ตู้แช่เบียร์วุ้น ทำกำไรเกินใจคิด!

หลังจากที่กรมสรรพสามิตปรับภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ใหม่ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต 2560 ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2560 นั้นทำให้เครื่องดื่มยอดนิยมอย่างเบียร์นั้นเสียภาษีเพิ่มขึ้น 99 สตางค์ ราคาขายปลีกในท้องตลาดจึงปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2-3 บาท/ขวด

มองในอีกมุมหนึ่งนี่คือผลกระทบที่ร้านประเภทนั่งดื่มทั้งหลายจะต้องแบกรับ แต่ในอีกมุมหนึ่งเช่นกันสำหรับคอเบียร์ทั้งหลายแล้ว แม้ราคาจะปรับสูงขึ้นมาแต่หากใจรักจะดื่มแล้วบางทีเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาและยิ่งปัจจุบันกลยุทธ์การขายของร้านเหล้าเบียร์ที่มีการลงทุนในตู้แช่เบียร์วุ้น ยิ่งกลายเป็นจุดขายที่ดึงดูดนักดื่มได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาทุกท่านไปดูกันว่าตู้แช่เบียร์วุ้นในร้านเหล้าเบียร์เหล่านี้ชูโรงสร้างกำไรให้กับธุรกิจตัวเองได้อย่างไร เบียร์วุ้นก็คือเบียร์ที่เย็นจัดจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งเริ่มแพร่หลายมาจากคอเบียร์ชาวอเมริกันและเป็นวัฒนธรรมการดื่มเบียร์ที่ฮอตฮิตไปทั่วโลกแม้บางครั้งจะถูกดูแคลนว่าเบียร์วุ้นคือค่านิยมการดื่มเบียร์ที่ผิดเพราะทำให้เบียร์นั้นเสียอรรถรสที่แท้จริงของตัวเองไป

ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรแต่ทุกวันนี้ ร้านอาหาร ร้านเหล้า ผับบาร์ ในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะมีตู้แช่เบียร์วุ้นไว้เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าและลูกค้าเองก็ดูจะสนใจเบียร์วุ้นเป็นพิเศษเช่นกัน ในปี2560 ที่ผ่านตลาดตู้แช่เย็นแช่แข็งในเมืองไทยนั้นมีมูลค่าสูงถึง 4,000 ล้านบาท สามารถเติบโตได้จาก2-3 ปีก่อนถึงร้อยละ 10-15

ตู้แช่เบียร์วุ้น

แน่นอนว่ามูลค่าโดยรวมนี้สัดส่วนใหญ่คือตู้แช่แข็งแช่เย็นทั่วไป แต่ที่เติบโตขึ้นมาแบบพุ่งแรงในสัดส่วนที่ไม่ธรรมดาคือบรรดาตู้แช่เบียร์วุ้นที่หากเราลองเข้าไปค้นหาสินค้านี้ในอินเทอร์เนตจะพบผู้ประกอบการจำนวนมากที่ต่างก็ชูจุดเด่นและเทคโนโลยีของตู้แช่เบียร์วุ้นที่การันตีว่าทำให้ธุรกิจร้านเหล้าและเบียร์มีกำไรได้มากขึ้นแน่

ทีนี้ลองมาสำรวจในตลาดตู้แช่เบียร์วุ้นกันเพียงอย่างเดียว เราจะพบยี่ห้อตู้แช่เบียร์วุ้นมากมายเช่น Sofreez , Ice Mart , Longcool , Sub-zero Cooler , Haier , Sanden เป็นต้น แต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นในตัวเองที่แตกต่างกันออกไปราคาก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน แต่ภาพรวมแล้วตู้แช่เบียร์วุ้นเหล่านี้จะมีขนาดให้เลือกตามความต้องการของร้านค้าซึ่งขนาดของตู้ก็แปรผันตามราคาและปริมาณบรรจุเช่น

  • ขนาดความจุ 40 ขวด ราคาประมาณ 15,000 บาท ค่าไฟเฉลี่ย 7 บาท/วัน
  • ขนาดความจุ 60 ขวด ราคาประมาณ 17,000 บาท ค่าไฟเฉลี่ย 9 บาท/วัน
  • ขนาดความจุ 90 ขวด ราคาประมาณ 19,000 บาท ค่าไฟเฉลี่ย 10 บาท/วัน
  • ขนาดความจุ 140 ขวด ราคาประมาณ 23,500 บาท ค่าไฟเฉลี่ย 12 บาท/วัน

p5

ภาพจาก facebook.com/Thanacoolsale

เราจะเห็นได้ว่าหากคิดจะเปิดร้านเหล้า ร้านเบียร์ หรือร้านอาหารที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการลงทุนในตู้แช่เบียร์วุ้นขั้นต่ำต้องเริ่มที่ประมาณ 15,000 บาท คำถามคือว่าแล้วการลงทุนนี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีขนาดไหน ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหากที่ร้านเรามีบริการเบียร์วุ้นไว้ให้ลูกค้าก็จะช่วยในการดึงดูดความสนใจให้คนเข้าร้านเพิ่มมากขึ้น

และในเรื่องของราคาขายโดยเบียร์ที่ยังไม่ได้เป็นเบียร์วุ้นแต่ละยี่ห้อราคาจะแตกต่างกันเช่น ลีโอ 56 บาท สิงห์ 63 บาท ช้าง 56 บาทเป็นต้น แต่เมื่อมาทำเป็นเบียร์วุ้นราคามักจะปรับสูงขึ้นตามแต่กลไกในการบริหารของแต่ละร้านโดยเฉลี่ยราคาเบียร์วุ้นอย่างเช่นลีโอจะอยู่ประมาณ 59 บาท จะมีส่วนต่างอยู่ 3 บาท

p4

ภาพจาก facebook.com/Thanacoolsale

เรามาลองคิดจากตู้แช่เบียร์วุ้นขนาดเล็กบรรจุ 40 ขวด ขายขวดละ 59 = 2,360 บาท ซึ่งต้องเอาไปหักลบต้นทุนค่าเบียร์ที่เป็นวัตถุดิบเริ่มต้นซึ่งราคาทุนส่วนใหญ่หากซื้อในปริมาณมากๆ ราคาต่อขวดไม่ถึง 56 บาท ก็แสดงว่าจะมีกำไรต่อขวดเมื่อทำเป็นเบียร์วุ้นประมาณขวดละ 4-5 บาทเป็นอย่างน้อย

ถ้าเรามองดูแค่ตัวเลขนี้อาจไม่เห็นภาพว่าแล้วจะคืนทุนได้เมื่อไหร่เมื่อค่าตู้เบียร์วุ้นนั้นไม่น้อยกว่า 15,000 บาท แต่อย่าลืมว่าหากเป็นร้านที่คนนิยมแต่ละคืนที่เปิดขายปริมาณเบียร์ที่ขายได้นั้นขั้นต่ำน่าจะเกิน 100 ขวดขึ้นไป ก็หมายความว่าโอกาสเป็นกำไรก็มากขึ้นยังไม่รวมอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆที่อยู่ภายในร้าน ซึ่งการใช้จุดขายว่าที่ร้านมีเบียร์วุ้นไว้คอยบริการก็จะดึงลูกค้าให้เข้าร้านได้มากขึ้นด้วย

p3

เฉลี่ยค่าไฟของตู้แช่เบียร์วุ้นเหล่านี้ประมาณเดือนละ 300 บาท แต่หากลองหักลบกับยอดขายที่ได้จากเบียร์วุ้นแล้วน่าจะทำให้เจ้าของร้านนั้นพึงพอใจได้ ดูได้จากร้านค้า ร้านอาหาร ผับบาร์ในปัจจุบันที่ ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะเดินเข้าร้านไหนหากสั่งเบียร์วุ้นรับรองมีเสิร์ฟให้เราทุกร้านแน่นอน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด