Wendy’s มาพร้อมกับการคิดค้นครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 50 ปี!
เมื่อเดือน กันยายนที่ผ่านมา หุ้นของตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ได้ตกลงถึง (-9.2%) แต่อาจจะมีเพิ่มบ้างเล็กน้อยประมาณ 4% ในเดือนตุลาคม
ซึ่งจากที่กล่าวมาข้างต้นดูเหมือนว่า Wendy’s กำลังเสียสละผลกำไรระยะสั้นในการเปิดตัวอาหารเช้าอีกครั้งซึ่งอาจจะไม่ได้ผล เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในด้านของการตลาด ดังนั้นเรามีดูกันว่า Wendy’s จะเตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้อย่างไรบ้าง
โดยบริษัทได้เปิดตัวยอดขายในร้านอาหารเดียวกันในอเมริกาเหนือ ในไตรมาสที่สามที่เติบโตขึ้น 4.4% และเงินปันผลเพิ่มขึ้น 20% โดย Penegor ก็ได้กล่าวว่า
“ถึงเวลาแล้วที่ Wendy’s จะต้องตระหนักถึงความเสี่ยงในขณะนี้ว่ามีร้านอาหารจำนวนมากที่ได้รับการออกแบบใหม่และลูกค้ากำลังเยี่ยมชมบ่อยขึ้น” โดย Penegor ก็ได้บอกกับ Yahoo Finance อีกว่า “เราพยายามจะพัฒนาบริษัทให้มีการเติบโตที่น่าดึงดูดใจ ซึ่งเราคิดอยู่นานแล้วว่า เราควรที่จะเริ่มดูองค์ประกอบในธุรกิจทั้งหมดของเรา
ภาพจาก yhoo.it/2MNPquq
ซึ่งเรามีร้านอาหารและแฟรนไชส์ใหม่กว่า 50% อีกทั้งเรายังมีมุมมองต่อธุรกิจของเราในระยะยาว จนเรามีเสียงทางสังคมที่ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่ง จากนั้นเราก็ได้ร่วมมือกับชุมชนแฟรนไชส์ตั้งแต่วันแรกเพื่อให้แน่ใจว่า พวกเขาจะสามารถช่วยเราเรียนรู้จากสิ่งที่เราเคยทำในอดีต
และเรามีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถใช้งานได้ นั้นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงลงเอยด้วยเมนูอาหารเช้าที่เรียบง่ายแบบนี้ โดยในไตรมาสแรกของเรา เราสามารถรับเมนูอาหารเช้าได้ถึง 6% – 8% จากยอดขายทั่วทั้งระบบของเรา เราเชื่อว่าเมนูอาหารเช้าของเราจะสามารถเพิ่มยอดขายขึ้นได้มากขึ้นอีกถึง 10%”
“โดยทีมการตลาดของเรานั้นสามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการสร้างสื่อกระแสหลักอย่างโซเชียลมีเดียในการทำให้ผู้คนได้รู้จักและมีบทสนทนามากมายเกี่ยวกับอาหารเช้านี้ และเราสามารถที่จะเปลี่ยนความสนใจนั้นโดยสร้างเมนูอาหารใหม่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา” เขากล่าว
“ในการเปิดตัวอาหารเช้าอื่นๆ เราต้องทดสอบในระดับภูมิภาคซะก่อน โดยเราจะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทั้งหมดที่มี โดยจะใช้ SKU (หน่วยวัดประเภทสินค้าที่เล็กที่สุดในระบบคลังสินค้า ซึ่งช่วยแยกความแตกต่างของสินค้าประเภทเดียวกันที่มีความแตกต่างกัน) และรูปแบบของการทำแซนวิชเป็นฐานในการผลิตสินค้าตัวใหม่ นั้นทำให้เราสามารถทำออกมาโดยง่าย อีกทั้งยังมีรสชาติที่อร่อยอีกด้วย”
ภาพจาก yhoo.it/2MNPquq
Sozzi ได้กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นที่ ชุมชนนักวิเคราะห์ของทาง Wall Street ได้กล่าวว่า อาหารเช้านั้นเป็นสิ่งล่อตาล่อใจสำหรับ Wendy’s ถูกต้องไหม?” ซึ่ง Penegor ก็ได้ตอบกลับมาว่า “มันไม่ใช่อะไรขนาดนั้น เพียงแต่เราสามารถผลิตเมนูอาหารเช้าได้ตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้นเราจึงสามารถสร้างรูปแบบของมันใหม่
เมื่อคุณคิดถึงเมนูที่ง่ายต่อการฝึกอบรมสำหรับพนักงานและผู้ที่อยากจะมีส่วนร่วมในการทำงาน และถ้าในเมื่อเราอยากที่จะก้าวไปข้างหน้าและจ้างคนกว่า 20,000 คน ในการทำงาน ดังนั้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำให้ไขว้เขวเลยสักนิด” เขาตอบ
Sozzi ได้ถามอีกว่า “คุณได้นึกถึงปัญหาในการจ้างงานกว่า 20,000 คน ในการผลิตอาหารเช้าท่ามกลางตลาดแรงงานที่คับคั่งนี้หรือไม่?” โดยเขาก็ได้ตอบกลับมาว่า “ก็จริงอยู่ที่ว่ามีทางเรามีพนักงานเป็นจำนวนมาก แต่คุณก็สามารถผลัดเปลี่ยนคนเข้ากะได้ โดยกะเช้าวันนั้นจะมาถึงเวลา 5.30 น. เตรียมพร้อมสำหรับเวลา 6.30 น.
และสามารถออกจากร้านอาหารได้ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 11 โมงเช้า มันเป็นคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนจำนวนมากที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขา เรามีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่จากคณะกรรมการของเรา เรามีการจัดวางระบบอย่างเต็มรูปแบบกับเหล่าบรรดาทีมผู้นำ และเรามีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่จากชุมชนแฟรนไชส์
ภาพจาก yhoo.it/2MNPquq
ดังนั้นภายในแนวทางที่เราให้ไว้มันชัดเจนแล้วว่า เราจะลงทุนในเงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า เราจำเป็นต้องมีเงินทุนที่เพิ่มมากขึ้นบางส่วนจากมุมมองของบริษัทเพราะ เราจะไม่รวบรวมเงินทุนโฆษณาและค่าลิขสิทธิ์ที่เพียงพอ โดยเราคิดว่า เราจะอยู่การแข่งขันในระยะยาว ซึ่งสิ่งนี้เราคิดว่า มีส่วนต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเราเข้าสู่ภายในอีก 3 ปี ข้างหน้า”
ซึ่ง Sozzi ก็ได้ถามอีกว่า “คุณได้จัดสรร ต้นทุนรวมสำหรับการเปิดตัวในเมนูอาหารเช้าอย่างไรบ้าง?” โดย Penegor ก็ได้ตอบคำถามนี้ว่า “ในปี 2019 เราได้ระดมทุนจากการฝึกอบรมและการจ้างงานกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากคุณได้เห็นไตรมาสที่เราได้นำเสนอไปนั้น
คุณจะเห็นว่า ในช่วงปี 2020 เราระดมทุนได้น้อยกว่า 20 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถทำเงินได้ในระดับบริษัทที่เราตั้งไว้ แต่เรากำลังจะทำเงินในระดับร้านอาหารแทน และในปี 2021 เมนูอาหารเช้าของเราก็จะเพิ่มขึ้นมาตามกระแสรายได้ของบริษัท”
Sozzi ได้ถามต่อว่า “แล้วถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าคู่แข่งของคุณจะตอบสนองต่อเมนูอาหารเช้าที่คุณเพิ่มขึ้นมาอย่างไร?” เขาตอบว่า “เราคาดการณ์ไว้แล้วว่า อาจจะมีการแข่งขันกันในระดับสูง เราสามารถสร้างเมนูเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะมีกำไรขั้นต้นที่ดี แต่เรายังไม่สามารถเพิ่มส่วนลดจำนวนมากได้จากการตอบรับการแข่งขัน
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีปฏิทินการส่งเสริมการขายอย่างหนัก เพื่อรับคนเข้าเยี่ยมชมสำหรับเมนูอาหารเช้าของเรา และเราต้องการให้พวกเขามาทดลองชิมเมนูอาหารเช้าของเรา ดังนั้นเราจึงวางแผนสำหรับการตอบสนองต่อการแข่งขันที่แข็งแกร่ง และเรามั่นใจว่าพวกเขาจะต้องเตรียมรับมือกับสิ่งนี้เป็นแน่ ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นความท้าทายสำหรับพวกเรา”
อีกทั้งเขายังกล่าวเสริมต่ออีกว่า “เราทำงานหลายอย่างในต้นปี เพื่อปรับปรุงความสอดคล้องกับความต้องการของเราและลูกค้า และเราเองก็เริ่มที่จะเล็งเห็นถึงผลประโยชน์เล็กน้อยจากส่วนนั้น
เมื่อเราเอา นักเก็ตไก่รสเผ็ด ออกมาวางจำหน่ายอีกครั้ง เราจะเห็นได้ว่า มียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเรายังมีความต้องการอย่างมากสำหรับเมนูในรายการอาหารต่างๆของเรา โดยเราจะมีแซนวิชไก่ jalepeno ที่จะมุ่งเน้นไปที่แซนวิชไก่รสเผ็ด”
ภาพจาก bit.ly/2Bm4JFx
“ซึ่งนั้นก็หมายความว่าคุณกำลังจะเข้าสู่ตลาดในยุโรปอีกครั้งใช่ไหม?” Sozzi ถาม “คิดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เราอาจจะเข้าสู่บริษัทในตลาดยุโรป เรารู้ว่าเราต้องหาตลาดเฉพาะทาง ดังนั้นแล้ว เราคิดว่าเราจะไปที่สหราชอาณาจักรก่อน โดยในช่วง 2-3 ปีแรก เราจะดำเนินการลงทุนล่วงหน้าโดยการเปิดร้านอาหารของบริษัทมากกว่า 20 แห่ง
ดังนั้นเราต้องการแสดงให้เห็นว่า เราสามารถควบคุมแบรนด์และข้อเสนอเหล่านั้นได้ จากนั้นก็ทำการสรรหาแฟรนไชส์ เพื่อช่วยสร้างตลาดในสหราชอาณาจักรอย่างเร่งด่วน
เราต้องการแสดงให้เห็นว่า เราสามารถควบคุมแบรนด์และข้อเสนอเหล่านั้นได้ เรามีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากทั่วยุโรปโดยเฉพาะทางสื่อออนไลน์อย่าง twitter ซึ่งเรากำลังมองหาพันธมิตรรายใหญ่อยู่ เพื่อที่จะช่วยสร้างแบรนด์ของเราให้ก้าวหน้าขึ้นในสหราชอาณาจักรในยุโรป”
โดย Sozzi ก็ได้ถามอีกว่า “Wendy’s นั้นอยู่ห่างจากการเปิดตัวในประเทศจีนไกลแค่ไหน?” ซึ่ง Penegor ก็ได้ตอบกลับมาว่า “นั้นอาจจะไกลเกินไปหน่อยสำหรับเรา เห็นได้ชัดว่าที่จีนเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพมากมาย แต่เราก็ได้มุ่งเน้นไปที่การปรับกลยุทธ์ในตลาดหลักของเรา
ซึ่งเราค่อนข้างจะทำมันได้ดีพอสมควร จากนั้นเราก็จะขยายธุรกิจระหว่างประเทศของเราเข้าสู่สหราชอาณาจักรและยุโรปก่อน ซึ่งรวมถึงแคนาดาที่เป็นร้านอาหารมากกว่า 900 ร้าน และยอดขายกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งภายในปี 2567 เราคาดเดาว่า อาจจะมีร้านอาหารเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,500 แห่ง และยอดขายเพิ่มถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ก็เป็นได้”
Sozzi ได้ตอบว่า “ดูเหมือนว่า Wendy’s จะมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย และดูเหมือนว่าจะเป็นบริษัทที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง” โดย Penegor ก็ได้บอกว่า “Wendy’s คิดว่า เรามีความกล้าหาญมากพอที่จะสร้างเรื่องราวกับเจริญเติบโตที่น่าดึงดูดใจ
โดยเราสามารถเพิ่มคุณภาพอาหารของเราได้ เราสามารถเพิ่มประสบการณ์การบริการและร้านอาหารของเราต่อไปได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคือองค์ประกอบหลักทั้งหมดของเรา อีกทั้งเรายังมีงบดุลและกระแสเงินสดที่เพียงพอ”
ภาพจาก yhoo.it/2MQp9f9
“แล้วถ้าอย่างนั้นคุณมีแผนการตลาดเกี่ยวกับตลาดดิจิทัลอย่างไร” Sozzi ถาม “เราได้ประกาศว่า เรากำลังจะเข้าสู่การสั่งซื้อด้วยเสียงของ google แต่เราก็กำลังทำงานอยู่บนพื้นฐานต่างๆมากมาย
เราสามารถทำให้การใช้งานแอปพลิเคชั่นของเราใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเราเพิ่งสั่งซื้ออุปกรณ์พกพาในทุกระบบ เรามีการครอบคลุมการส่งมอบมากกว่า 80% ของร้านอาหารของเรา ดังนั้นตอนนี้เรากำลังผลักดันการรับรู้เพื่อให้ผู้คนได้ใช้งาน” Penegor ตอบ
โดยเขาก็ได้กล่าวเสริมอีกว่า “ประมาณ 2% ของยอดขายของเราในปัจจุบันมาจากระบบดิจิตอล เราคิดว่า มันอาจจะเพิ่มมากขึ้นถึง 10% ภายในปี 2567 ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า เราจะได้รับการยอมรับมากมายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ซึ่งขณะนี้เราได้เปิดให้บริการสำหรับธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งมันเป็นเอกสิทธิ์ของ DoorDash และมันก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเราใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีในการส่งมอบเท่านั้น ซึ่งเราก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับการนำ Uber Eats และ GrubHub มาใช้ก่อนสิ้นปี”
Sozzi ก็ได้บอกว่า “เมื่อพิจารณาจากความคิดริเริ่มทั้งหมดที่คุณได้บอกมา นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาของ Wendy’s ก็ได้” ซึ่ง Penegor ก็ได้บอกเอาไว้ว่า “น่าจะราวๆสัก 2-3 เดือนกว่า การย้ายไปดำรงตำแหน่งประธานของธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและการเป็นประธานระดับนานาชาติถือเป็นการย้ายครั้งยิ่งใหญ่สำหรับระบบของเรา เรามีประวัติอันยาวนานกว่า 50 ปี ฉะนั้น เราจึงต้องทำให้มันชัดเจนว่า เราเป็นบริษัทในเครือร้านอาหาร เราต้องทำงานร่วมกันให้ดีที่สุด เราจะต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เราเคยพลาดพลั้งไป”
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
ที่มา : https://yhoo.it/2MNPquq
