6 ความจริงของตลาดออนไลน์เมืองไทย รู้ไว้ได้คิดแผนการตลาดเจ๋งๆ!

แม้อัพเดทข่าวล่าสุดจะมีกฎหมายเกี่ยวกับ การค้าขายออนไลน์ เข้ามาเกี่ยวข้องแต่ก็ดูเหมือนว่าการค้าออนไลน์ยังเป็นกระแสที่มาแรงมากๆโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกานั้นการค้าออนไลน์ถึงกับทำให้ธุรกิจค้าปลีกในอเมริการะส่ำระส่ายขนาดหนักมีการปิดกิจการห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชนิดที่แทบจะพลิกกระดาน

ธุรกิจการค้าจำนวนไม่น้อยก็ต้องเร่งปรับตัวมาสู่การออนไลน์มากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยอาจจะยังไม่ก้าวไปถึงขั้นเดียวกับอเมริกาเพราะคนที่นั้นนิยมซื้อของออนไลน์มากกว่าประเทศไทย

แต่ทั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลน่าสนใจที่ทาง นี้ iPrice บริษัทค้นหาสินค้าออนไลน์ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคสินค้าออนไลน์และก็ค้นพบความจริงที่น่าสนใจ 6 ประการไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่จะวางแผนทำการตลาดจะได้มีข้อมูลที่ตรงจุดโดนใจเอาไปใช้ในการวางแผนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1.ฐานลูกค้าตลาดออนไลน์คือคนในช่วงอายุ 25-34 ปี

การค้าขายออนไลน์

สาเหตุที่กลุ่มผู้บริโภคสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในกลุ่มช่วงอายุ 25-34 ปี เพราะช่วงอายุนี้ส่วนใหญ่คือกลุ่มนักศึกษาและพนักงานเงินเดือน จากผลการสำรวจพบว่าพนักงานเงินเดือนในประเทศไทยมีรายได้เฉลี่ย 14,000 บาท

ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่ประชากรกลุ่มนี้กลับใช้จ่ายกับสินค้าออนไลน์เป็นอันดับหนึ่งเทียบเป็นสัดส่วนก็ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 48 ของลูกค้าที่ช็อปออนไลน์ทั้งหมดโดยคนในช่วงอายุที่ว่านี้แม้รายได้จะไม่ค่อยดีแต่เขาก็พร้อมจะทำงานหนักเพื่อให้มีเงินมีรายได้และส่วนหนึ่งของการช็อปออนไลน์คือเพื่อเข้าสังคมในแบบที่ตนเองอยู่

2.กลุ่มลูกค้าวัยกลางคนเป็นฐานตลาดออนไลน์อันดับสอง

er7

ถัดมาจากกลุ่มวัยรุ่นก็มาถึงในวัยของวัยกลางคนโดยเฉพาะคุณผู้ชายวัยกลางคนอายุ 35-44 ปีเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับสอง เนื่องจากกลุ่มบริโภคกลุ่มนี้ถึงจะมีอายุมากขึ้นแต่ยังสนใจเทคโนโลยีเช่นสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พบว่ามีประชากรกลุ่มนี้ถึง 24.15% ของประชากรชายทั้งหมด

ที่สำคัญในคนกลุ่มนี้จะมีกำลังการซื้อที่มากขึ้นแต่ส่วนใหญ่สินค้าที่ตัดสินใจซื้อจะเน้นไปทางไลฟ์สไตล์หรือสินค้าเกี่ยวกับครอบครัวมากขึ้น การเจาะตลาดในกลุ่มนี้ถ้ารู้เป้าหมายก็จะได้นำเสนอสินค้าที่เป็นทางเลือกได้ง่ายขึ้น

3.ผู้หญิงกว่า 66 % ใช้เวลาตอนรถติดตัดสินใจซื้อของออนไลน์

er8

ประเทศไทยได้ชื่อว่าการจราจรนั้นมหาโหดถึงขนาดติดอันดับโลกในเรื่องการจราจรบนท้องถนน ไม่ต้องพูดถึงว่าสาเหตุรถติดมาจากอะไรรู้แต่ว่าด้วยปัญหารถติดนี้มันทำให้คนเรามีเวลาอยู่บนท้องถนนมากขึ้นแบบไม่เต็มใจ

และด้วยเหตุนี้จากการสำรวจก็พบว่า มีผู้หญิงกว่า 66% หาสินค้าออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ ในระหว่างการเดินทางไปทำงานหรือไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ทั้งนี้คุณสาวๆทั้งหลายแม้จะตัดสินใจซื้อสินค้า

แต่ส่วนใหญ่ก็จะมาดำเนินการผ่านทางคอมพิวเตอร์เนื่องจากความสะดวกบนสกรีนและความปลอดภัยในการซื้อผ่านระบบบัตรเครดิต และมีผู้หญิงเพียง 28 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่นิยมการช็อปผ่านทางคอมพิวเตอร์แบบที่ทั้งเลือกทั้งตัดสินใจซื้อโดยส่วนใหญ่คุณผู้หญิงกลุ่มนี้จะเป็นแม่บ้านหรือคนที่มีเวลาอยู่กับบ้านและไม่ต้องเดินทางไปทำงานในที่อื่นๆ

4.ผู้ชายไทยใจร้อนและไม่นิยมหาสินค้าจากจอมือถือ

er9

ผลการสำรวจพบว่ากว่า 48 % ของผู้ชายในเอเชียตะวันออกกเฉียงใต้หันมาใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น ซึ่งก็รวมถึงคุณผู้ชายจากประเทศไทยด้วยแต่ทว่าสัดส่วนของผู้ชายไทยที่จะตัดสินใจซื้อของออนไลน์ผ่านทางโทรศัพท์นั้นมีน้อยกว่าคนที่ไม่ตัดสินใจซื้อเนื่องด้วยพฤติกรรมผู้ชายไทยค่อนข้างใจร้อน

รวมถึงไม่สามารถทนกับความช้าของอินเทอร์เนตในประเทศที่แม้จะเป็น 4G เรียกว่าหากจะเจาะตลาดคุณผู้ชายกลุ่มนี้ได้เรื่องความเร็วของอินเทอร์เนตมีส่วนสำคัญมากแต่ถ้าในอนาคตโครงข่ายอินเทอร์เนตมีความชัดเจนและน่าใช้งานอาจจะเพิ่มสัดส่วนของตลาดกลุ่มนี้ให้เพิ่มมากขึ้นได้ด้วย

5. Android เป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมที่คนใช้มากกว่า

er10

ผู้หญิงไทยกว่า 54% ใช้โทรศัพท์ระบบปฏิบัติการ Android และ 45% ใช้ iOS ในการหาสินค้าออนไลน์ ผู้ใช้ iOS เผยเลือกใช้สินค้า Apple เพราะเสถียรภาพของมือถือและความเร็วของระบบปฏิบัติการ ในทางกลับกัน Android ค่อนข้างยุ่งยากและระบบไม่ราบลื่น ผู้บริโภคจึงไม่นิยมใช้ค้นหาสินค้า

6. เว็บเบราว์เซอร์อย่าง Chrome ได้รับความนิยมอันดับหนึ่ง

er11

ในยุคนี้ใครๆก็คงต้องใช้ Chrome ซึ่งเป็นราชาของเบราว์เซอร์ ซึ่งพบว่ามีผู้บริโภคกว่า 58% หาสินค้าออนไลน์ผ่านทาง Chrome ในขณะที่เว็บเบราว์เซอร์ อย่าง safari มีผู้บริโภคประมาณ 37 % ในการเข้าถึงสินค้าออนไลน์ เหตุที่คนนิยมใช้ 2 เว็บไซต์นี้ก็เพราะความรวดเร็วและเสถียรภาพในการทำงานนั้นดีที่สุดนั่นเอง

แต่ปัจจัยในทางการตลาดของธุรกิจออนไลน์นอกจากที่กล่าวมายังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้ยอดขายเราเพิ่มได้มากขึ้น โดยส่วนใหญ่กลยุทธ์การทำตลาดยังเป็นสิ่งที่ต้องมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

แต่ถ้าเรารู้ขอบเขตของกลุ่มเป้าหมายก็จะยิ่งเป็นการง่ายในการสร้างแผนการโฆษณาให้ถูกต้องตรงประเด็นทั้งนี้เพื่อให้เราเดินหน้าทำตลาดได้ถูกทางจะได้ประหยัดงบประมาณและเสริมประสิทธิภาพการขายได้ดีถึงที่สุดด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม

ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด