5 วิธีดันธุรกิจโต 10 เท่า เราทำได้!

หากพูดถึงการลงทุนใครๆ ก็ต้องมุ่งหวังเรื่องความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเปิดแค่ร้านข้าวมันไก่ธรรมดาหรือว่าจะเลือกลงทุนในกิจการใหญ่โต สิ่งที่อยากเห็นคือกำไรที่งอกเงยและความเจริญก้าวหน้าของธุรกิจ

ในยุคนี้ก่อนลงมือทำธุรกิจส่วนใหญ่เรามักแน่ใจว่าเราศึกษามาเป็นอย่างดี คำว่าการตลาด การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาสินค้า หรือว่าการเข้าถึงลูกค้าแบบต่างๆ

ทฤษฏีเหล่านี้สามารถช่วยให้ธุรกิจเราโตได้ “ในระดับหนึ่ง” แต่คุณเองเคยนึกสงสัยไหม ว่าบางธุรกิจที่เขาก่อร่างสร้างตัวมาไม่นานแต่ทำไมถึงโตได้แบบก้าวกระโดดเผลอแป๊บเดียวกลายเป็นธุรกิจติดอันดับโลกไปเรียบร้อย

นั่นเพราะเขาใช้วิธีที่แตกต่างซึ่งก็มีพื้นฐานมาจากทฤษฏีทั่วไปที่ใครๆก็รู้จักดี ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าการทำธุรกิจเราต้องศึกษาวิธีการให้ลึกซึ้ง

สิ่งที่เราคิดว่ารู้อาจมีแง่มุมที่ลึกกว่านั้นและเป็นคีเวิร์ดสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ทีนี้ลองมาดู 5 วิธีดังกล่าวที่เราเชื่อว่าหากธุรกิจไหนทำได้โตได้ไวไปไกลกว่าเดิมแน่นอน

1.Growth Hackers

การเติบโตแบบ Hackers คือการเติบโตแบบได้ผลลัพธ์ทันที อาจเป็นทางลัดที่ทำให้ธุรกิจโตเร็วกว่าการเดินไปตามทางปกติ สิ่งที่อยากรู้คือ แล้วมันทำอย่างไร? คำว่า Growth Hackers ถือเป็นอาชีพหนึ่งที่ตอนนี้ในต่างประเทศให้ความสำคัญมากบางบริษัทถึงกับมีการจัดตั้งแผนกนี้ขึ้นมา

หากไม่เชื่อดูตัวอย่างจาก Airbnb , Facebook Apple, Google หรือ Amazon ที่เข้าใช้สิ่งที่เรียกว่า Growth Hackers ในการดันธุรกิจตัวเอง ผลก็ดีมีผลประกอบการโตแบบก้าวกระโดดในทุกปีๆ และใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีกลายเป็นธุรกิจระดับโลก

เทคนิคสำคัญของวิธี Growth Hackers คือพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้อยู่เหนือคู่แข่งตลอดเวลาและไม่ใช่ทำเล่นๆแต่จริงจังถึงกับตั้งแผนกนี้ขึ้นมาเพื่อให้สินค้าตัวเองเป็นผู้นำตลอดเวลาจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมธุรกิจเหล่านี้โตได้โตดีและไม่มีใครมาล้มได้ง่ายๆด้วย

2.Growth Hacking

ถ้า Growth Hackers คือการมุ่งหวังให้บริษัทเติบโตแบบทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ที่อยู่เหนือคู่แข่ง Growth Hacking ก็คือกระบวนการที่นำไปสู่เป้าหมายนั้น และ Growth Hacking ไม่ได้เป็นแค่กลยุทธ์ที่พูดกันแบบงูๆปลาๆ

นี่คือรูปแบบการทำธุรกิจที่ถูกคิดมาตั้งแต่ ปี 2010 โดย Sean Ellis ผู้ที่ทำหน้าที่ช่วย Startup ใน Silicon Valley ให้เติบโต กระบวนการของ Growth Hacking เริ่มจากการเรียกทุกคนในทีมมาลิสต์ไอเดีย

และเลือกไอเดียที่น่าจะใช้ได้ดีที่สุด จากนั้นทดลองทำจริง พร้อมการบันทึกผลตอบรับ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีวิธีสร้างตลาดแบบเป็นแก่นสาร รู้จักปัญหาในทุกมิติ อันจะนำไปสู่การพัฒนากระบวนการเข้าถึงลูกค้า ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่มักทำกันแบบผิวเผิน ผลที่ได้คือการเติบโตที่ไปได้แบบไม่ถึงที่สุด

3.ลุยตลาดให้เหมาะกับสถานการณ์

การเติบโตแบบสุดๆจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อยอดขายเราทะลุเป้าและทำให้ลูกค้าพึงพอใจในระยะยาว ปัญหาสำคัญคือจะไปให้ถึงวิธีที่ว่านั้นอย่างไร คำตอบคือ “ดูเวลา” บางครั้งธุรกิจก็ต้องยอมหยุดเพื่อดูตลาดการดันทุรังลุยสู้กับคู่แข่งนอกจากเจ็บตัวบางทีอาจเจ็บใจหากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และขาดทุน

ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ด คนมีรายรับน้อยกว่ารายจ่าย การคิดสินค้าใดๆ ออกมาต้องดูให้เหมาะสมและดูที่ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ

หากสินค้าไหนมีมากเกินไปการเลือกแข่งขันเพื่อแชร์ตลาดเป็นหนทางที่ไม่ถูกนัก ยุคนี้ต้องคิดว่าจะคลอดสินค้าแบบไหนให้ถูกใจ ถูกเงินในกระเป๋าลูกค้าได้มากที่สุด

4.อย่าเน้นขายแต่สินค้าแต่ควรสร้าง Brand awareness

ตัวอย่างง่ายๆ พูดถึงสุกี้ทำไมนึกถึงMK พูดถึงไก่ทอดทำไมนึกถึง KFC พูดถึงกาแฟทำไมนึกถึง Amazon พูดถึงร้านสะดวกซื้อทำไมนึกถึง 7-11 สิ่งที่แบรนด์เหล่านี้ลงทุนไม่ใช่สินค้าแต่คือการสร้าง Brand awareness ที่นับเป็นหัวใจของการเติบโตที่ไม่รู้จบ

วิธีการสร้าง Brand awareness นั้นต้องเริ่มจากโครงสร้างธุรกิจตัวเองที่แข็งแรง ไม่สำคัญว่าเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่แต่อยู่ที่วิธีการในการสร้างความรับรู้และประทับใจให้เกิดกับลูกค้าจนฝังใจและจดจำ เมื่อนึกถึงสินค้านั้นๆ ก็จะมีแบรนด์เราผุดขึ้นมาได้เป็นอันดับแรก

5.มีพันธมิตที่ดีก็จะ win-win ทั้งคู่

อย่าลืมว่าการเติบโตทางธุรกิจเราไม่สามารถเป็นหนึ่งเดียวได้ ธุรกิจระดับโลกยิ่งต้องมีพันธมิตร แต่ก่อนเริ่มจับคู่ธุรกิจกับใคร ให้ผู้ลองเริ่มจากการคิดก่อนว่า ธุรกิจของเราต้องการอะไรจากเขา

แล้วเขาจะได้อะไรจากเรา ลองยื่นข้อเสนอที่เขาปฏิเสธไม่ได้ เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่ยั่งยืนตามสูตรที่ว่า 1+1 ต้องมีค่ามากกว่า 2 คือ พออยู่ร่วมกันแล้วต้องเกิดตัวเร่งที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด

และหากพิจารณาให้ดีการทำธุรกิจให้โตแบบก้าวกระโดดส่วนจะโตได้กี่เท่าอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับความลึกในการบริหารจัดการ ทฤษฏีการตลาดทั่วไปเรามีความคุ้นเคยและรู้จักกันดี

แต่สิ่งที่แตกต่างคือผู้บริหารที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากจะเลือกใช้วิธีการที่ลึกซึ้งกว่า อันเป็นผลพาธุรกิจเติบโตได้เร็วกว่า ในฐานะคนทำธุรกิจใหม่อาจต้องศึกษาเรื่องนี้ให้มาก ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งพัฒนาความรู้ตัวเอง และนำความรู้มาประยุกต์ใช้ ธุรกิจก็จะยิ่งเติบโตได้ไวมากขึ้นด้วย

---

SMEs Tips

1. Growth Hackers
2. Growth Hacking
3. ลุยตลาดให้เหมาะกับสถานการณ์
4. อย่าเน้นขายแต่สินค้าแต่ควรสร้าง Brand awareness
5. มีพันธมิตที่ดีก็จะ win-win ทั้งคู่

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S