7 สิ่งควรรู้! ก่อนการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำขนาดเล็ก

ในปัจจุบันการใช้น้ำประปาโดยตรงอาจไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะการนำมาอุปโภคบริโภค หลายคนจึงหันมาเลือกใช้เครื่องกรองน้ำขนาดเล็กเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายและสุขภาพที่ดี แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมายในท้องตลาด การเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กจึงจำเป็นจะต้องเลือกใช้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

สำหรับใครที่อยากได้เครื่องกรองน้ำขนาดเล็กดีๆ สักเครื่องติดไว้ในบ้าน ควรมีเทคนิคในการเลือกซื้ออย่างไร เรามีทริกมาก่อนกันในบทความนี้

เครื่องกรองน้ำขนาดเล็ก

1. ประเภทของระบบกรองน้ำ

ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนหนักใจในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กก็คือ “เลือกไม่ถูกว่าควรซื้อแบบไหนดี?” เพราะระบบกรองน้ำมีอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ ผู้ซื้อควรพิจารณาเลือกระบบกรองน้ำให้เหมาะสมกับความต้องการ และการใช้งานก็จะเหมาะสมที่สุด

ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ในท้องตลาดจะมีระบบกรองน้ำดังนี้

  • ระบบกรองน้ำแบบเซรามิก: เหมาะสำหรับกรองตะกอน ทราย และสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่ ไม่สามารถกรองสารเคมี แบคทีเรีย และไวรัสได้
  • ระบบกรองน้ำแบบคาร์บอน: เหมาะสำหรับกรองกลิ่น คลอรีน สารเคมีบางชนิด และปรับรสชาติน้ำให้ดีขึ้น
  • ระบบกรองน้ำแบบเรซิน: เหมาะสำหรับกรองหินปูน โลหะหนัก และปรับความกระด้างของน้ำ
  • ระบบกรองน้ำแบบ UF (Ultrafiltration): กรองสิ่งสกปรก แบคทีเรีย ไวรัส และสารปนเปื้อนขนาดเล็ก
  • ระบบกรองน้ำแบบ RO (Reverse Osmosis): กรองสิ่งสกปรก แบคทีเรีย ไวรัส สารเคมี โลหะหนัก และเกลือแร่

2. รูปแบบการติดตั้ง

เครื่องกรองน้ำขนาดเล็กมีรูปแบบการติดตั้งหลากหลาย ผู้ใช้ควรเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน โดยในปัจจุบันมีรูปแบบที่สามารถนำมาติดตั้งได้ดังนี้

  • แบบตั้งโต๊ะ: เหมาะสำหรับวางบนโต๊ะ สะดวกต่อการใช้งาน แต่ใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก
  • แบบใต้ซิงค์: ติดตั้งใต้ซิงค์ล้างจาน ประหยัดพื้นที่ แต่การติดตั้งอาจยุ่งยาก
  • แบบติดผนัง: ติดตั้งบนผนัง ประหยัดพื้นที่ แต่ต้องเจาะผนัง

3. ขนาดและความจุ

ขนาดและความจุของเครื่องกรองน้ำ ควรเลือกให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในบ้าน และปริมาณการใช้น้ำ

  • ครัวเรือนขนาดเล็ก (1-2 คน): เลือกเครื่องกรองน้ำขนาดเล็ก ความจุ 1-2 ลิตร
  • ครัวเรือนขนาดกลาง (3-4 คน): เลือกเครื่องกรองน้ำขนาดกลาง ความจุ 3-4 ลิตร
  • ครัวเรือนขนาดใหญ่ (5 คนขึ้นไป): เลือกเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ ความจุ 5 ลิตรขึ้นไป

4. ฟังก์ชั่นการใช้งาน

ข้อดีของการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กก็คือ บางรุ่นมีฟังก์ชั่นเพิ่มเติม ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตของเรา ใครชอบแบบไหนก็เลือกให้ตรงใจได้เลย

  • ระบบปรับอุณหภูมิ: ปรับอุณหภูมิน้ำให้ร้อนหรือเย็น
  • ระบบกรองน้ำด่าง: ปรับค่า pH ของน้ำให้เป็นด่าง
  • ระบบฆ่าเชื้อ: ฆ่าเชื้อโรคในน้ำด้วยแสง UV

5. ราคา

ราคาของเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กก็มีหลากหลายระดับ ซึ่งขึ้นอยู่กับระบบกรองน้ำ รูปแบบการติดตั้ง ขนาด ความจุ รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน และยี่ห้อที่เป็นที่ยอมรับในตลาดด้วย

6. บริการหลังการขาย

ควรเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำจากบริษัทที่มีชื่อเสียง ที่มาพร้อมกับบริการหลังการขายที่ดี มีคุณภาพ เพราะถ้าหากเครื่องกรองน้ำเกิดเสียหายขึ้นมา จะต้องไม่เกิดความยุ่งยากในการซ่อมบำรุงภายหลัง

7. รีวิวจากผู้ใช้งาน

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กก็คือ การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้รู้ถึงข้อดีข้อด้อยของแบรนด์นั้นๆ ก็จะช่วยให้เราเลือกตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำได้ง่ายขึ้น

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต