เรียนไม่ตรงสายงาน! ปี 63 นักศึกษาเสี่ยงตกงานกว่า 5 แสนคน

คาดการณ์ตลาดแรงงานจบใหม่ในปี 2563 โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม 2563 เป็นช่วงจบการศึกษาของเหล่าบัณฑิตใหม่ จะมีตัวเลขคนว่างงานใหม่สูงถึง 520,000 คน สูงที่สุดมากกว่าปี 2562 ในเดือนกรกฎาคมที่มีตัวเลขบัณฑิตใหม่ว่างงานอยู่ที่ 436,000 คน

และย้อนหลังกลับในในช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่ตัวเลขว่างงานของแรงงานใหม่อยู่ที่ 382,000 คน เรื่องราวดังกล่าวจะเป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลจะมานำเสนอให้ทราบกันครับ

จากตัวเลขที่เกิดขึ้นทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า อัตราการว่างงานของแรงงานจบใหม่ มันพุ่งสูงขึ้นเป็นก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างเรื่อยๆ และถือเป็นเรื่องหนักอกสำหรับรัฐบาล และกระทรวงแรงงานที่ต้องกดตัวเลขว่างงานเหล่านี้ให้ “ต่ำลง” ให้ได้อย่างเร่งด่วน

ถือเป็นเรื่องที่จะรอไม่ได้เลยทีเดียว เพราะตัวเลขระดับคนว่างงานของเด็กจบใหม่ที่ทะลุ 500,000 คนในปีหน้า จะเป็นตัวเลขการ “เตะฝุ่น” ที่สูงที่สุดในประเทศไทยในกรอบ 10 ปีเลยทีเดียว

เรียนไม่ตรงสายงาน

ภาพจาก bit.ly/2X8erFf

หลายท่านเล่าให้ฟังว่า ลูกหลานของท่านจบมาแล้วตอนนี้ยังรอเขาเรียกตัว เพราะต้องรอให้ทางการมีตำแหน่งว่างจึงจะเรียกตัว ผมเลยเปิดดูในสถิติเล่มนี้ทาง internet ก็พบตัวเลขที่น่าสนใจว่าในจำนวน 38 ล้านคนเศษที่มีงานทำนั้น เป็นลูกจ้างรัฐบาลเพียง 3,277,700 คน เป็นลูกจ้างเอกชน 15,940,200 คน ทำงานส่วนตัว 12,101,900 คน ที่เหลือเป็นงานอื่นๆ

ตัวเลขนี้แสดงว่า ราชการเป็นนายจ้างที่จ้างแรงงานเพียงไม่ถึงร้อยละ 10 ของผู้มีงานทำ นั่นคือ มีงานจ้างประจำโดยราชการน้อยมาก เมื่อเทียบกับการจ้างงานจากภาคเอกชน (เกือบร้อยละ 50 ของการจ้างงาน) และงานส่วนตัว (เกือบ 1 ใน 3 ของงานที่มีอยู่)

ดังนั้น เป้าหมายที่สำคัญของประเทศในขณะนี้ น่าจะเป็นเรื่องการปฏิวัติการศึกษา เพื่อเพิ่มงานให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามากขึ้น โดยให้นิสิตนักศึกษาสามารถเรียนในสิ่งที่ตลาดงานต้องการ

นั่นคือ ให้สถาบันอุดมศึกษาผลิตนักศึกษาป้อนตลาด โดยให้เรียนวิชาที่ตลาดงานต้องการ และสำหรับนิสิตนักศึกษาที่จะทำงานส่วนตัว ก็ต้องเตรียมให้เขามีความรู้ความเข้าใจ พร้อมที่จะออกไปทำมาหากินได้

สภาองค์กรนายจ้างชี้! เรียนไม่ตรงกับงาน เสี่ยงว่างงานสูง

73

ภาพจาก bit.ly/2Kgiyds

สอดคล้องกับ นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย ยอมรับว่า ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณการจ้างงานลดลง ประกอบกับบางส่วนปรับมาใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น ทั้งหุ่นยนต์และเทคโนโลยีต่างๆ เป็นความเสี่ยงต่อตลาดแรงงาน โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. 2563 อีกประมาณ 5.24 แสนคน

อาจต้องประสบปัญหาภาวะว่างงานสูงขึ้น ดังนั้น รัฐบาลคงต้องประคับประคองเศรษฐกิจ ด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการบริโภคภายในแทน

ทั้งนี้ ยังมีผลพวงจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยปี 2562 มีโอกาสติดลบ 1.5-2% สะท้อนถึงการจ้างแรงงานของไทยที่เริ่มชะลอลงตามไปด้วย โดยเฉพาะตลาดแรงงานในภาคการผลิต การผลิตเพื่อส่งออก โลจิสติกส์ ค้าปลีกและค้าส่งที่ช่วงนี้ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจุบันแรงงานไทยมีอยู่ประมาณ 37.6 ล้านคน คิดเป็น 56.5% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่กลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักทั้งการส่งออก การลงทุน การบริโภคลดลง มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตในปี 2562 เป็นปัจจัยกดดันการจ้างงานปีนี้และต่อเนื่องถึงปี 2563 โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรก

ทั้งนี้ ปัญหาการว่างงานหลักๆ ส่วนใหญ่มาจากแรงงานกว่า 63% จบปริญญาตรีมา ซึ่งสาขาที่จบการศึกษามานั้น เป็นสายสามัญที่ตลาดอาชีพไม่ค่อยต้องการสักเท่าไหร่ จึงทำให้มีโอกาสหางานยากกว่าสาขาอื่นๆ

สาเหตุที่นักศึกษาจบใหม่…ตกงาน

72

ภาพจาก bit.ly/2rBOzWP

1.ไม่ศึกษาความต้องการของตลาด

แต่ละช่วงเวลาตลาดแรงงานต่าง อาจต้องการคนทำงานที่แตกต่างกัน อย่างในปัจจุบันงานที่ตลาดแรงงานต้องการเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นงานจำพวกออนไลน์ เช่น งานการตลาดออนไลน์ การขาย เพราะฉะนั้นเด็กจบใหม่ที่กำลังมองหางาน ควรศึกษาความต้องการของตลาดแรงงานก่อนสมัครงาน จะสามารถทำมีโอกาสในการได้งานมากขึ้น แต่ถ้าน้องๆ ที่ไม่ได้เรียนมาในสายงานตามที่ตลาดแรงงานต้องการ ก็อาจจะไปหาคอร์สเรียนรู้เพิ่มเติมในได้ หรือไม่ก็เรียนสายอาชีพโดยตรง

2.เลือกเรียนตามกระแสนิยม

เด็กจบใหม่ที่ตอนเรียน ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากทำงานอะไร ทำให้ไม่รู้จะเลือกเรียนคณะไหน จึงเลือกเรียนตามกระแส พอเรียนจบก็ไม่รู้จะทำงานอะไร ดังนั้นน้องๆ เด็กจบใหม่อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่าๆ อีกเลยค่ะ ควรรีบค้นหาตัวเองให้เจอว่าตัวเองชอบหรือสนใจงานอะไรบ้าง โดยดูความต้องการของตลาดแรงงานด้วย แล้วน้องๆ ก็จะมีโอกาสได้งานทำมากขึ้น

71

ภาพจาก bit.ly/2pfpVdS

3.เลือกงานในองค์กรที่ตนต้องการมากขึ้น

คนทำงานทุกคนต่างก็ต้องการทำงานในองค์กรที่ตัวเองฝัน แต่เด็กจบใหม่ต้องเข้าใจว่า ในความเป็นจริงแล้ว โลกการทำงานมันไม่ได้มีอะไรเหมือนกัน ใครอยากทำงานในองค์ที่ใฝ่ฝัน ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของเด็กจบใหม่ด้วย ถ้าความสามารถ หรือคุณสมบัติของเด็กจบใหม่ไม่ตรงกับความต้องการขององค์กร การที่จะได้งานตามความต้องการของตัวเองก็จะยาก เพราะฉะนั้นเลือกงานที่เหมาะกับตัวเอง และองค์กรที่เหมาะกับความสามารถ น่าจะดีกว่าเลือกตามความต้องการ

4.มีทักษะไม่ตรงกับตำแหน่งงานที่สนใจ

นักศึกษาที่เลือกเรียนตามกระแสมักประสบกับปัญหานี้ เพราะตอนเลือกเรียน ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร หรืออยากทำอาชีพไหน พอเรียนจบกลับไปเลือกสมัครงานตามตำแหน่งงานที่สนใจ มากกว่าเลือกสมัครงานตามสายงานที่เรียนมา ทำให้โอกาสได้งานมีน้อย เด็กจบใหม่ที่กำลังหางาน ควรเลือกสมัครงานตามสายงานที่ตัวเองเรียนมา จะมีโอกาสได้งานมากกว่า หรือถ้าอยากทำงานตามตำแหน่งที่สนใจ แนะนำให้ไปหาคอร์สเรียน เพื่อเพิ่มทักษะในการทำงานตามตำแหน่งงานที่สนใจ

สมัครคอร์สเรียนสร้างอาชีพ https://bit.ly/2CGGna8p

70

ภาพจาก bit.ly/34RVcCD

5.ขาดการเตรียมตัวที่ดี

ถือเป็นปัญหาของเด็กจบใหม่ในยุคนี้ เพราะคิดแค่ว่าสมัครงานให้ผ่านๆ สัมภาษณ์แค่นิดหน่อยก็ได้งานแล้ว แต่ในความเป็นจริงต้องมีการเตรียมตัวที่ดี ตั้งแต่การเตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วนในการสมัครงาน การศึกษาข้อมูลบริษัทที่จะไปสมัครงานว่าทำธุรกิจประเภทไหน กลุ่มลูกค้าเป็นใคร สมัครงานในตำแหน่งอะไร มีหน้าที่คร่าวๆ อะไรบ้าง

รวมไปถึงการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานที่ดีคือ แต่งตัวให้เรียบร้อย สุภาพ เตรียมการตอบสัมภาษณ์ล่วงหน้า ซึ่งเด็กจบใหม่หลายคนไม่ผ่านการสัมภาษณ์งาน เพราะขาดการเตรียมตัวที่ดี

แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำให้ภาคกาส่งออกของไทยได้รับผลกระทบ หลายๆ โรงงานผลิตถึงขั้นปิดกิจการ ประกาศเลิกจ้างพนักงาน อีกทั้งมีข่าวประโคมออกมามากมายว่า วิกฤติเศรษฐกิจปี 2563 จะอาการสาหัสมากเป็นประวัติการณ์ พนักงานหลายๆ โรงงานจะถูกลอยแพ พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ นักศึกษาจบใหม่ตกงานเพียบ…

แต่จริงๆ แล้ว หากลองนึกภาพ ศึกษาหาข้อมูลให้ดีๆ จะพบว่า…ธุรกิจกิจการต่างๆ ที่ไปไม่รอด ส่วนใหญ่เป็นเพราะปรับตัวไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวก็จะถูก Disruption โดยธุรกิจในลักษณะเดียวกัน แต่ทำงานต่างกัน


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

อ้างอิงข้อมูล

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/3gLTQ58

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช