ฮิปสเตอร์สเต็ก แฟรนไชส์พร้อมสร้างอาชีพให้คนไทย! รวยด้วยสเต็ก ไม่ใช่เรื่องยาก

คำถามของคนยุคนี้คือ “จะทำธุรกิจอะไรดีที่ขายง่าย รายได้ดี” ซึ่งแน่นอนว่า “อาหาร” คือหนึ่งในการลงทุนที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด โดยเฉพาะ “สเต็ก” ที่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่อาหารราคาแพง คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ที่สำคัญรูปแบบร้านไม่ต้องยุ่งยาก

จัดร้านให้ดูน่าสนใจแม้จะอยู่ริมทางก็ขายได้ www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าหลายคนที่กำลังตกงาน ว่างงาน อยากหารายได้คงคิดอยากมีร้านสเต็กของตัวเอง แต่ติดปัญหาว่าไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร

ด้วยเหตุนี้แฟรนไชส์ฮิปสเตอร์ สเต็ก ที่มาพร้อมแนวคิดต้องการสร้างอาชีพให้คนไทย จึงมีรูปแบบการลงทุนที่ง่าย เปิดร้านได้ทันที การันตีความเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่ตอนนี้มีการขยายสาขาไปทั่วประเทศจำนวนมาก

ฮิปสเตอร์สเต็ก ธุรกิจร้านสเต็กที่พร้อมสร้างอาชีพให้คนไทย

ฮิปสเตอร์สเต็ก

จุดเริ่มต้นจากโรงงานผลิตเนื้อสเต็กขายส่งมากว่า 5 ปี ซึ่งได้รับกระแสตอบรับและได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จึงเกิดแนวคิดที่ต้องการตอบโจทย์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ และอยากเปิดร้านสเต็กด้วยงบประมาณที่จำกัด

เน้นคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ควบคุมต้นทุนได้ไม่ยาก จึงกลายมาเป็นแฟรนไชส์ฮิปสเตอร์ สเต็ก ทางลัดของคนสนใจลงทุนเปิดร้านสเต็กที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นสร้างอาชีพเป็นของตัวเองได้ แม้คนที่สนใจลงทุนจะไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องการทำธุรกิจขายอาหารมาก่อนก็ตาม

ฮิปสเตอร์สเต็ก

จุดเด่นของฮิปสเตอร์สเต็กคือ “ความอร่อย” ที่เกิดจากการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี และเคล็ดลับในการทำเมนูต่างๆ ที่มีสูตรเด็ดเฉพาะ ที่สำคัญต้นทุนวัตถุดิบสำหรับเปิดร้านราคาไม่แพง เนื่องจากมีโรงงานผลิตของตัวเอง

มั่นใจในเรื่องของรสชาติ คุณภาพ และราคาให้ได้ตามมาตรฐาน ด้วยรสชาติที่อร่อย คุณภาพที่ดี ราคาที่คุ้ม เป็นธุรกิจทีเหมาะกับคนที่อยากมีรายได้เพิ่ม อยากมีอาชีพของตัวเอง แต่มีเงินทุนเริ่มต้นไม่มาก การลงทุนกับฮิปสเตอร์สเต็ก จึงเป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจและเหมาะสมกับคนยุคนี้อย่างมาก

รวม 5 ข้อดีทำไมลงทุน ฮิปสเตอร์สเต็ก ถึงคุ้มค่า น่าลงทุน!

การเปิดร้านขายสเต็กมีหลายอย่างที่เราต้องบริหารจัดการ ตั้งแต่วัสดุอุปกรณ์ วัตถุดิบ เมนู การตลาด แน่นอนว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อนทำให้สำเร็จได้ยาก แต่ฮิปสเตอร์สเต็กช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ด้วยข้อดีดังต่อไปนี้

1.ลงทุนน้อย เปิดร้านได้ทันที

ฮิปสเตอร์สเต็ก

ฮิปสเตอร์สเต็ก เข้าใจคนไทยในยุคนี้เป็นอย่างดี ภาวะค่าครองชีพแพง รายได้ไม่พอรายจ่าย การจะลงทุนใดๆ ก็ตาม คงไม่สามารถตั้งงบสูงมากเกินได้ ดังนั้นฮิปสเตอร์สเต็กจึงมีแพคเกจลงทุนราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเปิดร้านได้ทันที

2.โอกาสคืนทุนไว กำไรเร็ว

เมื่อลงทุนน้อย ก็มีโอกาสคืนทุนไว กำไรต่อจานจากการขายสเต็กถือว่าดีมาก ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการและทำเลในการขาย และยิ่งฮิปสเตอร์สเต็กพร้อมฝึกอบรมให้คำแนะนำก่อนเปิดร้าน เป็นทางลัดที่ทำให้การลงทุนไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ต่อยอดสร้างรายได้ในทันที

3.รสชาติยืนหนึ่ง อร่อยถูกใจ เมนูหลากหลาย

ฮิปสเตอร์สเต็ก

จุดเด่นของฮิปสเตอร์สเต็กคือรสชาติที่ได้กินสักครั้งต้องติดใจ แถมมีเมนูหลากหลายให้เลือก เช่น สเต็กไก่พริกไทยดำ , สเต็กสะโพกไก่สไปซี่ , สเต็กเนื้อสันนอก , สเต็กเนื้อทีโบน , สเต็กเนื้อริปอาย , สเต็กปลาย่าง , สเต็กสันคอหมู เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอาหารแบบจัดเซตอีกเช่น เซตโคตรจุก , เซตโคตรอิ่ม , เซตโคตรคุ้ม ที่สำคัญทุกเมนูราคาไม่แพงเหมาะกับรายได้ของคนในยุคนี้

4.ขายดีทุกทำเล ทั้งหน้าร้านและออนไลน์

ฮิปสเตอร์สเต็ก

ฮิปสเตอร์สเต็กเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ง่ายๆ นอกจากขายหน้าร้านได้แล้วผู้ลงทุนยังเพิ่มช่องทางการขายผ่านเดลิเวอรี่ได้อีกด้วย ใครที่มีทำเลหน้าบ้านในย่านชุมชน คนพลุกพล่านจะยิ่งได้เปรียบมาก ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่เปิดหน้าบ้านตัวเองขายได้ทันทีและหากใช้การตลาดออนไลน์ร่วมด้วยยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการขายได้มากขึ้น

5.มีโอกาสในการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น

ฮิปสเตอร์สเต็ก

การลงทุนกับฮิปสเตอร์สเต็ก เหมาะกับคนที่ว่างงาน อยากสร้างอาชีพ หรือแม้แต่พนักงานประจำแต่อยากมีอาชีพที่สองของตัวเองไว้รองรับอนาคต ด้วยเงินลงทุนไม่มาก การบริหารจัดการร้านไม่ยุ่งยาก ถ้าเราไม่ได้ขายเอง อาจให้คนในครอบครัว หรือญาติช่วยขายก็ได้ เมื่อร้านแรกประสบความสำเร็จ อาจใช้เงินทุนที่มีต่อยอดขยายสาขาตัวเองมากขึ้น เป็นการสร้างฐานธุรกิจให้กับตัวเองได้อย่างดี

จัด 3 แพคเกจลงทุน! เริ่มต้นเพียง 9,900 บาท

สำหรับแพคเกจการลงทุนของฮิปสเตอร์สเต็กตอนนี้มีให้เลือก 3 แพคเกจ ได้แก่

  1. เซตเสือซ่อนเล็บ 9,900 บาท
  2. เซตเสือล่าเหยื่อ 15,900 บาท
  3. เซตเสือขาลุย 17,900 บาท

ซึ่งแต่ละแพคเกจจะได้รับอุปกรณ์และวัตถุดิบ (ตามแพคเกจ) ที่เลือก เช่น หมูพริกไทยดำ , ไก่พริกไทยดำ , ปลา , โคขุน , สันคอหมู , ริปอาย , เบอร์เกอร์ยักษ์ , บราวน์ซอส , ป้ายสื่อ , ป้ายธง , เมนู , เสื้อ , หมวก , ร่มสนาม , เตาย่าง , หม้อทอด เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาสอนเทคนิคการจัดร้าน การบริหารจัดการร้าน กลยุทธ์การขาย สอนเทคนิคการย่างสเต็กในรูปแบบต่างๆ พร้อมมีคู่มือให้ได้ศึกษา ที่สำคัญมีการจัดส่งวัตถุดิบให้กับผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ตัดปัญหาเรื่องการหาวัตถุดิบเอง สามารถตั้งหน้าตั้งตาขายเพียงอย่างเดียวได้เลย ที่เหลือฮิปสเตอร์สเต็กพร้อมบริหารจัดการให้ผู้ลงทุนเป็นอย่างดี

พิเศษ! เปิดตัวเมนูใหม่ ฮิปสเตอร์เบอร์เกอร์ยักษ์

ฮิปสเตอร์สเต็ก

และด้วยความเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่ต้องการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับผู้ลงทุนอย่างไร้ขีดจำกัด ฮิปสเตอร์สเต็กจึงได้มีการพัฒนาเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวเมนูใหม่คือ “ฮิปสเตอร์เบอร์เกอร์ยักษ์” โดยเป็นเบอร์เกอร์สเต็กไก่พริกไทยดำทอดกรอบ อัดแน่นถึง 3 ชิ้นเต็มๆ ราดด้วยซอสชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมผักสด ขนมปังหนานุ่ม ขนาด 20 ซม. และเฟรนช์ฟรายด์ราดชีส

โดยมีให้เลือกทั้งแบบเบอร์เกอร์ธรรมดาและเบอร์เกอร์ขนมปังชาร์โคล เรียกได้ว่าเป็นเบอร์เกอร์สุดฟินที่อิ่มอร่อยในราคไม่แพง เหมาะสมกับการเพิ่มยอดขายให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี และนอกจากเมนูใหม่ดังกล่าวนี้ในอนาคตฮิปสเตอร์สเต็กยังพร้มอมเปิดตัวอีกหลายเมนูให้เป็นตัวเลือกของลูกค้าได้มากขึ้น

รู้หรือไม่! ซื้อแฟรนไชส์ฮิปสเตอร์สเต็ก คุ้มค่ากว่าลงทุนเปิดร้านเอง มากแค่ไหน

ฮิปสเตอร์สเต็ก

สำหรับใครที่ยังลังเลอยากมีร้านสเต็กของตัวเองแต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อแฟรนไชส์หรือเลือกเปิดร้านเองดี ลองไปดูข้อมูลเบื้องต้นที่เชื่อว่าจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

เริ่มจากคนที่อยากเปิดร้านเอง ต้องมีการจัดเตรียมอุปกรณ์เองทุกอย่าง ต้องหาสูตรสเต็ก มาลองผิดลองถูก ไหนจะเรื่องรสชาติที่ยังไม่รู้ว่ารสชาติแบบนี้จะอร่อยถูกใจลูกค้าหรือเปล่า งบในการเปิดร้านเอง ทั้งค่าอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ เบ็ดเสร็จประมาณ 20,000 บาท (สำหรับร้านขนาดเล็ก) โดยเป็นค่าอุปกรณ์เช่นเตาสเต็ก , โต๊ะ , จาน , วัตถุดิบต่างๆ , ร่มสนาม , เก้าอี้ เป็นต้น

แต่หากลงทุนกับฮิปสเตอร์สเต็ก ราคาลงทุน 9,900 – 17,900 บาท แต่สบายใจในเรื่องสูตรเมนูอาหารที่คิดค้นมาอย่างดี เป็นรสชาติที่ได้การยอมรับจากลูกค้าจำนวนมาก และมีการจัดส่งวัตถุดิบให้อย่างดีไม่ต้องกังวลหาวัตถุดิบด้วยตัวเอง และมีการสอนสูตรเทคนิคการขายให้เราเริ่มต้นได้ง่ายไม่ต้องมาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เพิ่มโอกาสในการเปิดร้านที่จะมีกำไรได้รวดเร็วมากขึ้น

ทั้งนี้การลงทุนกับฮิปสเตอร์สเต็กถือว่ารายได้ดีมาก ในแต่ละเดือนหากได้ทำเลการขายที่ดี ผสมผสานกับการขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ เฉลี่ยรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 – 30,000 บาท หรืออาจจะมากกว่า ซึ่งบางสาขาที่เปิดตัวประสบความสำเร็จอย่างมาก และเปิดสาขาเพิ่มให้กับตัวเอง ยิ่งทำให้มีรายได้และกลายเป็นธุรกิจที่ดีสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้

อย่างไรก็ตามคนที่สนใจอยากเปิดร้านขายสเต็กสิ่งสำคัญคือความขยัน และตั้งใจทำจริง แม้ฮิปสเตอร์สเต็กจะจัดการทุกอย่างให้พร้อม แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนเองว่าจะต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้มากแค่ไหน ใครที่มีไอเดียการตลาดดีๆ จะยิ่งได้เปรียบในเรื่องการขายและทำให้ร้านฮิปสเตอร์สเต็กของเรามียอดขายเพิ่มมากขึ้นได้

 

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ ฮิปสเตอร์สเต็ก
โทร. 094-6789869 , 061-2969887

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต