ขายของตลาดนัด vs ขายของออนไลน์ อะไรเจ๋งกว่ากัน!

การค้าขายเป็นอะไรที่ทำง่ายและเริ่มต้นได้ทุกคน ไม่แปลกใจที่เราจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่จำนวนมาก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสมัยนี้มีทั้งการค้าแบบออนไลน์และออฟไลน์

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าขายของแบบไหนแล้วมันจะเจ๋งกว่ากัน หลายคนบอกไม่รู้จะเลือกแบบไหนก็ทำมันพร้อมกันทั้ง 2 อย่าง ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าหลายคนก็ทำแบบนี้อยู่ แต่เพื่อชี้ชัดให้เห็นถึงข้อดีข้อเสีย

www.ThaiSMEsCenter.com เลยจัดเต็มเอาข้อมูลน่าสนใจมาให้ลองวิเคราะห์กันดูเพื่อใครอ่านแล้วจะเกิดไอเดียเลือกขายของด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเท่านั้น

ขายของออนไลน์

ขายของออนไลน์

การขายของผ่านอินเทอร์เนตที่จริงเกิดมาหลายยุคสมัยแล้ว ต้งแต่ปี 1999 ที่มีการประกาศขายของออนไลน์แต่ยังเป็นลักษณะของการลงประกาศรายละเอียดสินค้าคนสนใจซื้อยังต้องตกลงราคาผ่านโทรศัพท์ จนถึงปี 2002 ที่เริ่มมีการทำเป็นเว็บไซต์สินค้าและมีการลงสินค้าหลากหลายราวกับเป็นแคตตาล็อค

แต่การชำระเงินยังต้องทำผ่านธนาคาร มาถึงประมาณปี 2009 ที่สามารถชำระเงินผ่านเว็บไซต์ได้ทันที รวมถึงผ่านทางธนาคารออนไลน์ ((E-Banking) เป็นยุคเฟื่องฟูที่เกิดผู้ค้าออนไลน์รายใหญ่มากมายเช่น TARAD.com ,Shopping.co.th เป็นต้น

จนมาถึงปัจจุบันที่เรียกว่าเป็นSocial Commerce เต็มรูปแบบ เราสามารถช็อปปิ้งผ่านมือถือและเริ่มมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นมากมายเอามาใช้ในตลาดออนไลน์นี้

x2

โดยภาพรวมแม้ตลาดออนไลน์จะถูกคาดหมายว่ามีการเติบโตได้อีกมากอย่างศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่าในปี 2565 ตลาด e-Commerce ของไทยจะมีมูลค่าถึง 4.7แสนล้านบาท

แต่ในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สมัยนี้ก็ใช่จะเป็นเรื่อง่ายที่จะขายสินค้าได้ดีเหมือนยุคแรก พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รายได้ไม่ดีเหมือนที่คิดอันเนื่องมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้ตลาดนี้แชร์ส่วนแบ่งรายได้กันมากขึ้น ซึ่งหากประมวลข้อดีก็จะพบว่า

  1. การตลาดออนไลน์เราเริ่มต้นได้ทันที เพราะมีเว็บไซต์มากมายที่คอยช่วยเหลือในการสต็อคสินค้าให้
  2. ต้นทุนเป็น 0 บาท ไม่ต้องสั่งสินค้ามาเก็บไว้เพราะมีระบบที่เรียกว่าDropship
  3. สามารถขายสินค้าได้แบบไม่ต้องกลัวสภาพดินฟ้าอากาศ
  4. มีลูกค้าไม่จำกัดพรมแดน
  5. มีเวลาว่างมากพอและสามารถทำคู่กับงานอื่นได้
  6. สามารถเพิ่มและขยายร้านได้ง่ายๆ เพียงแค่มีแหล่งสินค้ามากพอ

x3

อย่างไรก็ดีข้อเสียของการขายของออนไลน์ก็มีเช่นกันคือ

  1. คู่แข่งเยอะไม่สามารถสร้างรายได้มหาศาลง่ายเหมือนยุคแรก
  2. มีการตัดราคาต้องสู้กันที่โปรโมชั่น เสี่ยงต่อการไม่ได้กำไร ส่วนใหญ่เน้นขายปริมาณ
  3. เริ่มได้ง่ายก็จบได้ง่าย บางคนนึกจะเลิกก็เลิก
  4. บริหารจัดการไม่เป็น ก็เสียเวลาเปล่า
  5. สร้างความน่าเชื่อถือได้ยากเพราะลูกค้าไม่รู้จักแม่ค้าส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นหน้ากัน

ขายของตลาดนัด

x8

ไม่ต้องเท้าความเรื่องประวัติการค้าขายเพราะมีมาตั้งแต่ยุคโบราณ มีมาตั้งแต่สมัยที่คนยังไม่รู้จักคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ คนจีนมักได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของการค้าและส่วนใหญ่ก็มีหัวการค้าและพัฒนามาเป็นธุรกิจที่หลายคนร่ำรวยกันไปแล้ว แต่การค้าขายในยุคนี้

นอกจากต้องสู้กับตลาดออนไลน์แล้วในหมู่ตลาดออฟไลน์เองก็มีคู่แข่งอยู่ไม่น้อย สังเกตจากตลาดเดียวกันมีสินค้าแบบเดียวกันวางขายอยู่ไม่น้อยกว่า 2-3 ร้าน

x7

สิ่งที่ต้องพัฒนาหากต้องการขายของตลาดนัดในยุคนี้คือคุณภาพสินค้า บริการ และการบริหารจัดการที่ดี อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของการขายของตลาดนัดยังมีที่น่าสนใจหลายประการเช่น

  1. ตลาดนัดเป็นจุดศูนย์รวมของคนมากมาย ทั้งนักเรียน คนงานโรงงาน พนักงานบริษัท ที่ไลน์สไตล์ชอบเดินตลาด
  2. พ่อค้าแม่ค้ายุคนี้ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์สามารถเลือกซื้อแฟรนไชส์มาต่อยอดธุรกิจได้เลย
  3. สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าการขายออนไลน์เพราะลูกค้าได้พูดคุยโดยตรงกับพ่อค้าแม่ค้า
  4. เป็นการฝึกประสบการณ์ก่อนจะก้าวสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ต่อไป
  5. หากมีไอเดียดี สินค้าน่าสนใจ โอกาสเติบโตจะเร็วกว่าการขายออนไลน์
  6. มีโอกาสได้พบและพูดคุยกับคนจำนวนมากซึ่งอาจกลายมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจได้ในอนาคต

x5

ทั้งนี้การขายของตามตลาดนัดเองก็ยังมีสิ่งที่เป็นข้อเสียเปรียบอยู่เช่นกันคือ

  1. ดินฟ้าอากาศมีอิทธิพลกับการขาย
  2. คู่แข่งเยอะต้องหาวิธีบริหารจัดการร้านให้ดี
  3. มีต้นทุนของสินค้าที่มากกว่าการขายออนไลน์
  4. มีเวลาให้ตัวเองน้อยลงเพราะต้องคอยเตรียมของ จัดของขาย จัดร้าน เป็นต้น
  5. ต้องขยันหาทำเลใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ที่ดี

x4

และหากเอาข้อดีข้อเสียของการขายของออนไลน์และขายของตลาดนัดมาหักลบกลบหนี้กันดู ก็ไม่อาจฟันธงได้ชัดเจนว่าอะไรที่จะเจ๋งกว่ากัน นักการตลาดเลยบอกให้ใช้ทั้งสองวิธีนี้ร่วมกันจะเกิดพลังในการขายได้มากกว่า

ด้วยยุคนี้พ่อค้าแม่ค้าบางทีมีเยอะกว่าคนซื้อด้วยซ้ำ และในยุคที่เงินฝืดมือคนส่วนใหญ่จะใช้จ่ายก็คิดหน้าคิดหลังมากขึ้น หากพึ่งแต่การขายออนไลน์อย่างเดียวแต่ไม่รู้จักเข้าถึงผู้คนกำไรที่ได้ก็คงไม่ได้อย่างที่หวัง ยุคนี้คิดลงทุนอะไรต้องรู้จักพลิกแพลงและผสมผสานถึงจะอยู่รอดปลอดภัยได้

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด