กว่าจะยิ่งใหญ่! Search Engine จากกลุ่มเล็กๆ สู่ธุรกิจที่คนทั่วโลกต้องรู้จัก

ธุรกิจระดับโลกมากมายเติบโตขึ้นมาจากความคิดเล็กๆ การลงมือทำด้วยคนไม่กี่คน แต่ปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจระดับโลกที่มีมูลค่าการตลาดสูงจนไม่อาจประเมินค่าได้

ซึ่งวิวัฒนาการของธุรกิจ Search Engine เหล่านี้ไม่ได้เติบโตและแข็งแกร่งในทันที จากระยะเวลานับ 10 ปีผ่านกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาต่อเนื่องจนเดี๋ยวนี้เรียกว่าคลอบคลุมทุกสิ่งที่เราต้องการอยากรู้อะไรอยากได้อะไรแค่คลิ๊กหาเขาบันดาลมาให้เราถึงหน้าจอคอมพิวเตอร์ทีเดียว

www.ThaiSMEsCenter.com พาทุกท่านไปรู้จัก Search Engine ที่น่าสนใจว่าตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้มีพัฒนาการอย่างไรและแนวโน้มในอนาคตจะมีเทคนิคใหม่ๆแบบไหนมานำเสนอเพื่อเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ทันสมัยมากไปกว่าเดิมบ้าง

1. facebook

Search Engine

Mark Zuckerburg ผู้ก่อตั้ง facebook เว็บไซต์ด้านสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีผู้ใช้ Facebook เฉลี่ย 1,230,000,000 รายต่อเดือน  แต่จุดเริ่มต้นของ facebook ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ZuckerBurg เปิดตัวครั้งแรกใช้ชื่อ “ Thefacebook” จากห้องพักในมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเมื่อ ค.ศ. 2004 ตอนนั้นจะเน้นข้อมูลประวัติโดยรวมเท่านั้น พวกสถานะ หรือแบบ feed ข่าวต่างๆยังไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย

ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา เริ่มมีการปรับโฉมและเพิ่มลูกเล่นอย่างต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่การสร้าง News Feed มีสถานะต่างๆมาเกี่ยวข้อง รวมถึงเริ่มการสร้างกิจกรรมต่างๆใน facebook และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดอีกครั้งในปี 2008 ที่ยอดสมาชิกทะลุเกินกว่า 100 ล้านราย มีการเปิดตัวบริการ Facebook Chat, กำเนิด facebook Wall และ Facebook บน iPhone ในปีนั้น และสามารถกรอง feed ที่แสดงกลางหน้าเว็บ facebook ได้ด้วย

การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2012 ที่เพิ่ม facebook app บนเว็บ และก็มี ticker ในปีเดียวกัน และเมื่อโทรศัพท์เริ่มมีพัฒนาการมากขึ้น facebook ก็พัฒนาตัวเองอีกครั้งให้สามารถใช้งานได้ในระบบ Android , iOS และ Windows 8.1 อีกด้วย

2.Google

b2

การเปิดตัวของ Google เริ่มในปี 1995 โดย แลร์รี่ เพจและเซอร์เกย์ บริน สองนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด การทำงานร่วมกันครั้งแรกคือการสร้างเครื่องมือค้นหาชื่อว่า “BackRub”ที่ทำงานได้เฉพาะในserverของสแตนฟอร์ดเท่านั้น

จากก้าวแรกตรงนั้นก็นำมาสู่การจดทะเบียนโดเมนในชื่อ “Google.com” ซึ่งเป็นการเล่นคำของ “googol” ซึ่งเป็นศัพท์คณิตศาสตร์ที่หมายถึงการจัดระเบียบข้อมูลปริมาณนับไม่ถ้วนที่อยู่ในเว็บไซต์

เมื่อกลายมาเป็นชื่อ Google.com สิ่งแรกที่เปิดตัวคือ”จดหมายข่าวเพื่อน Google” ซึ่งยังเป็นแค่การแจ้งข่าวแบบรายเดือน ซึ่งในปัจจุบันจดหมายข่าวเพื่อน Google ได้ปิดไปแต่พัฒนาเอาบล็อก, Google+ และวิธีการแชร์ข่าวสารอื่นๆ เข้ามาแทนที่นั่นเอง

นับจากนั้นก็เริ่มมีการเปิดตัวบริการต่างๆออกมาอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น Google Web Search บริการค้นหาเว็บไซต์ข้อมูลต่างๆ Google Translate บริการแปลภาษาที่สามารถออกเสียงคำหรือประโยคต่างๆได้ Google Scholar บริการค้นหาผลงานด้านวิชาการ สิ่งพิมพ์ต่างๆ Google maps บริการค้นหาเส้นทาง แสดงแผนที่ทั่วโลก

Google Earth สำหรับการค้นหาสถานที่ที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นจากข้อมูลผ่านดาวเทียม รวมแล้วมีบริการใน Google แบบคลอบคลุมมากกว่า 30 รายการ กลายเป็น Search Engine ที่คนทั่วโลกรู้จักและใช้งานมากที่สุด

3.Yahoo.com

b3

ในเดือนมกราคมปี 1994 คู่หูนักศึกษาสแตนฟอร์ดสองคนคือ เจอร์รี่ หยาง และ เดวิด ไฟโล ได้สร้างเว็บไซต์ที่ชื่อว่า “Jerry’s Guide to the World Wide Web”เป็นเว็ปไซ์ประเภทที่รวบรวมlink ต่างๆเข้าเป็นหมวดเป็นหมู่ เพื่อง่ายต่อการค้นหา หลังจากนั้นเดือนเมษายนของปีนั้น ชื่อของเว็ปไซต์ก็ได้เปลี่ยนเป็น YAHOO!ชื่อเต็มคือ Yet Another Hierarchical Officious Oracle

ในปลายปีเดียวกันนั้นYAHOO! ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มียอดการใช้งานเว็ปไซต์ถึง 1 ล้านฮิตเลยที่เดียว และเริ่มมีการจัดตั้งขึ้นมาในรูปแบบของบริษัท

ซึ่ง YAHOO! ก็คล้ายกับเว็บ Search Engine และเว็บไดเร็คทอรี่หลายๆ แห่ง ในช่วงปลายทศวรรษ 90 YAHOO!ได้ควบซื้อกิจการของบริษัทอินเทอร์เน็ตต่างๆ หลายต่อหลายบริษัทเพื่อขยายขอบข่ายการให้บริการเพื่อที่ว่า คนที่ใช้งานบนโลกอินเตอร์เน็ตนั้นจะใช้งานอยู่ในเว็ปของพวกเค้าได้นานขึ้น

กิจการของ YAHOO จึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็ติดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา 150บริษัท มีบริการข่าวสารต่างๆ ห้องchatr room และบริการต่างๆอีกมากมาย แต่ในเรื่องการค้นหาข้อมูลนั้นก็ยังได้รับความนิยมอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้จะมีคู่แข่งมากขึ้นทุกทีก็ตาม

4. youtube

b4

Youtube เป็นการดำเนินธุรกิจประเภทที่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจาก กูเกิร์ล โดยได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี 2548 บุคคลที่เป็นแกนนำสำคัญของ youtube คือ ชาร์ด เฮอร์เลย์ (Chad Hurley) เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร (CEO) สตีฟว์ เชน (Steve Chen) เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) และ จาร์เวด การิม (Jawed Karim) เป็น ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษา

ในปี 2549 ยู Youtube มีพนักงานหรือลูกจ้างในการปฏิบัติงาน 67 คน ซึ่ง Youtube นั้นอยู่ในธุรกิจการดำเนินงานหรือเป็นเจ้าของโดย กูเกิร์ล(Google) มีสโลแกนเพื่อกระตุ้นจูงใจว่า “คลื่นเสียงนี้เป็นของคุณ (Broadcast Yourself)” และมีเว็บไซต์ http://www.youtube.com ซึ่งYoutube มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

จากการให้บริการวิดีโอแบบไม่มีค่าใช้จ่าย (free video sharing) และเปิดบริการเว็บไซต์ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปอัพโหลดน์(upload) เพื่อให้เห็นภาพและแลกเปลี่ยนภาพและเสียงผ่านคลิปวิดีโอต่างๆ

การพัฒนาของ Youtubeเหมือนเป็นกับวิสาหกิจแบบ Angel Investor ที่เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ สำนักงานมีมูลค่าไม่สูง แต่เมื่อมีกองทุนเข้ามาสนับสนุนทำให้มีการลงทุนที่สูงขึ้น มูลค่าของ Youtube ก็ก้าวกระโดดอย่างทันตาเห็นและกลายเป็นช่องทางในโลกออนไลน์ที่ได้ผลและทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่งในปัจจุบัน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก:  http://goo.gl/ZmF6nY

ขอบคุณรูปภาพจาก: http://goo.gl/Lzgtgv

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด