อีกเหยื่อ! GameStop ร้านค้าปลีกเกมอเมริกา เตรียมปิดอีก 200 สาขาสิ้นปี 62

มีรายงานว่าในปี 2019 คาดว่าจะมีแบรนด์ค้าปลีกอเมริกาปิดตัวลงรวมกันมากกว่า 8,200 สาขา ล่าสุดแบรนด์ค้าปลีก Fred’s, Sears, Kmart, Party City, Walgreens และ Barneys

ก็เป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกที่เพิ่งประกาศปิดร้าน ขณะที่แบรนด์ Payless ก็ได้ประกาศว่า มีแผนจะปิดสาขาทั้งหมด 2,500 แห่ง ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ล่าสุดร้านค้าปลีก GameStop เป็นหนึ่งใน “เหยื่อ” ของอีคอมเมิร์ซ โดยร้านค้าปลีก GameStop ถือเป็นเชนร้านขายวิดีโอเกมรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา โดยมีขายทั้งเครื่องเล่นวิดีโอเกม และแผ่นเกม

ลูกค้าส่วนใหญ่มักเป็นวัยรุ่นชายที่เล่นเกมเป็นงานอดิเรก และต้องไขว่คว้าหาเกมใหม่ๆ มาเล่นกับเพื่อนๆ การเตรียมปิดสาขา 200 แห่งในปลายปี 2562 เป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอให้ทราบ

73

ภาพจาก abc7.ws/2kJJPvd

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ธุรกิจที่ทำรายได้ให้ GameStop เป็นกอบเป็นกำมาโดยตลอดคือ “แผ่นเกมมือสอง” (pre-owned) ที่ลูกค้าซื้อแผ่นเกมใหม่ล่าสุดไปตะลุยเล่นจนจบภายในเวลาไม่กี่วัน จากนั้นนำมาขายกลับให้ GameStop ในราคาไม่แพงมากนัก เพื่อว่า GameStop จะนำไปขายต่อให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่อยากเล่นเกมเดียวกัน แต่ไม่ต้องการจ่ายราคาเต็มเพื่อเล่นแผ่นมือหนึ่ง

แต่เมื่ออุตสาหกรรมเกมเปลี่ยนไป การซื้อเกมแบบแผ่นเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง บริษัทเกมหันมาขายเกมแบบดิจิทัลดาวน์โหลดแบบไม่ต้องมีแผ่นใดๆ กระแสความนิยมนี้เริ่มจากเกมฝั่งพีซีก่อน

แต่ปัจจุบัน วิดีโอเกมคอนโซลทั้ง PlayStation และ Xbox ก็หันมาใช้เกมแบบดาวน์โหลดกันมากขึ้น (ยกเว้นกลุ่มที่ต้องการเก็บสะสมแผ่นจริงๆ จังๆ เท่านั้น ซึ่งก็สามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้เช่นกัน โดยที่ไม่ต้องซื้อจาก GameStop)

72

ภาพจาก engt.co/2lZz3Bq

โดยผลประกอบการของ GameStop ในช่วงหลังจึงร่วงกราวรูด ตั้งแต่ช่วงปี 2016 เป็นต้นมาบริษัทประกาศปิดสาขา 150 แห่งทั่วโลก (จากทั้งหมด 7,500 สาขา) หลังแถลงรายได้ในปี 2016 ที่ตกลง 14% จากเดิม

ล่าสุดบริษัทเตรียมที่จะปิดร้านสาขาในเครือลงไปกว่า 200 แห่งในสิ้นปี และอีกในไม่ช้าคาดว่าจะปิดสาขามากกว่านี้ ซึ่งทาง GameStop ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2019

โดยระบุว่าจากการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีทางการตลาดใหม่เพื่อความคล่องตัวในการบริหาร โดยจะมีการปิดร้านค้าในเครือ GameStop กว่า 180 – 200 แห่งทั่วโลกลงในไม่ช้านี้ และอาจมีการปิดสาขามากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เพิ่มเติมอีก

71

ภาพจาก engt.co/2zAqWAi

เมื่อมองดูจากผลประกอบการ จะพบว่าสถานการณ์ของบริษัทไม่สู้ดีนักในช่วงที่ผ่านมา โดยมีผลกำไรลงลดถึง 14.3% รวมเป็นมูลค่ากว่า 32 ล้านเหรียญหรือประมาณ 1,050 ล้านบาทไทย จึงทำให้ CFO ของ GameStop อย่างคุณ James Bell ต้องประกาศว่าจะมีการปิดร้านสาขาที่ทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้าที่กำหนดเอาไว้ในที่สุด

GameStop ถือเป็นอีกหนึ่งร้านค้าปลีกด้านเกม ที่ต้องมารับชะตากรรมจากผลกระทบของอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกา แต่ละสาขายอดขายลดลง เพราะผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมหันไปดาวน์โหลดเกมทางออนไลน์ ต่อจากนี้ไปต้องรอดูว่าบริษัทจะปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อต้องแข่งขันกับการดาวน์โหลดเกมออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยม (เหมือนร้านเช่าวิดีโอเลย)


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

อ้างอิงข้อมูล

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/3gZyhwL

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช