Facebook เจาะเข้าตลาดเมืองจีน ด้วยกลยุทธ์สร้างแอปใหม่

เป็นสถิติที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย เมื่อทาง China Internet Network Information Center ได้ออกมาเปิดเผยถึงตัวเลขผู้ใช้งาน Internet ในประเทศจีนที่สูงถึง 731 ล้านคนจากผู้ใช้งาน Internet ทั้งหมดนี้ ก็มีถึง 95.1% ที่ใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ Smartphone แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตลาด Mobile Device ในจีนได้เป็นอย่างดี และยังมีตัวเลขการใช้งาน Mobile Wallet ที่สูงถึง 469 ล้านคน

นอกจากนี้จำนวนผู้ใช้บริการของ Uber และ Didi รวมถึงบริการในกลุ่มเดียวกันนี้ก็ยังมีสูงถึง 168 ล้านราย ในขณะที่ WeChat นั้นยังคงครองตำแหน่ง Mobile Application อันดับ 1 ในจีนที่มีประชาชนจีนใช้มากถึง 80%

การเห็นตัวเลขการเติบโตที่พุ่งทะยานขึ้นนี้ก็เป็นเหตุผลหลักว่าทำไมยักษ์ใหญ่ออนไลน์ระดับโลกทุกรายถึงอยากเจาะตลาดเมืองจีนให้ได้แต่ทว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแบบนั้นได้แม้กระทั่ง Facebook ที่คนฮิตกันทั้งโลกก็ยังตีตลาดเมืองจีนไม่ได้

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าสิ่งเหล่านี้คือความท้าทายกับบรรดายักษ์ใหญ่ต่างๆที่จะต้องหาวิธีทำอย่างไรให้เจาะตลาดเมืองจีนได้มากขึ้น

เกิดอะไรขึ้นกับสื่อออนไลน์ระดับโลกที่เข้าไปตีตลาดเมืองจีนไม่ได้

เจาะเข้าตลาดเมืองจีน

ภาพจาก goo.gl/pEjQFe , goo.gl/wUC7rv

เมื่อมองย้อนกลับไป Youtube นั้นเริ่มโดนบล็อกตั้งแต่เดือน มีนาคม 2009 อันเนื่องมาจากมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอที่แสดงถึงภาพที่ทหารจีนทำร้ายชาวทิเบต ตามมาด้วยวันที่ 2 มิถุนายน 2009 ที่จะใกล้ครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินทางรัฐบาลจีนจึงป้องกันการรวมตัวและก่อเหตุความวุ่นวายโดยตัดสินใจบล็อกการเข้าใช้งาน Twitter และ Flickr หลังจากนั้นไม่นาน Facebook ก็ถูกบล็อกตามเกือบทุกเขตในประเทศจีน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการจลาจลในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของซินเจียง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 140 คน การจลาจลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปะทะกันระหว่างชาวฮั่นและชาวอุยกูร์ชนกลุ่มน้อยซึ่งมีความรู้สึกว่าตนไม่ได้รับสิทธิทางสังคมที่เท่าเทียมกัน

แต่ก็ใช่ว่าจีนจะถูกปิดกั้นข่าวสารจากโลกภายนอกแม้ไม่มีโซเชี่ยลที่เรารู้จักกันดีในจีนก็มีการพัฒนาระบบการสื่อสารตัวเองให้ทัดเทียมกับโลกภายนอกอย่างเช่นBaidu ที่เทียบได้กับ Google หรือTaobao ที่เทียบได้กับเว็บไซต์ดังอย่าง Amazon แม้กระทั่งสังคมออนไลน์ที่แม้ไม่มี Facebook ก็ยังสามารถใช้งาน Xiaonei แทนได้ที่สำคัญเว็บเหล่านี้ไม่ได้ใช้ดีแค่ในประเทศเท่านั้นอย่าง Baidu Search Engine ยังติดอันดับเว็บไซต์ยอดนิยมในลำดับที่ 4 ของโลกอีกด้วย

Facebook เจาะเข้าตลาดเมืองจีน ด้วยแอปพลิเคชั่น Colorful Balloons

xdcfgbnhjmnjhbgfds
ภาพจาก goo.gl/pV1Lhd

ทั้งนี้ Mark Zuckerberg ได้แสดงความพยายามมาโดยตลอดในการเจาะตลาดเมืองจีนอย่างที่เขาได้กล่าวไว้ใน New York Times ว่า “เราพูดมานานว่าเราสนใจประเทศนี้และเราจะทุ่มเทเวลาศึกษาเพื่อเข้าถึงตลาดในหลากหลายช่องทาง”

และสิ่งที่เป็นผลจากความพยายามนั้นก็คือ Colorful Balloons ซึ่งเป็นแอปแต่งและแชร์รูปภาพโดยหน้าตาของแอปนี้ในเวอร์ชั่น iPhone จะมีภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาจีน และถูกมองว่าหน้าตาแอปคล้ายกับ Facebook Moment อย่างมาก และแอปที่ว่านี้ก็ได้ทดลองใช้งานมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง

อย่างไรก็ตามแอป Colorful Balloons นี่เป็นเพียงแอปแต่งและช่วยแชร์รูปภาพ ดังนั้นการเติบโตของแอปนี้ก็ยังต้องพึ่งพาการใช้งานของ WeChat ซึ่งเป็นโซเชี่ยลมีเดียยอดนิยมในประเทศจีนอยู่ดี เพราะเมื่อแต่งรูปเสร็จก็ต้องโพสต์หรือส่งไปอวดเพื่อนผ่านทางช่องทางนี้ และแม้จะทำได้เพียงดีที่สุดเพียงเท่านี้แต่ตลาดแอปพลิเคชั่นแต่งรูปในจีนก็มีมูลค่ามหาศาลพอจะให้เสี่ยงวัดดวงได้เหมือนกัน

29562323
ภาพจาก goo.gl/FhZYwp

เพราะจากตัวเลขนั้นระบุว่า มูลค่าการตลาดของเว็บไซต์ออนไลน์เหล่านี้ไม่น้อยกว่า 7 แสน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 24.9 ล้านล้านบาท หาก Facebook ทำได้ดีกว่าที่คิดในการครองใจผู้บริโภคชาวจีนก็อาจเกิดเป็นลูกเล่นใหม่ๆได้อีกมากและนั่นก็หมายความว่าโอกาสสร้างกำไรของ Facebook ก็มีมากขึ้นเช่นกัน

และในอนาคตก็คงไม่ใช่แค่ Facebook เท่านั้นที่หวังเจาะตลาดเมืองจีน เครือข่ายออนไลน์อื่นๆ ก็คงหากลยุทธ์ลุยตลาดจีนให้มากขึ้นเพราะแม้จะเป็นเรื่องยากแต่ถ้าทำได้ก็คุ้มค่ากับการลงทุน ส่วนวิธีการนั้นในตอนนี้เมื่อเจาะด้วยตัวเองไม่ได้ก็หันมาจับมือเป็นพันธมิตรกับธุรกิจในท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งดูจะเป็นวิธีเดียวที่ใช้ได้ผลมากที่สุดในช่วงเวลานี้

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/wUC7rv

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด