เปิดสูตรต้นทุน ร้านหมูปิ้งข้าวเหนียว ตั้งราคาแค่ไหน ไม่ให้เจ๊ง

มื้อเช้าของคนเมืองส่วนใหญ่เป็นอาหารง่ายๆ ประเภท ขนมปัง ไส้กรอก แซนด์วิช รวมถึงหมูปิ้ง+ ข้าวเหนียว จุดเด่นของหมูปิ้ง+ ข้าวเหนียวคือ อิ่มท้องอยู่ได้นาน ราคาไม่แพง ใช้เวลารับประทานแค่แป๊บเดียว

ที่สำคัญพกติดตัวง่ายรับประทานบนรถ (ไม่ใช่รถโดยสาร) หรือแม้แต่ยืนรอรถเมล์ก็ยังรับประทานได้หรือจะพกติดกระเป๋าไว้แอบรับประทานตอนทำงานก็ยังได้ ข้าวเหนียวหมูปิ้งจึงเป็นสินค้าขายดีและไม่น่าแปลกใจที่จะมีพ่อค้าแม่ค้าหมูปิ้งจำนวนมาก

www.ThaiSMEsCenter.com กำลังมองว่าข้าวเหนียวหมูปิ้งหากมีรูปแบบการลงทุนดีๆ มีทำเลดีๆ ธุรกิจนี้น่าจะสร้างกำไรให้ผู้ลงทุนได้ไม่ยาก แต่หลายคนก็คงสงสัยว่ากำไรของข้าวเหนียวหมูปิ้งมาจากไหน ต้องลงทุนแบบไหนอย่างไรถึงจะเรียกว่ามีกำไร ลองมาหาคำตอบจากเรื่องนี้กัน

ทำข้าวเหนียวหมูปิ้งอย่างไรให้ลูกค้าติดใจ?

ร้านหมูปิ้งข้าวเหนียว

ภาพจาก bit.ly/2LuS1uq

การเปิดร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง นั้นไม่ยาก ใครๆก็เปิดได้ อุปกรณ์ก็ง่ายแสนง่าย มีหมู มีเตาปิ้ง มีข้าวเหนียว โต๊ะตัวเดียวก็เปิดร้านขายได้ การลงทุนกับธุรกิจนี้เริ่มต้นด้วยเงินไม่เกิน 3,000 บาท แต่ใช่ว่าทุกคนที่เปิดร้านมาจะรวย จะรอด เคล็ดลับสำคัญคือ “ต้องทำให้ลูกค้าติดใจ” นั่นหมายถึง “รสชาติ” “คุณภาพสินค้า” “การบริการ” “ราคา”

ทุกอย่างต้องสมเหตุสมผล คนที่รวยกับการเปิดร้านหมูปิ้ง ยอดขายวันละ 400-500 ไม้ รายได้ต่อเดือนเกินกว่า 100,000 ใช่ว่าจู่ๆเขาจะรวยพรวดพราดขึ้นมาได้เลย ต้องอาศัยเวลาในการสร้างฐานลูกค้า

พัฒนารสชาติของหมูปิ้งให้มีความหลากหลาย สูตรเด็ดของอาชีพนี้คือ “การหมักหมู” ที่ต้องให้ได้เนื้อหมูที่นุ่ม เวลาย่างบนเตาไฟให้มีกลิ่นหอมเครื่องเทศ และไม่ย่างจนดำไหม้เกรียม ข้าวเหนียวก็ต้องให้สุกนิ่มพอดี ไม่แข็ง ไม่ดิบจนเกินไป

ต้นทุนโดยเฉลี่ยสำหรับพ่อค้าข้าวเหนียวหมูปิ้งมือใหม่

45

ภาพจาก bit.ly/2Xm65NJ

โดยเฉลี่ยต้นทุนสำคัญคือหมู ในที่นี้จะคิดหมูที่ 2 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 130 บาท เท่ากับ 130 x 2 = 260 บาท หมู 1 กิโลกรัมทำหมูปิ้งได้ประมาณ 70 ไม้ หมู 2 กิโลกรัมทำได้ 70 x 2 = 140 ไม้ ถ้าขายไม้ละ 5 บาท จะมีรายได้ 140 x 5 = 700 บาท

รวมกับต้นทุนอื่นๆเช่นค่าถ่าน คิดถุงละประมาณ 10 บาท/วัน ส่วนข้าวเหนียว ต้นทุนประมาณ 70 บาท/วัน (ประมาณ 2 กิโลกรัมคิดข้าวเหนียวกิโลละ 30 บาท) ได้ข้าวเหนียวประมาณ 28 ถุง รายได้จากข้าวเหนียววันละประมาณ 140 บาท ต้นทุนอื่นๆ

เช่นน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ (หวาน) รสดี น้ำมันหอย น้ำมันพืช เบ็ดเสร็จต้นทุนเหล่านี้เฉลี่ย 15-20 บาท/วัน ที่เหลืออาจเป็นต้นทุนผันแปรอื่นๆ เช่นค่าน้ำมันรถสำหรับเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟต่างๆ

รวมต้นทุนต่าง ๆต่อวันประมาณ 350-400 บาท กำไรต่อวันก็ประมาณ 200-300 บาท กำไรจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่า เรามีลูกค้ามาซื้อสินค้ามากน้อยแค่ไหน มีลูกค้าประจำมากน้อยแค่ไหน ค่าเช่าที่ราคาแพงแค่ไหน สิ่งเหล่านี้รวมคิดเป็นต้นทุนได้ทั้งสิ้น

และจากการคิดราคาต้นทุนโดยเฉลี่ยเหล่านี้เพื่อมองให้เห็นภาพลองมาแปลงเป็นสูตรสมการคือ

60

ซึ่งดูเหมือนว่ากำไรจะค่อนข้างดีในธุรกิจข้าวเหนียวหมูปิ้ง แต่ก็อย่าลืมว่าคู่แข่งในธุรกิจนี้ก็มีจำนวนไม่น้อยคำถามคือจะทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกอยากซื้อหมูปิ้งจากร้านเราและไม่ไปซื้อจากร้านอื่น

3 เทคนิคมัดใจลูกค้าให้ติดใจ

47

ภาพจาก bit.ly/2JjMHqM

1.ความสะอาด

อย่าคิดว่าเป็นแค่ร้านหมูปิ้งแล้วจะตั้งร้านง่ายๆที่ไหน อย่างไรก็ได้ เรื่องนี้มีผลต่อความรู้สึกพอสมควร บางร้านตั้งร้านของตัวเองอยู่หน้าถังขยะ หรืออยู่ข้างคลองน้ำเน่า มีแอ่งน้ำขัง ซึ่งลูกค้าบางคนอาจจะไม่คิดอะไรมากแต่คนส่วนมากน่าจะคิดและไม่อยากมาซื้อหมูปิ้งจากร้านเรา รวมถึงในร้านแม้จะเป็นแค่รถเข็นหรือร้านแบบตั้งโต๊ะ ก็ต้องดูสะอาดสะอ้าน อุปกรณ์ต้องทำความสะอาดอย่าให้สกปรกเวลาลูกค้ามองมาเขาจะรู้สึกดี

48

ภาพจาก bit.ly/2KPpfFe

2.หมูปิ้งควรใส่ในตู้กระจก

บางร้านปิ้งเสร็จก็แผ่ไว้ในกระบะ ทั้งฝุ่นควันมลพิษต่างๆ ก็อาจจะผสมปนเปเข้าไป แม้จะมองว่าเป็นสินค้าที่เอามาอุ่นให้ร้อนก่อนขายอีกทีได้แต่ก็ควรให้สะอาดไว้ก่อน เพราะถือเป็นภาพลักษณ์ของร้านค้าเองที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเป็นสินค้าที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้า

46

ภาพจาก bit.ly/2KRL3Qk

3.รสชาติและปริมาณ

ร้านหมูปิ้งบางแห่งต้องการกำไรมากขึ้นก็รีดเอาหมูที่เสียบไม้จนแทบจะบาง หรือบางร้านใช้หมูที่ไม่มีคุณาภาพ กินแล้วไม่อร่อย หรือใช้หมูราคาถูก หมูค้างคืน (หมูเก่า) ที่ราคาอาจจะถูกลงจริง แต่เมื่อลูกค้าได้กินสักครั้งแล้วจะเบือนหน้าหนีไม่อยากมากินอีก ทางที่ดีจึงควรให้รสชาติและปริมาณสัมพันธ์กับราคาที่ขาย ไม่บางจนเกินไปและไม่หนาจนตัวเองไม่มีกำไร รวมถึงควรพัฒนารสชาติให้มีการหมักหมูเป็นรสชาติต่างๆ อย่างหลากหลายเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้น

อาชีพเปิดร้านข้าวเหนียวหมูปิ้ง แม้จะดูว่าไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะทำให้เติบโตและประสบความสำเร็จก็ไม่ง่ายนัก ต้องใช้ความอดทนและตั้งใจสูงมาก อย่าคาดหวังว่าวันแรกๆ จะขายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่าหรือจะมีกำไรแบบสุดๆ

ในช่วงแรก เราต้องทำใจกับการขายที่ลูกค้าอาจไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย และรวมถึงตัวเราเองที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ หลายสิ่งหลายอย่างประกอบกันและมีผลต่อความอยู่รอดและต้นทุนกำไรของร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งทั้งสิ้น

*** สูตรการคิดคำนวณราคาดังกล่าวนี้ มีตัวแปรที่ต้องเอามาคิดรวมกันอีกหลายอย่างทั้งค่าการตลาด ค่าเช่าพื้นที่ ต้นทุนผันแปรของแต่ละบุคคล ราคาเบื้องต้นจึงเป็นค่าประมาณการณ์ให้พอมองเห็นภาพและแนวทางในการคิดเบื้องต้น***


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด