เบอร์เกอร์เทรลเลอร์

แต่ไม่ท้อปลุกพลังสู้ใหม่อีกครั้ง ปิ๊งไอเดีย “เบอร์เกอร์เทรลเลอร์” เที่ยวไป ขายไป เดินทางทั่วประเทศกว่า 7,741 กิโลเมตร ด้วยยอดขาย 3.5-3.6 หมื่นบาทต่อวัน เตรียมขายแฟรนไชส์ 19 คันทั่วประเทศ ลงทุนเบื้องต้น 2.5 ล้านบาท

จุดเริ่มต้น “เบอร์เกอร์เทรลเลอร์”

เบอร์เกอร์เทรลเลอร์

คุณเจมส์ – พิจักษณ์ นิลสุทธ์ เจ้าของร้าน OHO Burger เบอร์เกอร์เทรลเลอร์เจ้าแรกของไทย เปิดเผยว่า ตนเองมีประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากว่า 7-8 ปี หลังจากนั้นได้เปิดร้านขายเบอร์เกอร์มาตั้งแต่ปี 2561 ขยายสาขาแบบแฟรนไชส์มาเรื่อยๆ

จนกระทั่งปี 2563 มี 4 สาขา นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย และ พิษณุโลก พอเกิดการระบาดโควิดทำให้ต้องปิดกิจการ จากนั้นเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจมาเป็นการออกบูธสัญจร ตั้งตามห้างในต่างจังหวัดกว่า 22 แห่ง ได้ผลตอบรับดี แต่ปัญหาเรื่องต้นทุนรายรับ รายจ่าย ค่อนข้างสูสีกัน พอขายได้แต่สุดท้ายต้องหยุดพักไว้ก่อน

เบอร์เกอร์เทรลเลอร์

พอทุกอย่างคลี่คลาย ประกอบกับมีข้อมูลจากการออกบูธ 22 ครั้ง นำเอามูลตรงนั้นมาปรับโมเดลธุรกิจใหม่อีกครั้ง เป็นร้านแบบเทรลเลอร์ “เที่ยวไป ขายไป” เพราะตนเองอยากเที่ยว อยากดูแลแม่ อยากทำงาน อยากขายของกินไปพร้อมๆ กัน

หลังจากนั้นได้ปรึกษาแฟนช่วยกันหาเงินทำโมเดลนี้ เกิดปัญหาเงินที่หามาได้ไม่พอซื้อเทรลเลอร์ วันที่ 29 ส.ค. 2565 จึงวิ่งหาอู่มีเทรลเลอร์ให้เช่า อู่ใจดีให้เช่า Trailer Ccmc ค่าเช่าเดือนละ 45,000 บาท ค่าต่อพ่วงลาก 10,000 บาท รวมเป็น 55,000 บาท ระยะเวลาเช่า 6 เดือนโดยเปิดขายที่แรกปั๊มน้ำมันบางจาก (สหกรณ์การเกษตร) จังหวัดอุทัยธานี

ปรากฏว่ามีลูกค้ามายืนต่อแถวรอตั้งแต่ 08.00 น.เกือบ 50 คน คุณเจมส์และแฟนรู้สึกตื่นเต้นมากเริ่มจัดร้านให้พร้อมขาย เริ่มรับออเดอร์ 15 นาทีรับไป 66 บิล คำนวณดูแล้วว่าทำไม่ทันแน่ จึงปิดรับและเปิดรับอีกที่รอบ 2 เวลา 15.00 น. สรุปบิลที่ 66 ทำเสร็จตอน 14.55 น ซึ่งมีเวลากินข้าวเพียง 5 นาทีที่จะเปิดรอบที่ 2

คุณเจมส์ เล่าว่า OHO Burger โมเดลรถเทรลเลอร์ ได้ครบรอบการทำธุรกิจ 1 ปีไปแล้วเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 โดยที่ผ่านมามีข้อมูลการเดินทางไปขายเบอร์เกอร์ทั่วประเทศเบื้องต้น จำนวนครั้ง 50 ครั้ง สถานที่ 40 ที่ ระยะทาง 7,741 กิโลเมตร น้ำมัน 2,624 ลิตร จำนวนลูกค้า 17,544 คน จำนวนวันที่ขาย 217 วันจาก 365 วัน

สำหรับจังหวัดไปขายหลายรอบที่สุด เช่น ลพบุรี อุทัยธานี สระบุรี อ่างทอง เพราะยอดขายดี การขายในแต่ละวันแต่ละที่บางครั้งจำกัดแค่ 100 บิลต่อวัน ขายแค่ 500 คน ราคาขายแฮมเบอร์เกอร์เริ่มต้น 79-450 บาท เฉลี่ยขายลูกค้า 500 ชิ้น วันละ 100 บิล คน 1 บิลกี่ชิ้นก็ได้ สูงสุดที่เคยมีมา 88 ชิ้นต่อบิล

“การทำธุรกิจแบบนี้ต้องวิเคราะห์โมเดลอาหารของตัวเองก่อน ประกอบกับพฤติกรรมคนไทยไม่กินเบอร์เกอร์ชิ้นละ 200 บาทขึ้นไป แต่โอโห้ขาย 200 บาทขึ้น คนไทยไม่กินของแบบนี้ทุกวัน จึงต้องเดินสายขายพื้นที่ใหม่ๆ” คุณเจมส์ กล่าว

เตรียมขายแฟรนไชส์ 19 คันทั่วประเทศ

คุณเจมส์ เล่าว่า OHO Burger เตรียมขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ วางโมเดลการเติบโตแบบขายพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่ที่ไปขายไม่มีจังหวัดไหนขายไม่ได้เลย ได้กำไรทุกที่ หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว วางแผนไว้ที่ 19 คันทั่วประเทศ

โดย 1 คันจะครอบคลุมพื้นที่ขาย 4-5 จังหวัด ผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถเปิดขายในพื้นที่อำเภอได้ด้วย งบการลงทุนเบื้องต้น 2.5 ล้านบาท/คัน รวมวัตถุดิบอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมขาย ระยะคืนทุนประมาณ 6 เดือน ใช้พนักงาน 3-4 คน

สำหรับยอดขาย “เบอร์เกอร์เทรลเลอร์” จากการขายมาทั้งหมด 217 วัน เฉลี่ยยอดขายอยู่ที่ 3.5-3.6 หมื่นบาท/วัน โดยทำเลส่วนใหญ่เป็นปั้มน้ำมัน ปตท. เวลาลูกค้าซื้อแล้วมักจะเข้าร้านกาแฟอเมซอน รวมไปถึงห้างโลตัสตามอำเภอต่างๆ โดยปัญหาของการทำธุรกิจโมเดลใหม่ คือ สุขภาพร่างกาย เจ็บไข้ได้ป่วย และสภาพอากาศ ฝนตก แดดร้อน

ส่วนช่วงเวลาในการเปิดขายแฟรนไชส์ คุณเจมส์เล่าว่า ต้องรอก่อน ตนเองยังขาดประสบการณ์และไม่มีความรู้เรื่องแฟรนไชส์ เพราะช่วงก่อนหน้านี้เคยเปิดร้านสแตนอโลนแรกๆ เคยทำมาแล้ว ขายสะเต๊กด้วย พอขาดความรู้ ก็จะมีปัญหาตามมาเรื่อยๆ ประกอบกับคู่ค้า ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่เข้าใจตรงกัน ต่างคนต่างไปหาความรู้ใหม่ๆ มาทำ เลยเกิดปัญหาขึ้น ร้านค่อยๆ ปิดไป จึงอยากหาความรู้ในเรื่องสร้างระบบแฟรนไชส์เสียก่อน เพื่อให้แฟรนไชส์ซีเติบโตไปด้วยกัน

เที่ยวไป ขายไป โมเดลหาลูกค้าใหม่ๆ

คุณเจมส์ เล่าต่อว่า แนวทางการบริหารธุรกิจขายเบอร์เกอร์โมเดล “เที่ยวไป ขายไป” คือ ได้ใช้ชีวิต ไปเที่ยว ได้รู้จักคนใหม่ๆ ได้คอนเน็คชั่น แนวทางการทำธุรกิจจริงๆ อยากไปเสิร์ฟความอร่อยให้ลูกค้าทั่วประเทศ อยากให้เแบรนด์เบอร์เกอร์ของคนไทยดังไปทั่วโลก ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมาตรฐาน เบอร์เกอร์ทำสดใหม่ทุกชิ้น ลูกค้าได้เห็น ได้กลิ่นอยู่ตลอด

“ชื่อ OHO แค่อยากให้ลูกค้าเวลาเห็นอะไร ร้อง ว้าวว โอโห้เบอร์เกอร์ใหญ่มาก เป็นคำอุทานของคนธรรมดา เพราะหลายๆ ครั้งเวลาลูกค้าเห็นเบอร์เกอร์ที่เราทำ พอได้เห็นมักจะร้องโอ้โฮออกมาเหมือนกัน” คุณเจทส์ กล่าว

ภาพจาก www.facebook.com/OHOburger18

เมื่อถามว่าทำไมลูกค้าต้องควักเงินซื้อเบอร์เกอร์ราคาแพงๆ คุณเจมส์ บอกว่า อาจมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทย อยากลองของใหม่ๆ ของใหญ่ๆ ตรงปก ความแปลกใหม่ ส่วนลูกค้าที่ซื้อซ้ำเพราะคุณภาพของสินค้า มีความอร่อยเบอร์เกอร์เหมือนเดิมทุกครั้ง ที่สำคัญมีความเป็นมาตรฐานรสชาติดี ชิ้นใหญ่กว่าเบอร์เกอร์ทั่วๆ ไป

“คนที่อยากทำธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ ต้องรู้จักโปรดักส์ของตัวเองก่อน ศึกษาทำความรู้จักลูกค้าของตัวเอง ต้องรู้ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร พฤติกรรมของลูกค้าที่จะซื้อสินค้าเราเพราะอะไร เพื่อต่อยอดธุรกิจของเรา นำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำสินค้าออกมาแล้วสามารถขายได้เลย” คุณเจมส์ กล่าวในตอนท้าย

ติดตาม โอโห้เบอร์เกอร์ ” เบอร์เกอร์ของคนไทย คลิก https://www.facebook.com/OHOburger18


เจ้าของธุรกิจ หรือผู้สนใจทำแฟรนไชส์ สนใจรับคำปรึกษาวางระบบแฟรนไชส์ คลิก https://bit.ly/3MAqgPI
เจ้าของธุรกิจสนใจบริการจดเครื่องหมายการค้าแฟรนไชส์ คลิก https://bit.ly/3My1RtT

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช