10 อาชีพ ทำคนเดียว รวยคนเดียว!
ยุคนี้หลายคนบ่นเบื่องานประจำบางครั้งทำดีแทบตายรายได้ก็เท่าเดิม ไหนจะกรอบของเวลาที่ต้องรีบเข้างานมาสายก็โดนหักเงิน บางที่โบนัส โอที อะไรก็ไม่มี ข้อดีของงานประจำคือมีรายได้ต่อเดือนแน่นอน แต่ที่ไม่ดีคือบางทีรายได้นั้นก็น้อยเกินไป หากมีทางเลือกที่ดีกว่า ขอทำอะไรคนเดียว รวยคนเดียว จะสบายใจกว่า
www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าหลายคนมีความคิดแบบนี้แต่การจะหาอะไรทำคนเดียว รวยคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พูดแบบโลกสวยมันก็ทำได้ แต่พอได้ลองจริงๆ ทุกงาน ทุกการลงทุนไม่มีอะไรที่สบายและได้เงินมาง่ายๆ
ซึ่งการทำงานคนเดียวไม่ต้องพึ่งใครก็จำเป็นที่ต้องพึ่งทักษะตัวเองมากเป็นพิเศษ แต่หากพิจารณาแล้วว่าเรามีความสามารถที่แตกต่างลองมาดู 10 อาชีพเหล่านี้ว่าเราพอจะทำคนเดียว รวยคนเดียวได้บ้างไหม?
1. ติวเตอร์สอนทักษะพิเศษเฉพาะทาง
ภาพจาก bit.ly/2UkGNuS
อาชีพนี้ต้องเริ่มจากความรู้เฉพาะทาง เช่น ภาษา ศิลปะ คอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ คำโบราณเคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าเราเก่งอะไรสักอย่าง ขอให้ทำสิ่งนั้นให้เต็มที่แล้วมันจะกลายเป็นอาชีพให้เราได้” หมายความว่าถ้าเราเจ๋งจริงในเรื่องภาษา เราอาจจะเปิดรับสอนเด็กที่อยากเรียนภาษา หรือเราเก่งศิลปะ อาจจะเปิดสอนคอร์สวาดรูป ปั้นดินเหนียว แกะสลัก อะไรก็ว่าไป
หรือยุคนี้ใครมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ เช่นซ่อมคอม ออกแบบ เขียนโปรแกรม บอกเลยว่ามีคนสนใจจะเรียนจำนวนมาก สำคัญคือให้เราเจ๋งจริง มีความรู้และถ่ายทอดให้คนอื่นเป็น ส่วนใหญ่คิดค่าสอนเป็นรายชั่วโมงประมาณ 250-300 บาท หากวันหนึ่งเรามีสอนสัก 2 คนคนละ 2 ชั่วโมงรายได้ต่อวันประมาณ 1,200 บาทขึ้นไป
ถ้ายังไม่ชัดเจนลองมาดูตัวอย่างของเด็กที่ชื่อ โมซิอาห์ บริดจส์ วัย 9 ขวบ ในเมืองเมมฟิส สหรัฐอเมริกา ได้สร้างธุรกิจเงินล้านจากการทำหูกระต่ายใส่เล่นๆ ในเวลาว่างหลังเลิกเรียน เพื่อเอาไว้แต่งตัวไปออกงานให้พ่อกับตา แต่ทำไปทำมาจนกลายเป็นธุรกิจแบรนด์เนคไทชื่อดังอย่าง “Mo’s Bows” ถือเป็นการเริ่มสร้างรายได้จากความถนัดที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่ง
2. บล็อกเกอร์ รับรีวิวสินค้า ท่องเที่ยวและรีวิวอื่นๆ
ภาพจาก bit.ly/2ZCwuao
ถือเป็นอาชีพอิสระที่บูมมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีช่องทางตลาดอีกมากที่จะทำบล็อกประเภทอื่นๆ เฉพาะด้านที่น่าสนใจ ซึ่งเราสามารถสร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อทำเงินจากการรีวิวสินค้าและบริการต่างๆ หรือแม้แต่เรื่องง่ายๆ ทั่วไปประเภทชิมชิลเที่ยว
นอกจากรายได้จากการรีวิวแล้ว หากบล็อกของเรามีผู้เข้าชม (Traffic) เข้ามามากๆ ก็สามารถมีรายได้งามๆ จากค่าโฆษณาที่เจ้าของสินค้าต่างๆ มาขอลงโฆษณาบนบล็อกของเราอีกด้วย
แต่การจะทำบล็อกให้มีรายได้ก็ใช่จะทำได้ทันที ในกฎ 10,000 ชม.ที่ Malcolm Gladwell นักเขียนชื่อดังได้พูดไว้คือ เราต้องเขียนสาระลงในบล็อกจนถึง 10,000 ชม. หากใช้เวลาเขียนวันละ 1 บล็อกต่อ 4 ชั่วโมงทุกวัน = 120 ช.ม./1 เดือน หรือต้องทำติดต่อกันเป็นเวลากว่า 7 ปี แต่หากเราขยันมากขึ้น หรือมีกลยุทธ์การตลาดที่ดีขึ้นเวลาที่คนนิยมก็อาจจะเร็วขึ้นด้วย
3.เทรนเนอร์สุขภาพ
ภาพจาก bit.ly/2ZCxefG
กระแสสุขภาพมาแรงไม่มีตก แถมยังทำให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ตามไปด้วย เช่น อาชีพเทรนเนอร์ด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเทรนเนอร์ด้านอาหารลดน้ำหนัก โยคะ มวยไทย หรือในด้านการเพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งรายได้ดีมากหากเราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จบมาโดยตรงทางวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือมีประสบการณ์ตรงในการดูแลสุขภาพ
ดังจะเห็นได้จากการที่อาชีพนี้ ได้รับการตอบรับจากบรรดาดาราเซเลปต่างๆ ที่ต้องดูแลตัวเองอยู่แล้วในเรื่องรูปร่าง จึงทำให้เกิดกระแสดารา Six packs ขึ้นมา หรือแม้แต่รายการอย่าง Woody ก็ยังคล้อยตามกระแสด้วยการทำโปรเจ็ก 60 days challenge เพื่อให้ดาราเซเลปลดน้ำหนักปรับรูปร่างกันอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งอาชีพนี้ส่วนใหญ่จะคิดค่าเทรนนิ่งเป็นรายชั่วโมงตั้งแต่ 300-1,000 บาท แต่ถ้าหากเทรนเนอร์ชื่อดังและมีประสบการณ์สูงก็สามารถทำรายได้ต่อชั่วโมงสูงกว่านี้ และรวมต่อเดือนเป็นหลักแสนบาทเลยทีเดียว
4.รับทำเว็บไซต์ ขายธีมเว็บ งานกราฟฟิค
ภาพจาก chessstudio.co.th
จะดีแค่ไหน ถ้าเราเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นออฟฟิศสร้างรายได้โดยไม่ต้องเดินทางบนท้องถนนวันละหลายๆ ชั่วโมง โดยอาชีพอิสระที่รับทำเว็บไซต์ หรือออกแบบงานกราฟฟิคต่างๆ หากเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้
มีคอนเน็คชั่นที่แข็งแรงพอ บวกกับความขยันอดทนและการบริหารเวลาที่ดี ก็สามารถทำให้มีรายได้หลักแสนต่อเดือนได้ไม่ยาก บางคนที่ทำอย่างต่อเนื่องโดยทำเว็บเก่งๆ
ไปจนถึงสร้างธีมเว็บไซต์เพื่อขายบน Themeforest อาจมีรายได้ถึงหลักล้านบาทต่อเดือน แต่งานนี้ก็ต้องอาศัยความมุมานะและพยายามหาจุดแข็งให้เจอ รวมถึงพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาด้วย
5. Drop shipping
ธุรกิจในลักษณะนี้คือการ เป็นตัวแทน เป็นนายหน้าขายของ ถ้าเราสนใจสินค้าตัวไหน ที่จะมาทำตลาด ก็ต้องเข้าไปคุยกับทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ เพื่อตกลงเจรจาขอราคาทุน เพื่อนำมาบวกต่อ โดยที่เราควรต้องมีเว็บไซด์ของตัวเองเพื่อให้น่าเชื่อถือ เมื่อมีลูกค้าสนใจสินค้าของเรา โอนเงินมาที่เรา เราก็เก็บส่วนต่างนั้นไว้ แล้วแจ้งผู้ผลิตสินค้านั้นไปหรือถ้าใครไม่รู้ว่าจะหาสินค้าที่ไหนอย่างไร
ปัจจุบันมีเว็บไซต์มากมายที่เปิดค้าขายออนไลน์ในระบบ Drop shipping ที่ว่านี้ ที่สำคัญเราต้องทำการตลาดให้โดดเด่นเพื่อสู้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีอย่างมากมายในยุคนี้ ซึ่งการการทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์มีค่าบริการตั้งแต่ฟรี ไปจนถึงเสียเงินปีละไม่ถึง 1,000 บาทหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับบริการเสริมที่เลือก แต่ ร้านค้าสามารถเปิดบริการได้ทุกวันไม่มีวันหยุด ลูกค้าสามารถเข้าชมสินค้าได้ทุกวัน
6.Youtuber
ภาพจาก bit.ly/348AWx2
แค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ใครๆ ก็เป็น Youtuber ได้ แต่การจะเป็น Youtuber ที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ ยิ่งปัจจุบันทาง Youtube มีการออกกฏเกณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรักษาคุณภาพของคอนเทนต์ให้น่าสนใจจึงเป็นการสกรีนคนที่จะเข้ามาเป็น Youtuber ว่าต้องมีใจรัก และอยากเข้ามาในวงการนี้จริงๆ
ซึ่งหากทำได้รายได้ที่ดีก็พร้อมจะตามมาเหมือนบรรดา Youtuber หลายคนทั้งไทยและต่างประเทศที่เขาประสบความสำเร็จกับการทำงานเป็น Youtuber นี้ สิ่งสำคัญคือการทำคอนเทนต์ที่ต้องมีความน่าสนใจ ขยันอัพคลิปอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงแรกอาจจะยังไม่มีคนกดติดตามหรือสนใจ แต่หากใจรักจริงๆ ช่วงแรกอย่าไปหวังเรื่องเงินๆทองๆ ขอให้พยายามสร้างคอนเทนต์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อมีคนเริ่มกดติดตามและมีจำนวนมากพอ เรื่องของรายได้ก็จะเริ่มตามมาหลังจากนั้น
7.ธุรกิจแฟรนไชส์
ภาพจาก bit.ly/2XYzu10
ถ้าคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทำอะไร วิธีที่ง่ายและสบายที่สุดคือเลือกลงทุนกับ “แฟรนไชส์” ที่ปัจจุบันมีครบแทบจะทุกสินค้าไม่ว่าจะอาหาร เครื่องดื่ม การศึกษา ธุรกิจบริการ ชอบแบบไหนก็เลือกลงทุนได้เลย ที่สำคัญแพคเกจลงทุนของหลาย
แฟรนไชส์เริ่มต้นด้วยเงินแค่หลักพัน อย่างเช่นแฟรนไชส์ลูกชิ้นทอดที่เงินลงทุนไม่เกิน 2,000 บาท แต่ต้องอาศัยขยันขาย หาทำเลที่ดี ซึ่งอาจทำให้มีรายได้ตามมาไม่น้อยกว่าวันละ 300-400 บาท หรือจะเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่ยุคนี้คนกำลังสนใจมากและมีหลายแบรนด์ให้เราเลือกซื้อ ข้อดีของแฟรนไชส์เครื่องดื่มคือเป็นสินค้ายอดฮิตที่ไม่ตกยุค เพียงแต่เราต้องหาทำเลขายที่ดี
อย่างเช่น เอ็มมิลค์นมสดแท้ 100% ที่ใช้เงินลงทุนเพียงแค่หลักหมื่นต้นๆ ก็เริ่มทำธุรกิจของตัวเองได้สร้างรายได้คืนกลับมาวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท บางคนถึงขนาดยอมลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำธุรกิจนี้อย่างเป็นจริงเป็นจังกันเลยทีเดียว
8.นายหน้าอสังหาริมทรัพย์
ภาพจาก bit.ly/2top2NY
การเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หรือนายหน้าขายที่ดิน แม้จะมีโอกาสได้ส่วนแบ่งจากการขายค่อนข้างมาก แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเป็นนายหน้า สิ่งสำคัญของการทำอาชีพนี้คือเราต้องมีความรู้ในเรื่องกฎหมายการซื้อขายต่างๆ ต้องมีความรู้ในเรื่องการเงิน และที่สำคัญเราต้องมีคอนเนคชั่นกับคนจำนวนมาก เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดีปัจจุบันมีคอร์สอบรมที่จะฝึกให้คนสนใจได้เข้ามาเป็นนายหน้า ซึ่งก่อนจะเข้าฝึกอบรมในคอร์สใดๆ ก็ตามควถามตัวเองก่อนว่าเรามีความสนใจด้านนี้มากน้อยแค่ไหน เพราะเราต้องเข้าใจว่าวงการนี้คู่แข่งค่อนข้างเยอะ และคนที่เก่าและเก๋าประสบการณ์ก็มีมาก หากมั่นใจว่าเราทำได้ก็ให้เริ่มจากการขายสินทรัพย์เล็ก ๆ อันเป็นการฝึกฝนฝีมือในเบื้องต้น
9.เทรดหุ้น
ภาพจาก bit.ly/2HAqLYo
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น ดูจะเป็นศัพ์โบราณที่ใช้กับคนยุคนี้ไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้หลายคนสนใจการลงทุนในกองทุนต่างๆ และยิ่งข้อมูลในอินเทอร์เนตที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ใครๆ ก็เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ได้ไม่ยาก
ซึ่งบรรดาบริษัทเงินทุนมากมายก็มีทีมงานมืออาชีพคอยแนะนำผู้เล่นมือใหม่ให้สามารถทำรายได้จากการเล่นหุ้น แต่อย่างไรก็ตามการเล่นหุ้นไม่ได้หมายความว่าเราจะได้กำไรไปซะทุกครั้ง
คำว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้งยังใช้ได้ดีเสมอ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวน การเลือกลงทุนในหุ้นตัวใดก็ตามควรมีการวางแผนเป็นอย่างดี และควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ด้วยตนเอง ไม่ใช่แค่อาศัยความรู้จากผู้อื่นอย่างเดียว การเล่นหุ้นทำให้เรารวยได้พอๆกับที่ทำให้เราหมดตัวได้เช่นกันหากเราไม่รู้จักการเล่นที่ถูกต้อง
10.มัคคุเทศน์ / แปลภาษา
ภาพจาก bit.ly/2ZyVrPX
ยุคนี้ใครเก่งภาษาการันตีได้เลยว่าไม่มีคำว่าตกงาน แถมยังมีโอกาสหารายได้เสริมให้กับตัวเองได้ดียิ่งขึ้น หากเรามีสกิลภาษา มีช่องทางสร้างรายได้มากมายทั้งการเป็นติวเตอร์หรือถ้าบอกว่าสอนใครไม่เป็น ก็ยังมีช่องทางของการเป็นไกด์ รับจ้างแปลภาษา
ซึ่งวิธีหางานก็ไม่ยาก ฝากประวัติไว้ตามหน้าเว็บต่างๆ หรือหากเรามีทำเลอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวมีชาวต่างชาติมากๆ เราอาจจะรับจ้างเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ นอกจากจะมีรายได้ที่ดียังทำให้เราฝึกภาษาให้เก่งมากขึ้นได้อีกด้วย
ปัจจุบันอาชีพหลายอย่างเปิดกว้างให้คนเราได้มีโอกาสมากขึ้น แต่หลายคนยังติดอยู่กับกรอบเดิมๆ ที่เคยทำ ไม่กล้าฉีกตัวเองออกจากคอมฟอทโซนที่ทำเป็นประจำ ทั้งที่จริงเราอาจมีความรู้ความสามารถมากพอที่จะทำอะไรได้ดีกว่างานประจำ ถ้ายังไม่กล้าตัดสินใจทันทีค่อยๆก้าวออกมา และเมื่อมั่นใจว่าทำได้ ค่อยคิดลาออกจากงานประจำและหันมาทำเต็มตัว ซึ่งหากพยายามและตั้งใจจริงยังไงก็ทำได้แน่นอน
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
