เทียบกันชัด ๆ 5 ธุรกิจร้านหนังสือ จุดเด่น l รายได้ l อายุแบรนด์

เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้คน มีโซเชียลมีเดียที่อยู่ในมือแทบทุกคน ทำให้เราสามารถเสพข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่าง ๆ ผ่านช่องทางเท่านี้มากกว่าการเดินออกไปซื้อหนังสือที่ร้าน จึงทำให้เหล่าร้านหนังสือกำไรหดหายลงไปบ้าง

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้คนที่ชื่นชอบความคลาสสิคจากการดื่มด่ำความรู้จากหนังสือ และไม่อยากให้ธุรกิจร้านหนังสือล่มสลายไป จึงทำให้ร้านหนังสือยังคงมีผู้มาใช้บริการกันอยู่ ซึ่งเจ้าของธุรกิจร้านหนังสือก็พยายามที่จะปรับตัวด้วยการทำ E-Book และสั่งหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วก็ยังมีการแข่งขันให้แบรนด์ตัวเองมีจุดเด่นในด้านอื่น ๆ อีกเพื่อไม่ให้ร้านหนังสือตาย

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณผู้อ่านไปอัพเดตกันว่าเหล่าธุรกิจร้านหนังสือ ณ ตอนนี้มีกำไร-ขาดทุนกันเท่าไหร่ และแต่ละเจ้ามีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

1) B2S

ธุรกิจร้านหนังสือ

ภาพจาก www.facebook.com/B2SThailand/

บีทูเอส แหล่งรวมหนังสือทั้งภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ สินค้าไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์เครื่องเขียน อุปกรณ์ศิลปะและสื่อบันเทิงที่ครบครันที่สุด โดยเน้นแนวคิดของร้าน เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องและตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของลูกค้าในหลายกลุ่มได้เป็นอย่างดี ร้านบีทูเอสจึงคัดสรรสินค้าที่มีความหลากหลายสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเปิดประสบการณ์การช้อปปิ้ง และสนุกกับการเลือกชมสินค้าหลากหลายแบรนด์ดัง และมีดีไซน์ไม่เหมือนใคร โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มได้แก่

Books

16

ภาพจาก www.facebook.com/B2SThailand/

รวมความหลากหลายของหนังสือ นิตยสาร จัดแบ่งประเภทเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน ภายในร้านจัดพื้นที่ขาย แบ่งเป็นสัดส่วนตามประเภทของหนังสือ โดยจัดแบ่งเป็น

  1. Foreign Book (หนังสือต่างประเทศ)
  2. Literature (วรรณกรรม)
  3. Mother & Child (แม่และเด็ก)
  4. Wisdom (จิตวิทยา/พัฒนาตนเอง)
  5. Learning (วิชาการ/ความรู้)
  6. Business (บริหาร)
  7. Living (ชีวิต สุขภาพ สันทนาการ)
  8. Travel (หนังสือท่องเที่ยว)
  9. Magazine (นิตยสาร)

Stationery

15

ภาพจาก www.facebook.com/B2SThailand/

อุปกรณ์เครื่องเขียนคุณภาพหลากชนิดหลายประเภท ถูกรวบรวมไว้ในที่เดียวครบครันสำหรับทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งกลุ่มนักเรียน สำนักงาน และลูกค้าทั่วไปทั้งอุปกรณ์เครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์การเรียน

Art & Craft

14

ภาพจาก www.facebook.com/B2SThailand/

พื้นที่เสพงานศิลป์สำหรับคนรักงานอาร์ต ครบครันอุปกรณ์งานศิลปะ สร้างสรรค์จิตนาการไม่รู้จบ

Lifestyle Product

เลือกสรรค์สินค้าที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกกลุ่ม เป็นศูนย์รวมของอุปกรณ์สำนักงานและสื่อความรู้ความบันเทิง โดยเน้นสินค้ากลุ่มเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงานและเฟอร์นิเจอร์

Play & Learn

13

ภาพจาก www.facebook.com/B2SThailand/

Play & Learn เพลินความรู้ ศูนย์รวมของเล่นฝึกทักษะเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กและเสริมจินตนาการให้กับลูกน้อย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น อาทิ หนังสือภาพ หนังสือนิทานสองภาษา บอร์ดเกมส์

ระยะเวลาที่ก่อตั้ง : 25 ปี
รายได้ : 4,343 ล้านบาท
กำไร : 255 ล้าน
สาขา : 111 สาขา
แฟรนไชส์ : ไม่มีข้อมูลการขายแฟรนไชส์

แอปพลิเคชั่น : The1Book (เดอะ วัน บุ๊ค) ที่ครบครันด้วยหนังสือและนิตยสารรูปแบบอีบุ๊คจากทุกสำนักพิมพ์ The 1 Book คือระบบร้านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ที่คุณจะได้รับคะแนน The 1 Card ในทุกๆ การใช้จ่ายของคุณ และคุณยังสามารถใช้คะแนน The 1 Card ที่คุณมี มาแลกรับ e-books ได้ฟรีอีกด้วย และล็อกอินได้ทั้ง The 1 Card account หรือ meb account

ช่องทางการชำระเงิน : Internet Banking / บัตรเครดิต / การชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส

จุดเด่น : จุดเด่นของ B2S มิได้มีเพียงแต่หนังสือและเครื่องเขียนเท่านั้น ซีดี วีซีดี เพลงถือเป็นจุดเด่น โดยเฉพาะแผ่นเพลงต่างประเทศมีให้เลือกหลายหมวดหมู่ มากกว่าร้านหนังสือเชนอื่นๆ และหนังสือของ B2S จะเน้นภาพรวมทุกประเภทไม่โฟกัสไปยังประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายตามคอนเซ็ปต์ Enjoy your life, brighten your mind

ยิ่งไปกว่านั้น B2S เปิดพื้นที่ Think Space ซึ่งเป็นการผสมผสาน Co-Working Space ซึ่งลูกค้าสามารถใช้พื้นที่ในร้านมานั่งพักหรือนั่งทำงานได้อีกด้วย


2) SE-ED

12

ภาพจาก www.facebook.com/SBC.fans/

บริษัทฯ SE-ED ประกอบธุรกิจหลัก 5 ส่วน คือ

  1. ธุรกิจร้านหนังสือ โดยเป็นผู้ดำเนินงานร้าน ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และเครือข่าย ซึ่งได้แก่ ร้านเครือข่ายซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่บริษัทฯ เป็นผู้บริหารเอง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งการบริหารพื้นที่ขายหนังสือในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ศูนย์การค้า
  2. ธุรกิจรับจัดจำหน่ายหนังสือ โดยจัดจำหน่ายให้กับหนังสือที่บริษัทฯ ผลิตเอง และสำนักพิมพ์อื่น เพื่อจำหน่ายให้กับร้านหนังสือทั่วไป รวมทั้งช่องทางการขายอื่นๆ
  3. ธุรกิจสำนักพิมพ์ โดยผลิตหนังสือสาระความรู้ในหมวดต่างๆ รวมทั้งผลิตสินค้าที่เป็น nonbook เช่น CD เพื่อพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ และรับจ้างพิมพ์
  4. โรงเรียนเพลินพัฒนา เป็นการร่วมลงทุน เพื่อสร้างเป็นโรงเรียนทางเลือกแนวใหม่ที่สอนในระดับเตรียมอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เน้นการจัดกระบวนการเรียนการสอนที่ยืดหยุ่นเพื่อพัฒนาศักยภาพให้นักเรียน ที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต
  5. บริษัท เบสแล็บ จำกัด เป็นธุรกิจให้คำปรึกษา การพัฒนา การออกแบบ และการจำหน่ายซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่พัฒนาขึ้นเอง เน้นการพัฒนา Digital Content การพัฒนาโปรแกรม และโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริหารจัดการสื่อ Digital Content

11

ภาพจาก www.facebook.com/SBC.fans/

ในธุรกิจร้านหนังสือ ธุรกิจรับจัดจำหน่ายหนังสือ และธุรกิจสำนักพิมพ์ ทั้งสามส่วนนี้ บริษัทฯ มีบทบาทในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดรายใหญ่ของธุรกิจแต่ละส่วน และธุรกิจทั้งห้าส่วนนี้แต่ละส่วนต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มโดยรวมให้กับบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

ระยะเวลาที่ก่อตั้ง : 45 ปี
รายได้ : 3,181 ล้าน
กำไร : 13 ล้าน
สาขา : 319 สาขา
แฟรนไชส์ : ไม่มีข้อมูลการขายแฟรนไชส์

แอปพลิเคชั่น : SE-ED Application และ SE-ED Mobile ได้รวบรวมหนังสือ, e-book, วารสาร สินค้าและบริการที่หลากหลายจากซีเอ็ด รวมไปถึงข้อมูลอันดับหนังสือขายดี สินค้าใหม่ สินค้าแนะนำ และสาขาซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ทั่วประเทศ พร้อมแชร์ให้เพื่อนผ่าน Social Network สุดฮิตอย่าง Facebook, Twitter, G+ และอื่นๆ ได้อีกด้วย

10

ภาพจาก www.se-ed.com/application/

ช่องทางการชำระเงิน :

  • ชำระเงินด้วยบัตร SE-ED inspiration card
  • ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต VISA CARD / MASTER CARD / JCB CARD
  • ชำระเงินผ่าน Rabbit LINE Pay (บัตรเครดิต VISA CARD / MASTER CARD)
  • ชำระเงินโดยการหักบัญชีธนาคารอัตโนมัติ (Direct Debit)
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
  • เทสโก้ โลตัส และโลตัส เอ็กซ์เพรส
  • ทรูมันนี่ เอ็กซ์เพรส
  • จัสท์เพย์ (ศูนย์บริการลูกค้าทีโอที)
  • เพย์แอทโพสต์ (ที่ทำการไปรษณีย์ และร้านไปรษณีย์)
  • บิ๊กซี
  • จุดรับชำระ mPAY STATION, AIS Shop และ Telewiz
  • ชำระเงินผ่าน mPAY ออนไลน์
  • ไปรษณีย์ธนาณัติ /ธนาณัติออนไลน์

จุดเด่น : มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุดในบรรดาธุรกิจร้านหนังสือ แม้ในยุคนี้ธุรกิจร้านหนังสือจะต้องปรับตัวอย่างมาก แต่ SE-ED ถือว่ามีการปรับตัวได้ดี จากข้อมูลเว็บไซต์ลงทุนศาสตร์ได้นำเสนอว่า บริษัท SE-ED ยังสามารถยืนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ได้ ทำให้หากบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารดีๆ บริษัทก็ยังมีโอกาสกำไรยืนอยู่ได้ ด้วยการมีกำไรขั้นต้นที่แข็งแรง

สิ่งที่ชัดเจนที่สุด คือ การบริหารหน้าร้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดขนาด ปรับทำเล รวมถึงปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร เพื่อควบคุม SG&A ในไม่สูงเกินไปมาก ปรับ Product Mix ให้มีสัดส่วนสินค้าอื่นเข้ามาช่วยชดเชยหนังสือที่ยอดขายลดลง รวมไปถึง ขยับขยายไปขายทางหน้าร้านออนไลน์มากขึ้น เพื่อช่วยลดต้นทุนหน้าร้าน


3) นายอินทร์

9

ภาพจาก https://bit.ly/2ZcIKhJ

บริษัทเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2537 บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซนเตอร์ จำกัด ได้ขยายกิจการด้านค้าปลีก โดยเปิดดำเนินธุรกิจร้านหนังสือภายใต้ชื่อ ร้านนายอินทร์ ซึ่งบริษัทได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งมีที่มามาจากชื่อหนังสือเรื่องแรก “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ”

ระยะเวลาที่ก่อตั้ง : 26 ปี
รายได้ : 2,090 ล้าน
ขาดทุน : -28 ล้าน
สาขา : 77 แห่ง

8

ภาพจาก https://bit.ly/2ZddAXo

แฟรนไชส์ : เป็นแฟรนไชส์ที่ทางบริษัทต้องเข้าไปมีส่วนร่วมควบคุมดูแลการดำเนินการภายในร้านนายอินทร์แฟรนไชส์ ในลักษณะของการให้การอบรม และเข้าไปตรวจสอบมาตรฐานงาน เสมือนเป็นร้านนายอินทร์สาขาหนึ่งของบริษัท ยกเว้นในส่วนการบริหาร และการสั่งซื้อสินค้าร้านนายอินทร์แฟรนไชส์ เป็นผู้รับผิดชอบ โดยบริษัทจะให้การสนับสนุนด้านข้อมูลการตลาด เพื่อผลักดันให้การบริการอย่างมีประสิทธิภาพ

แอปพลิเคชั่น : NaiinPann : Online Bookstore แอพพลิเคชั่นอ่าน e-Book จากร้านนายอินทร์ ที่รวบรวมหนังสือคุณภาพจากสำนักพิมพ์ชั้นนำมาไว้ในมือคุณ

7

ภาพจาก https://bit.ly/2LbWYZ3

มีหนังสือและนิตยสารหลากหลายสไตล์ที่สอดคล้องกับรสนิยมการอ่านของคุณจากสำนักพิมพ์ชั้นนำมากกว่า 100 สำนักพิมพ์ อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาและเกิดความสบายตาในการอ่านด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้น Text File เจ้าแรก ที่ผู้อ่านไม่เคยพบมาก่อนในแอพพลิเคชั่นของไทย

อาทิตัวอักษรที่ออกแบบให้สามารถปรับขนาดและเปลี่ยนตัวอักษร, เปลี่ยนสีของพื้นหลัง, ปรับความเข้ม ความสว่าง, การดูภาพเคลื่อนไหว ( Video), การดูภาพเสมือนจริง 360°, การสร้างห้องสมุดส่วนตัวและประสบการณ์การอ่านอีกมากมาย เพื่อเพิ่มโอกาสของการอ่านของคุณในทุกอิริยาบท อีกทั้งเป็นระบบซื้อหนังสือออนไลน์ที่คุณสามารถค้นหา เลือกดูเนื้อหาตัวอย่างได้ก่อนการตัดสินใจ

ช่องทางการชำระเงิน : LINE Pay / บัตรเดบิต บัตรเครดิต / PayPal / Pay@All

จุดเด่น : ด้วยแนวคิดความรู้ควรมีอยู่ทุกหนแห่ง บริษัทอมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์จึงมีนโยบายสนับสนุนแฟรนไชน์ร้านนายอินทร์ เพื่อการกระจายความรู้ผ่านร้านหนังสือทั่วประเทศ ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ร้านนายอินทร์มากกว่า 20 สาขา กระจายอยู่ตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วทุกภาค และอีก 1 แห่งในสหรัฐอเมริกา


4) ASIA BOOKS

6

ภาพจาก https://bit.ly/2TGWmfW

เริ่มเปิดให้บริการร้านหนังสือภาษาอังกฤษตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 จวบจนทุกวันนี้ เอเซียบุ๊คส ยังคงเป็นร้านหนังสือภาษาอังกฤษแห่งแรก และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่จัดจำหน่ายหนังสือให้กับลูกค้าทั่วไป และลูกค้าองค์กร

โดยมีสินค้าให้เลือกหลากหลายหมวดหมู่หลายประเภท อาทิ หนังสือภาษาอังกฤษ, หนังสือภาษาไทย, นิตยสารต่างประเทศ, ของขวัญ ของชำร่วย และอุปกรณ์เครื่องเขียน ปัจจุบัน เอเซียบุ๊คส มีสาขาภายใต้แบรนด์ Asia Books และ Bookazine มากกว่า 70 สาขาทั่วประเทศ เปิดให้บริการทั้งคนไทย ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายหนังสือ ครอบคลุมกว่า 300 ร้านค้าทั่วประเทศ และมากกว่า 400 แห่ง ตามห้องสมุด และสถาบันการศึกษาต่างๆ รวมถึงการจัดจำหน่ายตรงให้กับลูกค้าองค์กร และออกงานแสดงสินค้าต่างๆ

5

ภาพจาก https://bit.ly/2HrIIbR

เอเซียบุ๊คส ยังเป็นผู้นำในการจำหน่ายหนังสือออนไลน์ผ่าน www.asiabooks.com ที่มีสินค้าให้เลือกซื้อกว่า 1,000,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือภาษาอังกฤษที่มากที่สุดในประเทศไทย รวมไปถึงเครื่องเขียนคุณภาพ และแมกกาซีนชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในลักษณะเป็นรูปเล่มทั่วไปและลักษณะดิจิตอลในรูปแบบ E-Book และ E-Magazine

ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับความต้องการที่ไม่จำกัดของลูกค้า โดยมีบริการ Pre Order หนังสือแบบส่งตรงถึงบ้าน และมีบริการพิเศษจาก asiabooks.com รับสั่งหนังสือมือสอง (Used book) หนังสือหายากจากทั้งในและต่างประเทศ ผ่านระบบการซื้อขายที่ไม่ซับซ้อน

โดยจะมี Call Center ให้คำแนะนำทุกขั้นตอน พร้อมบริการจัดส่งสินค้าในวันถัดไป (Next Day Delivery) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือ 3-5 วันสำหรับต่างจังหวัด นอกจากนี้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง เช่น โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ชำระผ่านบัตรเครดิต และชำระเงินปลายทางเมื่อได้รับสินค้า (Cash On Delivery) และยังมีระบบการสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ที่ง่าย และปลอดภัย พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

4

ภาพจาก www.asiabooks.com/

ระยะเวลาที่ก่อตั้ง : 50 ปี
รายได้ : 847 ล้าน
กำไร : 21 ล้าน
สาขา : 34 สาขา
แฟรนไชส์ : ไม่มีข้อมูลการขายแฟรนไชส์
แอปพลิเคชั่น : ไม่มีข้อมูล

ช่องทางการชำระเงิน :

  • ชำระโดยตรง
  • ตู้ เอทีเอ็ม
  • เคาน์เตอร์ธนาคาร
  • อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง

จุดเด่น : ASIA BOOKS เป็นร้านหนังสือภาษาอังกฤษแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และถึงแม้ว่าจะมีสาขาที่น้อย แต่มีจุดที่บริการหนังสือมากมายครอบคลุมทั่วประเทศอย่างห้องสมุดและสถานบันการศึกษาต่าง ๆ


5) Kinokuniya THAILAND

3

ภาพจาก https://bit.ly/2QVg5Gr

ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะ คือร้านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่นกว่า 72 สาขา และ 30 สาขาทั่วโลก ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2470 (ค.ศ. 1927) โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่ชินจูกุกรุงโตเกียว

ร้านคิโนะคูนิยะ เป็นร้านขายหนังสือของบริษัท คิโนะคูนิยะ บุ๊คสโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้า อิเซตัน ย่านราชประสงค์ เมื่อปี 2535

ระยะเวลาที่ก่อตั้ง : 27 ปี
รายได้ : 756 ล้าน
กำไร : 25 ล้าน
สาขา : 3
แฟรนไชส์ : ไม่มีข้อมูลการขายแฟรนไชส์
แอปพลิเคชั่น : ไม่มีข้อมูล

2

ภาพจาก https://bit.ly/2QVg5Gr

ช่องทางการชำระเงิน :

  1. E-Application ( Online Application ) Apply now, it’s really easy to apply at our webstore (https://thailand.kinokuniya.com/) สมัครง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์หน้าเว็ปไซต์
  2. Drop- Off ( Walk-In Application ) Drop off your completed application form with 500 Baht fee to the cashier in any Kinokuniya Book Stores(Thailand) Co., Ltd. atสมัครและชำระเงิน 500 บาทที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ร้านคิโนะคูนิยะ
  3. Fax-in or E-mail Application Send your completed application from and your pay-in slip to Membership Service Department at / ส่งอีเมลใบสมัครที่กรอกข้อมูลครบถ้วน พร้อมหลักฐานการโอนเงินมาที่ webcenter_thai@kinokuniya.co.jp or Fax: 662-610-9510

จุดเด่น : สิ่งที่ทำให้คิโนะคุนิยะเติบโต ส่วนหนึ่งมาจากคอนเซ็ปต์เริ่มต้นของร้านคือร้านหนังสือต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นภาพลักษณ์สำคัญที่ส่งต่อมายังประเทศไทย

1

ภาพจาก https://bit.ly/2QVg5Gr

การวางภาพลักษณ์นี้ทำให้คิโนะคุนิยะมีความ Unique ของที่แตกต่างจากร้านหนังสือเชนสโตร์อื่นๆ คือร้านขนาดใหญ่ที่มีหนังสือจำนวนมากไว้ให้นักอ่านค้นหา โดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่นและจีนที่มีมากกว่าที่อื่นๆ มีหนังสือต่างประเทศที่ร้านหนังสืออื่นๆ ไม่มีหมุนเวียนมาอย่างต่อเนื่อง ดึงดูดให้นักอ่านเข้ามาในร้านเพื่ออัพเดทหนังสือใหม่ๆ

ส่วนหนังสือไทยก็มีค่อนมากเช่นกัน โดยมีการจัดเรียงเป็นระบบค่อนข้างหาง่ายมีบรรยากาศน่าเดิน ไม่ค่อยมีคนหนังอ่านหนังสือฟรีตามชั้นวางหนังสือให้รู้สึกเกรงใจเวลาเข้าไปเลือกหาหนังสือตามชั้นวาง

ร้านหนังสือที่ทำกำไรสูงที่สุดก็คือ B2S แม้ว่าจะมี 111 สาขาซึ่งน้อยกว่า SE-ED ที่มีสาขาถึง 319 สาขา อาจเพราะ B2S มีการจำหน่ายอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่หนังสือ แถมยังงัดกลยุทธ์ที่พิเศษคือแบ่งพื้นที่ในร้านให้ลูกค้าสามารถนั่งทำงาน อ่านหนังสือ ชาร์จแบต ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้าอยากมาเข้าร้าน

เหล่าธุรกิจร้านหนังสือแบรนด์ดังในประเทศไทยทั้ง 5 แบรนด์นี้คุณผู้อ่านหลาย ๆ ท่านคงได้เคยเข้าไปใช้บริการ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าร้านหนังสือทยอยปิดตัวลงก็คงเป็นที่น่าใจหาย

เพราะหลาย ๆ ท่านก็เห็นว่าการอ่านหนังสือนั้นจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกว่าการรับสารในโลกออนไลน์ ทำให้เหล่าธุรกิจร้านหนังสือต้องปรับตัว งัดกลยุทธ์ต่าง ๆ

เพื่อที่จะทำให้ร้านหนังสือยังคงอยู่ ทาง www.ThaiSMEsCenter.com ก็ไม่อยากให้ธุรกิจร้านหนังสือปิดตัวลงเช่นกัน คุณผู้อ่านก็อย่าลืมไปอุดหนุนร้านหนังสือกันเยอะ ๆ นะ


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

อ้างอิงข้อมูล