KingClass Academy เดินหน้าขยายแฟรนไชส์ทั่วประเทศ ตั้งเป้า “เด็กไทยต้องเก่งยิ่งขึ้น”

มูลค่าตลาดของธุรกิจการศึกษานับถึงไตรมาสแรกของปี 2562 อยู่ที่ 63,700 ล้านบาท เป็นการลงทุนในภาพรวมทั้งการเกิดขึ้นของโรงเรียนและสถาบันกวดวิชาต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการเห็นบุตรหลานมีความรู้ความสามารถ และมีความรู้ที่เพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้ในอนาคตได้

หากจะนับเฉพาะในส่วนของธุรกิจแฟรนไชส์ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่ามีแบรนด์การศึกษามากมายที่พัฒนามาสู่ระบบแฟรนไชส์เพื่อโอกาสของผู้ลงทุนที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้ง่ายขื้น อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่ผู้ลงทุนใช้ตัดสินใจในการเลือกแฟรนไชส์การศึกษาคือ “ผลสำเร็จของแต่ละสาขา” และ “การยอมรับหรือเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป” ที่หมายถึงการเพิ่มโอกาสให้ตัวเองมีกำไรจากธุรกิจนี้ได้ง่ายขึ้น

ซึ่งหนึ่งในสุดยอดแฟรนไชส์ที่น่าเชื่อถือและหลายคนก็เชื่อมั่นคือ KingClass Academy ที่นับว่าเป็นแฟรนไชส์เก่าแก่ในแวดวงการศึกษาก่อตั้งมานานกว่า 26 ปีและเปิดระบบแฟรนไชส์มานานกว่า 11 ปีปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศกว่า 80 แห่ง ซึ่งหากไล่เรียนจุดเด่น จุดแข็ง ของ KingClassAcademy มีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

5 แม่เหล็กดึงดูดใจทำไมควรลงทุนกับ KingClass Academy

เดินหน้าขยายแฟรนไชส์

1. หลักสูตรการสอนระดับสากลจากเกาหลีใต้

KingClassAcademy ในการดูแลของ บริษัท เอดู พาร์ค จำกัด นำเข้าหลักสูตรการสอนทั้งหมดจากประเทศเกาหลีใต้ เปิดสอนในหลายวิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ (KingMath) , วิทยาศาสตร์(KingScience) , ภาษาอังกฤษ (High Plus English)

2. ทุกหลักสูตรเน้นให้ผู้เรียนได้คิดและแก้ปัญหา

แนวการสอนของ KingClassAcademy มุ่งสร้างความรู้ ความเข้าใจ เปลี่ยนวิธีการเรียนแบบเดิมๆ ให้เป็นเรื่องง่ายและสนุกขึ้น ทุกหลักสูตรมีการเน้นวิธีสอนดังนี้

  • หลักสูตรคณิตศาสตร์ภาษาไทย KingMath เน้นการแก้โจทย์ปัญหา (Problem Solving)
  • หลักสูตรคณิตศาสตร์ภาษาอังกฤษ CMS เน้นการแก้โจทย์ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking Math)
  • หลักสูตรวิทยาศาสตร์ KingScience เน้นการทดลองที่เปิดโลกกว้างและพลังจินตนาการอย่างไม่รู้จบ
  • หลักสูตรภาษาอังกฤษ High Plus English เน้นการฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ

เดินหน้าขยายแฟรนไชส์

3. พัฒนาการสอนรูปแบบออนไลน์

หนึ่งในความทันสมัยของ KingClass Academy คือการก้าวทันโลกยุคใหม่และผสมผสานการสอนกับเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี เป็นประโยชน์แก่ผู้เรียนและผู้ลงทุน โดยเฉพาะการพัฒนาการสอนแบบเรียนออนไลน์ KingClass Smart Learning ที่ทำให้ผู้ลงทุนสามารถรับนักเรียนได้มากขึ้น มีกำไรจากธุรกิจได้ง่ายขึ้นด้วย

4. สามารถเลือกลงทุนได้ในแบบที่ต้องการ

KingClass Academy เป็นแฟรนไชส์การศึกษาที่คุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุด เพราะผู้ลงทุนสามารถเลือกหลักสูตรไปเปิดได้หลากหลายหรือเลือกเฉพาะหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียนในพื้นที่ซึ่งเป็นการลงทุนเพียงแค่ครั้งเดียว ถือว่าคุ้มค่ามาก และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อาจจะมีธุรกิจการศึกษาของตัวเองอยู่แล้วแต่ต้องการความหลากหลายที่มากขึ้น

5. KingClass Academy พร้อมส่งเสริมการตลาดขั้นเทพ!

นอกเหนือจากการพัฒนาหลักสูตรการสอนในรูปแบบต่างๆ การให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกหลักสูตรได้ตามต้องการ ทาง
แฟรนไชส์ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้กับสถาบันและนักเรียนตลอดทั้งปี เพื่อรักษาและขยายฐานลูกค้าเพื่อท่านผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ซึ่งทีมงานของ KingClass Academy ถือว่ามีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจการศึกษาเป็นอย่างดี

ความสำเร็จของผู้ลงทุน KingClass Academy

เดินหน้าขยายแฟรนไชส์

ปัจจุบัน KingClass Academy มีสาขาทั่วประเทศรวมกว่า 80 แห่งและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น โดยทางแฟรนไชส์เปิดรับผู้สนใจลงทุนในทุกภูมิภาคและให้สิทธิ์ 1 อำเภอต่อ 1 สถาบัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนมีกำไรจากธุรกิจได้มากขึ้น โดยผลสำเร็จของผู้ลงทุนจากสาขาทั่วประเทศถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างสูงสุด สาขาของ KingClass Academy มีผู้เรียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาขาที่มีผู้เรียนตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปจะสามารถคืนทุนกับธุรกิจนี้ได้ภายใน 1 ปี และมีโอกาสต่อยอดขยายสาขาตัวเองเพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคตด้วย

เดินหน้าขยายแฟรนไชส์

อย่างไรก็ดีคีเวิร์ดสำคัญในการลงทุนกับ KingClass Academy ที่สบายใจหายห่วงเรื่องหลักสูตรการสอน โปรแกรมพื้นฐานของการทำธุรกิจ การตกแต่งสถานที่ การอบรมบุคลากร กิจกรรมส่งเสริมการตลาด การให้คำปรึกษาแก่ผู้ลงทุนตลอดเวลา แต่สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตได้ดียิ่งขึ้นมี 3 ประการคือ

KingClass Academy

1. ยึดทำเลกลุ่มลูกค้าให้ได้

การเลือกทำเลดีจะส่งเสริมให้ธุรกิจโตไวยิ่งขึ้น ทำเลที่น่าสนใจคือตามชุมชน ใกล้โรงเรียน สถานศึกษา โดยเฉพาะเขตที่คนพลุ่กพล่านหากไม่ใช่ในกรุงเทพฯ ก็ได้แก่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่เป็นจุดรวมของคนจำนวนมาก เพิ่มโอกาสของผู้สนใจเข้ามาสมัครเรียนได้มากขึ้น

2. การตลาดแบบออนไลน์ของผู้ลงทุน

แม้ว่า KingClass Academy จะส่งเสริมการตลาดให้เป็นอย่างดีแต่ในส่วนของผู้ลงทุนเองก็ควรมีช่องทางการตลาดในโซเชี่ยลไม่ว่าจะเป็นเพจเฟสบุ๊ค อินสตราแกรม คอยอัพเดทกิจกรรมที่น่าสนใจและหลักสูตรใหม่ๆ หรือผลงานของผู้เรียนให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นอย่างต่อเนื่องอันจะช่วยทำให้ธุรกิจดูน่าสนใจมากกว่าเดิม

3. จัดกิจกรรมนอกสถานที่

KingClass Academy เป็นสถาบันที่ทุกคนรู้จักและให้การยอมรับแต่การทำธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น มีผู้เรียนเพิ่มขึ้น ผู้ลงทุนควรจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตามโอกาสอันสมควร เช่น กิจกรรมในโรงเรียนต่าง ๆหรือร่วมออกบูธแสดงสินค้า เป็นต้น เพื่อให้คนที่กำลังสนใจได้มีข้อมูลในการตัดสินใจและทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจดียิ่งๆขึ้นไป

เดินหน้าขยายแฟรนไชส์

ปัจจุบัน KingClassAcademy ก้าวสู่ความเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่ได้การันตีคุณภาพจากหน่วยงานราชการและการได้รับรางวัลอันทรงเกียรติหลายแขนง ในแง่ของการลงทุนก็มีความเหมาะสมด้วยแพคเกจลงทุนที่เริ่มต้นไม่สูงมาก แต่ผู้ลงทุนมีโอกาสสำเร็จในธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่า KingClass Academy จะเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ยอดฮิตตลอดกาลที่ใครได้ลงทุนต้องรู้สึกดีแฮปปี้มากๆ

 

 

ต้องการลงทุนแฟรนไชส์
KingClass Academy
โทร. : 02-747-3800, 086-3359376

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3HF5dbk


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต