ลงทุนตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven ใช้เงินเท่าไหร่ คุ้มหรือไม่คุ้ม?

เทรนด์ค้าปลีกรูปแบบใหม่กำลังมาอีกครั้ง โดยเฉพาะตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ หรือ Vending Machine ที่แต่ละเจ้า แต่ละยี่ห้อ ประชันแนวคิด สินค้าหลากหลาย ใช้ง่าย จ่ายสะดวก รวดเร็ว เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส แต่เห็นหลายคนคอมเม้นท์ถามกันบนโลกออนไลน์มากมายว่า ลงทุนตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ หรือวางตู้ 7-Eleven คุ้มหรือไม่คุ้ม วันนี้เรามาหาคำตอบพร้อมๆ กัน

มาดูกันว่า ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่?

ลงทุนตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ

จากการสอบถามไปยังซีพีออลล์ เจ้าของ 7-Eleven ได้ข้อมูลมาว่า การลงทุนกับตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven มี 2 รูปแบบ คือ 1.เสนอพื้นที่ให้ซีพีออลล์เช่าติดตั้งตู้ 2.ซื้อตู้เปล่าๆ ไปติดตั้งเอง

ในส่วนของการเสนอพื้นที่ให้เช่านั้น บริษัท ซีพีออลล์ เป็นผู้รับชอบ เจ้าของพื้นที่จะมีรายได้จากค่าเช่าประมาณ 2,000 บาทต่อตู้ ขนาดพื้นที่ 2 ตารางเมตร ส่วนค่าไฟบริษัทจะคิดตามมิเตอร์ ระยะเวลาเช่า 1 ปี

มาดูการลงทุนแบบซื้อตู้เปล่า (ขนาดเท่ากับตู้ของ 7-Eleven) กันบ้าง ผู้ลงทุนต้องติดต่อไปที่บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ บริษัทลูกในเครือซีพีเช่นกัน ใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 700,000 บาทต่อตู้ ยังไม่รวม VAT ค่าขนส่ง และค่าติดตั้ง ตู้เปล่าตัวนี้ชำระสินค้าด้วยเหรียญ กับ ธนบัตรเท่านั้น ผู้ลงทุนรับผิดชอบซื้อสินค้าเข้าตู้เอง

มาดูกันต่อว่าตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven มีสินค้าอะไรขายในตู้บ้าง เท่าที่เห็นมาจะเป็น อาหารพร้อมทาน, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ขนมขบเคี้ยว, น้ำดื่ม, น้ำอัดลม, น้ำหวาน, น้ำผลไม้, ชา, นม กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง, เครื่องดื่มเกลือแร่, เครื่องดื่มร้อน/เย็นประเภทใส่ภาชนะรองรับ และอืนๆ สรุปก็คือสินค้าที่วางขายในตู้ส่วนใหญ่ใช้ในชีวิตประจำวันนั่นเอง

คำถามที่ว่าลงทุนตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven คุ้มหรือไม่คุ้ม ก่อนอื่นต้องดูว่าคุณจะลงทุนแบบไหน แบบเสนอพื้นที่ให้ 7-Eleven เช่าติดตั้งตู้ หรือแบบซื้อตู้เปล่าไปติดตั้ง ทั้งสองมีจุดคุ้มทุน และคุ้มค่ากว่ากัน

ภาพจาก https://shorturl.at/dxAC3

ถ้าเลือกให้เช่าพื้นที่ติดตั้งตู้ คุณก็ต้องมีพื้นที่อยู่ในทำเลที่ดี คนพลุกพล่าน เช่น คอนโด โรงเรียน มหาลัย โรงพยาบาล สถานที่ทำงาน โรงงาน และถ้า 7-Eleven ตกลงเช่าพื้นที่คุณติดตั้งตู้ สัญญา 1 ปี = 12 เดือน คุณก็จะมีรายได้ 2,000×12 = 24,000 บาท ค่าไฟซีพีออลล์เป็นคนจ่าย เป็นเสือนอนกินโดยไม่ต้องทำอะไร แม้จะเป็นธุรกิจแบบ Passive Income แต่มีคอมเม้นท์ของหลายคนในเรื่องจ่ายค่าเช่า ค่าไฟ ล่าช้า เป็นปัญหาของผู้ให้ให้เช่าติดตั้งเจอมาแล้ว

ส่วนคนเลือกลงทุนแบบซื้อตู้เปล่า 700,000 บาทต่อตู้ ยังไม่รวมค่าติดตั้ง ค่าขนส่ง ค่าสินค้าเข้าตู้ ถ้าคุณมีพื้นที่เองที่เป็นทำเลทอง คนพลุกพล่าน ก็น่าสนใจลงทุน อาจจะคุ้มในระยะยาว แต่จะคืนทุนในกี่ปีไม่มีใครรู้ ตู้จะพังก่อนมั๊ย ค่าซ่อมบำรุงจะเท่าไหร่ จะหาสินค้าตอบโจทย์ลูกค้าได้มั๊ย ยิ่งร้าน 7-Eleven มีอยู่ทุกหัวมุม เป็นปัญหาที่ผู้ลงทุนจะต้องเจอแน่นอน

ยิ่งถ้าใครไม่มีพื้นที่ของตัวเอง ไปเช่าพื้นที่คนอื่น ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก แม้ว่าคุณจะติดตั้งในย่านที่พักอาศัย คอนโด มหาลัย ที่จะเพิ่มการขายสินค้าได้มากขึ้น เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว 24 ชั่วโมง ให้กับผู้พักอาศัย แต่ก็ต้องมีค่าเช่า ค่าไฟตามมา

ลงทุนตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ

ภาพจาก https://shorturl.at/uvS69

มาถึงตรงนี้ถ้าถามว่า จะเลือกลงทุนตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven แบบไหนดี ขอแนะนำว่าถ้าหากใครที่มีพื้นที่ทำเลทองของตัวเองจริงๆ แหล่งคนพลุกพล่าน คนเดินผ่านไปผ่านมาตลอดทั้งวัน ให้เลือกแบบนำเสนอพื้นที่ให้เช่าติดตั้งตู้ เพียงแค่ 2 ตารางเมตรเท่านั้นเอง มีความเสี่ยงน้อย ไม่ต้องดูแลตู้เอง คุ้มกับการลงทุนมากกว่า

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช