ยอดขายโต 6 เท่า! 5 เมนูขายดีหน้าม็อบ เครือข่ายรถลูกชิ้น รถผลไม้

เรื่องร้อนระอุที่สุดตอนนี้คือสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ นับเฉพาะในกรุงเทพฯก็มีหลายจุดทั้งราชประสงค์ สนามหลวง ราชดำเนิน อนุสาวรียชัยสมรภูมิ ฯลฯ และแม้ดูเหมือนจะเป็นวิกฤติแต่นี่กลับเป็นโอกาสของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ต่างบอกว่า “มีม็อบแล้วขายของได้มากขึ้น” และไม่ใช่มากขึ้นธรรมดา ยอดขายเทียบกับสถานการณ์ปกตินั้นโตกว่าเดิม 5-6 เท่า

www.ThaiSMEsCenter.com ได้ลองโฟกัสเฉพาะเจาะจงลงไปพบว่ามีหลายเมนูสินค้าที่ขายดีแต่มี 5 เมนูที่ฮอตฮิตและขายดีมาก มีอะไรบ้าง ลองตามไปดูกัน

1.ข้าวไข่เจียว

เมนูขายดีหน้าม็อบ

ภาพจาก bit.ly/35hKLtN

ข้อมูลจากแม่ค้าข้าวไข่เจียวเล่าว่า “ ข้าวไข่เจียว ขายดีมาก คนชุมนุมต่อคิวกันยาว ต้องสลับกันนอนกับแฟน ที่ม็อบ 2 วันขายข้าวไข่เจียวได้กว่า 300 กล่อง เทียบตอนปกติขายลูกชิ้นที่ท่าเรือลงทุนพันกว่า ต้องขาย 2 วันกว่าจะได้กำไร แต่ที่นี่ได้กำไรกว่า 2-3 เท่าตัว ถือว่าดีมาก”

เมื่อลองวิเคราะห์ต้นทุน-กำไร พบว่า

  • ไข่ไก่เบอร์ 3 = 3 บาท/ฟอง
  • ข้าวสวย = 3 บาท/จาน
  • เครื่องหรือท็อปปิ้ง ซอสพริก = 2 บาท/ 1 อย่าง
  • น้ำมันพืช = 1 บาท
  • แก๊ส = 2 บาท
  • จานกระดาษ / ช้อนพลาสติก / ถุงพลาสติก = 2 บาท

รวมสุทธิ = 16 บาท ราคาขาย 20 บาท/กล่อง กำไร 4 บาท

เฉลี่ยขาย 2 วัน 300 กล่อง กำไร 300 x 4 = 1,200 บาท


2.ข้าวเหนียวไก่ทอด-หมูปิ้ง

15

ภาพจาก bit.ly/34f16jM

ไก่ทอด หมูปิ้ง ก็เป็นเมนูขายดีมากในระหว่างการชุมนุมเช่นกัน แม่ค้าเล่าว่า “ปกติขายที่ตลาดนัดรายได้วันละไม่ถึง 1,000 บาทหักลบกำไรก็เหลือไม่กี่ร้อย แต่มาขายที่ชุมนุม ขายเกินวันละ 1,000 หักลบกำไรเหลือวันละ 800-900 มีโอกาสแบบนี้เราก็ต้องรีบมาขายไว้ก่อน

เมื่อลองวิเคราะห์ต้นทุน-กำไร พบว่า

  • ปีกบนไก่ 1 ชิ้น = 3 บาท
  • น้ำจิ้ม / น้ำมันพืช /แก๊ส /ถุงพลาสติก = 3 บาท

รวมสุทธิ 6 บาท ราคาขายไก่ทอด 1 ชิ้น 10 บาท กำไร 4 บาท

เฉลี่ยขายวันละ 100 ชิ้น กำไร 400 บาท

ต้นทุนวัตถุดิบ (ข้าวเหนียว)

  • ข้าวเหนียว 1 ห่อ = 2 บาท
  • ถุงพลาสติก / แก๊ส = 1 บาท

รวมสุทธิ 3 บาท ราคาขายข้าวเหนียวนึ่ง 1 ห่อ 5 บาท กำไร 2 บาท

ในการชุมนุมแต่ละวันขายไก่ทอด-หมูปิ้ง ได้จำนวนมาก มากกว่าที่ขายในตลาดปกติ กำไรเฉลี่ย/วัน 800-900 มากกว่าเดิม 2-3 เท่า


3.ลูกชิ้นทอด

14

ภาพจาก bit.ly/31pD8AC

แม่ค้าลูกชิ้นทอดก็ออกมาพูดเช่นกันว่า “มีม็อบดีกว่า เพราะขายของได้มากขึ้น ใครจะว่าไงเราไม่รู้แต่เรามันคนจน มีโอกาสขายเราก็ต้องขาย ขายปกติได้กำไรวันละ 200-300 บาท บางวันก็เท่าทุน มาขายที่ม็อบ กำไรวันละ 600-700 ดีกว่าเยอะ”

เมื่อลองวิเคราะห์ต้นทุน-กำไร พบว่า

  • ลูกชิ้นหมูไม้ละ (4 ลูก) = 3.95 บาท / ไม้
  • น้ำจิ้ม / น้ำมันพืช / แก๊ส / ถุงพลาสติก = 4 บาท

รวมสุทธิ = 7.95 บาท ราคาขาย 10 บาท / ไม้ กำไร 2.05 บาท

เฉลี่ยขายวันละ 200 ไม้ กำไร 405 บาท / วัน ขาย 4 วันมีกำไรมากกว่า 800 บาทดีกว่าเดิมกว่า 2 เท่า


4.น้ำและเครื่องดื่ม

13

ภาพจาก bit.ly/2Hie47l

สินค้าที่ขายดีที่สุดก็คือน้ำและเครื่องดื่มโดยแม่ค้าเล่าว่า “ลงทุนประมาณ 3,000 ขายได้ประมาณ 7,000 หักทุนแล้วก็ได้ประมาณ 4,000 มันก็เยอะอยู่ ขายปกติรายได้วันละ 300-500 พอวันที่มีม็อบรายได้ก็คูณขึ้นมา 10 เท่า”

เมื่อลองวิเคราะห์ต้นทุน-กำไร พบว่า

  • น้ำดื่มคริสตัล 1 ขวด = 4 บาท (ขนาด 600 มิลลิลิตร) ราคาขายขวดละ 10 บาท / กำไร 6 บาท
  • เครื่องดื่มชานม กาแฟ ลงทุนซื้อวัตถุดิบ + น้ำแข็ง ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 – 2,000 บาท ราคาขายแก้วละ 20 บาท ขายได้ต่อวัน 200 แก้ว รายได้ 4,000 บาท 

รวมกับน้ำดื่มธรรมดา สร้างรายได้ต่อวัน 5,000 – 6,000 บาท ดีกว่าการขายปกตินับ 10 เท่า


5.ผลไม้

12

ภาพจาก bit.ly/35hKLtN

พ่อค้าผลไม้ก็ได้รับอานิสงส์จากการชุมนุม พ่อค้าเล่าว่า “ราคาของทุกอย่างมันแพงไปหมด ขายตลาดปกติก็ขายได้ไม่มาก ต้นทุนเราก็เยอะ อย่างมันแกวเคยซื้อ 10 โล 80 บาท ก็กลายเป็น 160 บาท มาขายที่ม็อบขายได้ดีกว่า คนซื้อเยอะกว่า กำไรมากกว่าเดิม 2 เท่า”

เมื่อลองวิเคราะห์ต้นทุน-กำไร พบว่า

  • ยกตัวอย่างราคาผลไม้มันแกว 10 โล 160 บาท  ราคาขายถุงละ 10 บาท ขายได้ 100 ถุง/วัน รายได้ 1,000 บาท

หักลบต้นทุนผลไม้อื่นๆ +ค่าใช้จ่ายจิปาถะ มีกำไรต่อวันประมาณ 500-600 บาท ดีกว่าปกติ 2-3 เท่า

ซึ่งนอกจากสินค้าที่ยกตัวอย่างมาเหล่านี้ ก็ยังมีอีกหลายเมนูที่ขายดีอย่างพ่อค้าไอศกรีมก็เล่าว่า “ปกติขายได้วันละ 700-800 บาทหักลบรายจ่ายก็เหลือแค่พอซื้อข้าวกินไปวันๆ บางวันกำไรก็หาย ขายไม่ได้ค่าน้ำมันรถ มาขายที่ม็อบรายได้เกินกว่าหลักพันหักลบรายจ่ายมีกำไรเหลือวันละ 600-700 บาท เห็นโอกาสเราต้องไปเราคนจนมันเลือกไม่ได้”

หรือแม้ค้าเคบับที่ขายปกติได้วันหนึ่งไม่ถึง 500 บาท ลงทุน1ครั้งต้องขายถึง 3วันกว่าจะได้กำไรแต่พอมีม็อบขายแค่คืนเดียวก็คืนทุนได้หมดและยังมีวัตถุดิบเหลืออีกกว่า 10 กิโลกรัมที่เป็นส่วนของกำไร เฉลี่ยขายที่ม็อบได้ประมาณวันละ 200ห่อ ห่อละ 60 บาท รายได้ประมาณ 12,000 ถือว่าดีมาก

เพราะไม่เคยขายได้ขนาดนี้มานานมากแล้ว และไม่ว่าเรื่อง “ม็อบ” จะเป็นความเห็นต่างทางการเมืองแบบไหนอย่างไร แต่ในมุมของพ่อค้าแม่ค้าที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เศรษฐกิจไม่ดี ขายของไม่ได้” การมีม็อบจึงเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่พ่อค้าแม่ค้าต้องรีบไขว่คว้าเอาไว้

ในฐานะของพ่อค้าแม่ค้าไม่ได้เลือกข้างหรือขวักไขว่ฝ่ายใด ขอเพียงแค่ที่ไหนมีคน ตรงไหนมีกำลังซื้อมาก ๆ มีวิธีไหนที่จะขายของได้มากๆ เมื่อโอกาสมาก็ต้องรีบคว้า ขืนรอให้คนอื่นมาช่วย หรือรอแค่เงินแจก คงได้อดตายกันยิ่งกว่าเดิม


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3jemqdF , https://bit.ly/3j89llW , https://bit.ly/2Heju3C , https://bit.ly/3jbR07G , https://bit.ly/37sY65z 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2T9twWd

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด