10 เรื่องน่ารู้ของ Chupa Chups ต่อยอดจากอมยิ้มสู่ครีมอาบน้ำ

หลักการตลาดยุคใหม่นั้นบอกว่าสินค้าควร ต่อยอดผลิตภัณฑ์ จากเดิมให้มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อทำให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่การต่อยอดสินค้าใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ยิ่งเป็นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันมานาน

การทำสินค้าตัวใหม่ออกมาแม้เราจะคุ้นหูกับแบรนด์แต่ก็ยังไม่แน่ใจเรื่องคุณภาพแต่อย่างไรก็ตามวิธีการต่อยอดตลาดแบบนี้ก็ทำให้มีต้นทุนในการโปรโมทสินค้าใหม่ลดลงเพราะมีฐานลูกค้าจำนวนมากที่รู้จักเราอยู่แล้ว

www.ThaiSMEsCenter.com มีหนึ่งตัวอย่างสินค้าที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิมไปสู่การทำอีกธุรกิจหนึ่งนั้นคือแบรนด์ Chupa Chups ที่เรารู้จักกันดีในนามของอมยิ้มที่วันนี้ไม่ได้มีแค่อมยิ้มเท่านั้นหากแต่ยังมีสินค้าอย่างครีมอาบน้ำมาเพิ่มสีสันการตลาดเราลองมาดู 9 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับการแตกไลน์สินค้าของ Chupa Chups ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ต่อยอดผลิตภัณฑ์

1.Chupa Chups แบรนด์ลูกอมที่มีมานานกว่า 60 ปี

Chupa Chups เป็นแบรนด์ลูกอมแบบ Lollipop หรือที่คนไทยเรียกว่า อมยิ้ม” ของบริษัท Perfetti Van Melle จากประเทศสเปน มีการทำตลาดมาแล้วกว่า 60 ปี มีวางจำหน่ายทั่วโลก ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง

ทั้งในด้านภาพลักษณ์ และคาแรกเตอร์ ที่เด่นเรื่องกลิ่น และความสนุกสนาน ทำให้ไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์นี้ ถึงแม้เคยกินเมื่อครั้งวัยเด็ก โตมาแล้ว ห่างหายไป แต่เมื่อเอ่ยถึงอมยิ้มแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ยังมีความทรงจำถึง Chupa Chups เสมอ

2.แตกไลน์จากอมยิ้มมาสู่ธุรกิจครีมอาบน้ำ

การพัฒนามาสู่ผลิตภัณฑ์ Personal Care ได้ใช้ความแข็งแกร่งของแบรนด์เป็นจุดยืนดึงเอาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Chupa Chups มาพัฒนาเป็นสูตร กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมหวานน่ากิน

ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Don’t eat me กินไม่ได้เหมือนลูกอม แต่ทำให้คุณน่ากินได้”โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดมี 4 กลิ่น ได้แก่ So Cool(กลิ่นโคล่า) , So Sweet(กลิ่นสตอเบอรี่) , Let’s Relax (กลิ่นแอปเปิ้ลเขียว) , Choco Mint (กลิ่นช็อคโกแลตมิ้น)

k1

3.แบ่งสินค้าใหม่ให้เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งาน

ภายใต้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 กลิ่นดังกล่าว ได้ถูกพัฒนาออกเป็น 3 กลุ่มการใช้งาน ได้แก่ กลุ่มครีบอาบน้ำ (Bath & Shower), กลุ่มครีมทาผิว (Body Lotion) และกลุ่มครีมบำรุงมือและเล็บ

และเตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผม (Hair Care).ในอนาคตด้วย นอกจากนี้ยังมีสินค้ากลุ่มเซรั่มและสินค้าสำหรบเด็กที่แยกประเภทการใช้งานทั้งแชมพู ครีมอาบน้ำ ถือว่าครอบคลุมทุกความต้องการที่สุด

4.วางกลยุทธ์การตลาดให้สินค้าเป็นทางเลือกใหม่

สินค้าใหม่ของ Chupa Chups วางตำแหน่งแบรนด์ และสินค้าเป็น Premium Mass เพื่อเป็น “ทางเลือกใหม่” ให้กับผู้บริโภค ไม่ได้ชนกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่โดยตรงที่เน้นเจาะตลาด Mass เป็นหลักใช้เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มีมานานทุกคนรู้จักดีเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในการสร้างตลาดที่ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

k5

5.Chupa Chups เน้นคุณภาพเป็นการทำตลาดที่ดี

Chupa Chups เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเด็ก ตั้งแต่อายุ 3 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 18 – 39 ปี ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอำนาจการซื้อสูง ถ้าเจอสินค้าถูกใจก็ซื้อทันที รักอิสระ ชอบแฟชั่น ดูแลใส่ใจตัวเอง

