ความสวยรอไม่ได้! รวม 5 แฟรนไชส์ความงาม น่าลงทุนแห่งปี 2023

มูลค่าตลาดความงามคาดการณ์ว่าจะสูงถึง 1.31 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 หมายความว่าอัตราการเติบโตในธุรกิจนี้เขย่งก้าวกระโดดมากอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ในช่วงระหว่างปี 2565-2573 อยู่ที่ 9.7% แน่นอนว่าเทรนด์ความงามยุคนี้ต้องเหมารวมเรื่องสินค้าเพื่อสุขภาพเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่ามีหลายคนที่เห็นมองเห็นโอกาสเติบโตในธุรกิจนี้และอยากเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ความงามที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเราได้เลือกมา 5 แฟรนไชส์ที่ล้วนแต่น่าสนใจทั้งนั้น

1.บิวตี้เซ็นเตอร์ (บีโค้) 

แฟรนไชส์ความงาม

ภาพจาก บิวตี้เซ็นเตอร์ (บีโค้)

บิวตี้เซ็นเตอร์ (บีโค้) เริ่มธุรกิจตั้งแต่ปี 2548 ถือว่ามีประสบการณ์ในด้านธุรกิจความงามมายาวนาน จุดเด่นที่น่าสนใจคือเป็นแฟรนไชส์ออนไลน์ขายครื่องสำอางความสวยงามทุกชนิด ซึ่งนอกจากการลงทุนแบบออนไลน์ผู้สนใจยังสามารถเลือกลงทุนแบบมีหน้าร้านได้ด้วย โดยมี 3 รูปแบบลงทุนคือ

  • เปิดร้านขายเครื่องสำอางบนออนไลน์ งบลงทุน 19,900 บาท
  • เปิดหน้าร้าน แบบบูธร้านเครื่องสำอาง 1+ได้เว็บประจำร้านฟรี ลงทุน 39,000 บาท 
  • เปิดหน้าร้านสาขาพร้อมระบบจัดการร้านค้ามาตรฐานภายใต้ชื่อ BCO หรือชื่อร้านที่ต้องการ งบลงทุนขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ เริ่มต้นที่ 30,000 บาท

สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือเว็บไซต์พร้อมระบบซื้อขายเต็มรูปแบบ ภายในมีสินค้าความงามครบทุกความต้องการ ซึ่งผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องจัดส่งสินค้าเอง ถ้ามีคนสนใจสินค้ามีทีมงานพร้อมจัดส่งให้ในชื่อของผู้ลงทุน ถือเป็นสุดยอดการลงทุนในธุรกิจความงามที่พร้อมสร้างรายได้จากหลายช่องทาง

และมีการอัพเดทสินค้าและบริการใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง เหมาะสมกับการลงทุนในยุคใหม่ พร้อมคืนทุนไว กำไรเร็ว ทำได้ทั้งอาชีพหลักและทำเป็นอาชีพเสริม เป็นอีกแฟรนไชส์ที่ได้รางวัลการันตีคุณภาพ ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศจำนวนมาก

บิวตี้เซนเตอร์ (บีโค้) 
สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก 
https://bit.ly/40Q0zPC
โทร.081-9871422, 080-9071389


2.อายตานิค บิวตี้แคร์

แฟรนไชส์ความงาม

ภาพจาก อายตานิค บิวตี้แคร์ 

อายตานิค บิวตี้แคร์ เริ่มธุรกิจตั้งแต่ปี 2551 ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งแฟรนไชส์เครื่องสำอางสร้างอาชีพ โดยมีโรงงานผลิตเครื่องสำอาง, สกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตสากล จึงสามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ต่อผู้บริโภคได้ตรงจุดและมั่นใจได้ในคุณภาพผลิตภัณฑ์ และยังมีอีกหลายบริการด้านความงามทั้งการทรีทเมนต์ , คอร์สดูแลผิวพรรณ

ทั้งนี้ ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 199,900 บาท สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือการฝึกอบรมความรู้ในด้านผลิตภัณฑ์และมาตรฐานการให้บริการ , การส่งเสริมด้านการตลาด , การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลสนับสนุนผู้ลงทุนเป็นอย่างดี

ข้อดีของการลงทุนกับอายตานิค บิวตี้แคร์คือผู้ลงทุนได้กำไรตั้งแต่ขั้นแรก ด้วยการสนับสนุนสินค้าเปิดร้านมูลค่า 150,000 บาท ถือเป็นแฟรนไชส์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ไม่มีค่ารายเดือน ไม่หักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย เป็นแฟรนไชส์ความงามที่มีการขยายสาขาทั่วประเทศกว่า 351 แห่ง มีโอกาสที่จะเติบโตและสร้างรายได้จากธุรกิจนี้ได้อีกมาก

ชิบะ ฮอกไกโด มิลค์ทีอายตานิค บิวตี้แคร์ 
สนใจลงทุน คลิก 
https://bit.ly/3ZZIyhE
โทร. 081-0053726, 085-1956217, 087-4749977


3.จันทร์สว่าง

ภาพจาก facebook.com/chansawangthailand

“จันทร์สว่าง” ให้บริการดูแลผิวพรรณบนใบหน้าและเรือนร่าง โดยมีผู้ให้คำปรึกษาแก่กลุ่มบุคคลทั่วไป หรือผู้สนใจที่มีปัญหาด้านผิวพรรณด้วยสมุนไพร ปัจจุบันมีศูนย์ความงามจันทร์สว่างที่เปิดบริการกว่า 500 ศูนย์ฯ ทั่วประเทศและต่างประเทศ เป็นแฟรนไชส์ที่ลงทุนน้อย คืนทุนเร็ว ไม่เสี่ยง

การลงทุนเริ่มต้น 99,000 (แพคเกจC) มีโอกาสสร้างรายได้ไม่จำกัดถึง 5 ช่องทางคือ รายได้จากค่าคอมมิชชั่นสินค้า , ค่าบริหารสายงาน , รับสิทธิโปรโมชันสินค้ารายเดือน , กองทุนท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ , ค่าบริการภายในศูนย์

โดยก่อนเริ่มธุรกิจผู้ลงทุนจะได้รับการฝึกอบรมการทำธุรกิจ 3 วัน พร้อมฝึกปฏิบัติก่อนเปิดร้านจริง 30 – 60 วัน รวมถึงการตกแต่งภายในศูนย์ , การส่งเสริมด้านการตลาด , การพัฒนาสินค้าใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศจนำวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้ผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางแฟรนไชส์ได้


4.ชาร์เมอคลีนิก

แฟรนไชส์ความงาม

ภาพจาก facebook.com/charmerclinic2you

ชาร์เมอคลีนิก ก่อตั้งในปี 2556 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นคลินิกความงามที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย ราคาไม่แพง บริการดี มีคุณภาพ มีหลากหลายบริการอย่างครบวงจรเช่น โบท็อก ปรับรูปหน้า , บาร์บี้อาย , โปรแกรมรักษาสิวหลัง , ฟิลเลอร์ เป็นต้น โดยชาร์เมอคลีนิกให้ความสำคัญกับงานบริการอย่างมาก เน้นการคัดเลือกตัวยาที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย

ใช้งบในการลงทุน 3 – 6 ล้านบาท (แล้วแต่ขนาดพื้นที่) ระยะเวลาคืนทุน 1 – 2 ปีโดยขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ จุดเด่นที่น่าสนใจของ ชาร์เมอคลีนิก ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มีการเทรนด์และดำเนินการให้ครอบคลุมทุกด้านโดยมีคอร์สอบรม 3 ระดับ คือ การเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด และเครื่องมือต่าง , การฝึกทำทรีทเมนต์และการดูแลเครื่องมือ , .การวิเคราะห์

แนะนำผิวหน้าให้เหมาะกับลูกค้า รวมถึงการฝึกสอน ด้านการตลาดออนไลน์ใน ช่องทางต่างๆ เช่น Facebook , google,website ก่อนจะเริ่มดำเนินธุกิจ ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ได้รางวัลการันตีคุณภาพจากหลายสถาบัน ให้ลูกค้าเชื่อมั่นในประสิทธิภาพที่พร้อมสร้างกำไรให้ผู้ลงทุนได้อย่างสูงสุด 


5.McFin Skincare

แฟรนไชส์ความงาม

ภาพจาก facebook.com/mcfinskincare

เป็นธุรกิจด้านความงามที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2548 ให้บริการครบวงจรทั้งการจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์ McFIN โดยมีโรงงานผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างตรงจุด และมีบริการด้านทรีตเม้นต์ ดูแลผิวหน้าด้วยเครื่องมือ , วิตามิน และศาสตร์ดูแลผิวที่เป็นสูตรเฉพาะ ความน่าสนใจคือซื้อ 1 แฟรนไชส์จะได้ถึง 3 ธุรกิจคือ

  • ศูนย์ให้บริการทรีตเม้นต์ผิวหน้า 
  • เคาน์เตอร์สกินแคร์ครีมดูแลผิว
  • ศูนย์ดูแลปัญหาสิวโดยเฉพาะแบบครบวงจร

ทางบริษัทฯ เปิดให้ผู้สนใจจองสิทธิลงทุนเพียง 5,000 บาท งบลงทุนหลักแสน แต่ให้กำไรหลักล้าน คืนทุนเร็ว ผลตอบแทนเกินครึ่ง แถมไม่ต้องจ่ายรายปี เป็นแบรนด์ที่มีรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย และมีทีมงานสนับสนุนให้คำปรึกษาทั้งการจัดหาพนักงาน , การช่วยหาลูกค้า , ทำการตลาด ,การวางระบบบริหารจัดการในร้าน เป็นต้น ในยุคที่ความสวยงความงามคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ การเลือกลงทุนกับ McFin Skincare จึงน่าสนใจมาก

สิ่งสำคัญของการลงทุนในธุรกิจความงามแม้ความต้องการของลูกค้ามีเยอะมาก แต่เราต้องไม่ลืมคุณภาพสินค้าและบริการที่ดีที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ อีกทั้งเรื่องการตลาดในยุคโซเชี่ยลก็เป็นเคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ผู้ลงทุนควรศึกษาความต้องการและจับกระแสความนิยมลูกค้าให้ได้เพื่อจะได้ก้าวเป็นผู้นำ ที่หมายถึงโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้นด้วย

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://citly.me/x1WyV https://citly.me/CpvaM , https://citly.me/sOA97

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด