5 เทคนิคเตรียมตัวทำงานหลังหยุดยาว ง่ายนิดเดียว

“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” หลังจากที่หลายๆ คน ได้ใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดยาวกันไปแล้ว ก็ทำให้หลายคนรู้ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ อยากจะขอหยุดยาวต่อไปอีก

แต่โลกแห่งความเป็นจริงมักโหดร้ายเสมอ มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ก็ต้องทำใจและกลับเข้าสู่โหมดทำงานเหมือนเดิม ไหนจะงานเก่าที่ได้ค้างคาไว้เมื่อก่อนที่จะหยุดยาว อีกทั้งก็ต้องตรียมตัวรับงานใหม่ที่กำลังจะเข้ามาอีก

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้มีเทคนิคการเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการทำงาน และเคลียร์งานที่ยังคงค้างอยู่ หลังจากที่ได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว มาดูกันว่าควรเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้เข้าสู่โหมดทำงาน

1.เตรียมตัวก่อนกลับ ต้องไปถึงที่ทำงานเร็วกว่าปกติ

เมื่อวันหยุดยาวผ่านไป ก็ต้องกลับเข้าสู่โหมดทำงานดังเดิม การเตรียมตัวเตรียมใจ และเตรียมสมองให้พร้อม สำหรับไปทำงานเป็นสิ่งสำคัญ โดยอาจจะพักผ่อนอยู่บ้านวันหนึ่งโดยไม่ไปไหนก่อนกลับมาทำงาน เพราะเมื่อมีความพร้อมแล้ว สมองก็จะแล่น รู้สึกสดชื่น ปลอดโปร่ง ไม่อืดอาด ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า พร้อมจะทำงานคงค้างและงานใหม่ให้เสร็จสิ้น

ขณะเดียวกัน เมื่อถึงวันทำงานก็ควรที่จะไปถึงที่ทำงานเร็วกว่าปกติ จะช่วยให้สามารถเคลียร์งานช่วงที่เราหยุดยาวไปได้พอสมควรเหมือนกัน เพราะการมาเช้าเราจะสามารถไล่ตามงานต่างๆ ระหว่างที่เราไม่อยู่

มีเวลาเช็คอีเมล์ย้อนหลังว่ามีงานอะไรที่เราจะต้องทำหรือจะต้องส่งบ้าง จะได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่เราหยุดยาวไป หรือใครที่กำลังรองานต่อจากเราอยู่ แค่นี้ก็จะช่วยให้เราจัดแบ่งงานตามความสำคัญ แล้วสะสางงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น

2.เคลียร์งานเก่าที่ค้างคาก่อน

การที่มีงานเก่าที่ค้างคาก็เปรียบเสมือนกับดินพอกหางหมู ยิ่งหมกเอาไว้ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จะกลับมาเคลียร์ทีหลังก็จะทำให้เราขี้เกียจขึ้นมาได้ ดีไม่ดีอาจจะโดนเจ้านายว่าเอาได้ว่าไม่ยอมส่งงานตามที่ได้รับมอบหมาย

ดังนั้น หลังจากหยุดยาวเราควรเคลียร์งานเก่าที่ค้างคาให้เสร็จสิ้นให้หมดก่อนที่จะทำงานใหม่ หรือเรียงลำดับความสำคัญของงานนั้นๆ ให้ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลังว่าทำไมงานมันถึงได้เยอะอย่างนี้

3.จดบันทึกว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง

เมื่อมีงานเข้ามาหลายชิ้น ก็อาจจะทำให้เกิดการหลงลืม เบลอ เลยทำให้งานที่ได้รับมอบหมายนั้นตกหล่น ทำให้ส่งงานไม่ตรงตามกำหนด การจดบันทึกหรือการโน้ตเอาไว้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยไม่ให้งานตกหล่น ว่าจะทำงานไหนก่อนหลัง งานส่งก่อนหรือส่งหลัง

เพราะจะได้ส่งงานได้ตรงตามกำหนดครบถ้วน ทั้งยังเป็นการช่วยบันทึกความจำว่า เราได้ทำงานนี้เสร็จไปเรียบร้อยแล้ว เหลืออีกกี่งานที่เราจะต้องทำให้เสร็จ ทำให้เป็นคนมีระเบียบและรู้จักวางแผนไปในตัว

4.ตั้งใจทำงานอย่าวอกแวก

เพราะเมื่อเรามัวแต่วอกแวก คุยกับคนนั้นคนนี้ทางออนไลน์ จะทำให้ใช้เวลาไปกับเรื่องไร้สาระ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานไปเยอะ ก็จะทำให้งานที่เราได้รับมอบหมายไม่มีความคืบหน้า ทำให้เกิดการล่าช้า ส่งผลเสียต่องานนั้นๆ

ดังนั้น ควรจะทุ่มเทเวลากับการทำงานเพื่อให้งานเสร็จก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้างานเสร็จแล้ว จะไปแชทคุยกับเพื่อนก็ได้ พูดคุยเรื่องราววันหยุดที่คุณได้ไปไหนต่อไหนมาให้เพื่อนร่วมงานฟังก็ไม่มีใครว่า แต่ขอให้งานที่ได้รับมอบหมายเสร็จก่อนก็แล้วกัน

5.วางแผนตารางการทำงานไว้ล่วงหน้า

เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ที่จะต้องมาเคลียร์งานที่กองเป็นภูเขาเหมือนเมื่อก่อน เราก็ควรจัดสรรวางแผนตารางทำงานให้เป็นระบบไปเลย งานไหนทำวันไหน งานไหนต้องให้เสร็จวันไหน งานเสร็จแล้วต้องส่งงานต่อไปที่ใคร

เรียกได้ว่างานสำคัญๆ หรืองานที่ต้องส่งก่อนให้ทำก่อน เพราะถ้าคุณวางแผนงานไว้เป็นอย่างดีแล้ว เมื่อวันหยุดยาวมาถึงใหม่ ก็จะไม่ต้องมานั่งกังวล คอยเร่งทำงานให้เสร็จตามกำหนด จะได้ไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ กลับมาทำงานได้อย่างไม่ต้องกังวล

ได้เห็นแล้วว่า เทคนิคเตรียมความพร้อมลุยงานหลังจากหยุดยาว มีอะไรบ้าง ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและทำงานได้นะครับ เพราะถ้าหากเรามีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี ทั้งเตรียมพร้อมก่อนที่จะหยุดยาว หรือเตรียมพร้อมก่อนทำงาน สุดท้ายแล้วก็จะทำให้เราสามารถจัดสรรแบ่งปันเวลาได้อย่างเป็นระบบ งานก็จะไม่โหลดเกินไป