และบอกต่อเรื่องของแบรนด์ และเรื่องราวของตนเองบนโลกออนไลน์ โดย คาดหวังว่าแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล “Chupa Chups” จะเป็นที่รับรู้มากขึ้น ผ่านการบอกปากต่อปากของผู้บริโภคที่มีประสบการณ์การใช้สินค้า

6.เตรียมงบ 10 ล้านทำการตลาดออนไลน์

นอกจาก กลยุทธ์แบบปากต่อปากแล้ว Chupa Chups ยังเตรียมงบการตลาด 10 ล้านบาท สำหรับสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักในช่วงแรก ผนวกกับการจัดอีเว้นท์ ตามอาคารสำนักงาน และมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อเจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้ จะมีการแจกสินค้าตัวอย่างด้วย

k2

7.เริ่มการวางจำหน่ายใน Shop ใกล้บ้าน

สินค้าใหม่ของ Chupa Chups นี้ปัจจุบันมีจำหน่ายที่ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้าน สุขภาพและความงามทั้งหลาย เช่น Beautrium, Eveandboy, Beauty Market รวมทั้งขายผ่านช่องทาง E-Commerce เช่น ออนไลน์ของท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, Eveandboy, 24 Shopping ของเครือซีพีออลล์ และ Konvy เป็นต้น

โดยราคาจำหน่าย สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเริ่มที่ 99 – 199 บาท ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ของผู้ใหญ่ราคาโดยเฉลี่ยตั้งแต่ 169 – 300 บาท และตั้งเป้ายอดขายภายในปีนี้ คาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 50 – 60 ล้านบาท และในปี 2561 ตั้งเป้าโตเท่าตัว อยู่ที่ 100 – 120 ล้านบาท

8.ทำการตลาดแนวใหม่ใช้แบรนด์ปั้นบริษัท

ความที่ เทค แอนด์ แคร์ คอนเซ็ปต์ เจ้าของสินค้าใหม่ในชื่อของ Chupa Chups เป็นบริษัทใหม่ เพราะฉะนั้นวิธีการจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดของตลาด Personal Care ในไทย

จึงได้ใช้กลยุทธ์ “แบรนด์ปั้นบริษัท” ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว มีคาแรกเตอร์ชัดเจน เอกลักษณ์โดดเด่นมาทำการตลาดเพื่อให้ติดตลาดง่ายมากขึ้น

k6

9.เดินหน้าซื้อแบรนด์ดังสร้างสินค้าใหม่ที่มีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง

“Chupa Chups” เป็นแบรนด์แรกของบริษัทเทค แอนด์ แคร์ คอนเซ็ปต์นอกจากแบรนด์ Lollipop ชื่อดังแล้ว ขณะนี้ “เทค แอนด์ แคร์ คอนเซ็ปต์” เดินหน้าติดต่อซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์ดังๆ ต่อเนื่อง

โดยหนึ่งในแบรนด์ได้ลิขสิทธิ์มาแล้ว “Paul Frank” ในการนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ Personal Care เช่นกัน โดยคาแรกเตอร์ของแบรนด์นี้ มีความเป็นแฟชั่น ทันสมัย ส่วนโปรดักต์ไลน์ที่จะเปิดตัวในอนาคต จะมีความครบวงจรเช่นกันด้วย

วิธีการใช้แบรนด์ปั้นบริษัทน่าจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจที่ทำให้ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องเริ่มจากศูนย์แต่มีฐานลูกค้าเดิมที่รู้จักดีแต่การทำสินค้าใหม่นี้ก็ต้องคำนึงถึงคุณภาพของแบรนด์ที่มีมายาวนานเป็นสำคัญ รวมถึงการสรรหาผลิตภัณฑ์ก็ควรจะตอบโจทย์คนใช้ได้อย่างแท้จริงเพื่อการลงทุนในรูปแบบนี้จะได้เกิดผลชัดเจนที่สุด

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณภาพจาก goo.gl/hgsrY4 , goo.gl/gh374k

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด