ตลาดนัด กรีนเดย์ไนท์ Night Market ตลาดกลางคืน ย่านเซ็นทรัล พระราม 2

ตลาดกลางคืน หรือ Night Market  คงตอบโจทย์ใครหลายคนที่อยากเดินเล่น หรือจับจ่ายซื้อของแบบสัมผัสบรรยากาศสบายๆ รับลมกลางคืนเย็นๆ โดยไม่ต้องกังวลกับการหลบเลี่ยงแสงแดดอันร้อนระอุในตอนกลางวันเลยแม้แต่น้อย มีสินค้าที่น่าสนใจมากมายให้ได้เลือกสรรในราคาสบายกระเป๋า ชวนให้รู้สึกเพลิดเพลินใจ

…วันนี้ ThaiSMEsCenter.com จึงอยากจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ “กรีนเดย์ ไนท์” ตลาดกลางคืนที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 2 ซึ่งก่อตั้งโดยอนุสรณ์ เจริญมี หรือ “พี่อ้น” เจ้าของตลาดอารมณ์ดี ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์มามากมาย กว่าจะมาเปิดตลาดแห่งนี้ได้อย่างสำเร็จในปัจจุบัน

กรีนเดย์ ไนท์ คนเริ่มเดินตลาดนัด ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ
กรีนเดย์ ไนท์ คนเริ่มเดินตลาดนัด ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ

จุดเริ่มต้น กรีนเดย์ไนท์

พี่อ้นเล่าว่า ก่อนจะมาเปิดตลาดแห่งนี้ ตนเองเป็นพ่อค้าตามตลาดนัดต่างๆ มาก่อน ชีวิตค้าขายเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพราะต้องการหารายได้พิเศษ สินค้าที่เคยนำมาขายนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่คอนแทคเลนส์ งานแฮนด์เมด และจิปาถะอื่นๆ เรียกว่าสินค้าอะไรก็ตามที่ทำเงินเขาลองนำมาขายหมด เขาใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ค้าขายรวมถึงศึกษาข้อมูลจากตลาดดังๆ ในหลายๆ แห่งเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี จนมีความพร้อมทั้งประสบการณ์และเงินทุน จึงตัดสินใจเปิดตลาดเป็นของตัวเอง

“ผมเห็นตลาดดังๆ ที่ประสบความสำเร็จ ก็มีความคิดว่าอยากทำได้เหมือนเขา เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ นำความรู้จากตลาดที่ดีมาบ่มเพาะ ประกอบกับมีสิ่งเกื้อหนุนต่างๆ จนมีความพร้อม เราก็เริ่มมองหาทำเลที่จะเปิดตลาดของตัวเอง  ผมเซอร์เวย์ดูพื้นที่หลายแห่ง การจะหาทำเลในการเปิดตลาดต้องดูว่าใกล้แหล่งอะไรบ้าง พื้นที่ตรงนั้นติดถนนไหม เป็นแหล่งชุมชนไหม แหล่งสถานบันเทิงหรือแหล่งท่องเที่ยวหรือเปล่า รวมถึงการคมนาคมสะดวกสบายไหม จนกระทั่งมาลงตัวที่พื้นที่แห่งนี้”

อนุสรณ์ เจริญมี หรือ “พี่อ้น” เจ้าของตลาด Green Day Night Rama2
อนุสรณ์ เจริญมี หรือ “พี่อ้น” เจ้าของตลาด Green Day Night Rama2

เมื่อตลาดก่อตั้งเสร็จ ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาพ่อค้าแม่ขายมากมายที่มาจับจองพื้นที่ มีการบอกกันแบบปากต่อปากในหมู่เพื่อนฝูงพ่อค้าแม่ขายที่เคยค้าขายด้วยกัน เพียงไม่นาน ตลาดแห่งนี้จึงคึกคัก และได้รับการกล่าวถึง ซึ่งนอกจากจะมีพ่อค้าแม่ขายที่เป็นเพื่อนฝูงของพี่อ้นที่มาค้าขายกันประจำแล้ว ในแต่ละวัน ยังมีพ่อค้าแม่ขายขาจรมากมายที่รอคิวจองล็อคขายของกันอย่างเนืองแน่น ซึ่งตลาดแห่งนี้มีจำนวนร้านค้าเกือบ 700 ร้านเลยทีเดียว

สำหรับปัญหาในแต่ละวันที่ต้องพบเจอในการเปิดตลาดนั้น พี่อ้นเล่าว่า พบอุปสรรคน้อยมาก เนื่องด้วยมีทีมงานที่ทำงานกันอย่างเป็นทีมเวิร์ค และรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองกันอย่างดี

“ถ้าพูดถึงปัญหาหรืออุปสรรคนั้นแทบจะ 0% เพราะเราแบ่งหน้าที่ในแต่ละฝ่ายอย่างเรียบร้อย ตั้งแต่พนักงานรับรถ ดูแลตลาด เก็บค่าเช่าแผง ฝ่ายเสมียน บัญชี เราประชุมกันทุกสัปดาห์ เมื่อพบจุดไหนเล็กๆ น้อยๆ ที่ผิดพลาดก็รีบแก้ไข ปัญหามันจึงไม่บานปลายหรือใหญ่โตเลย ณ ตอนนี้ก็ถือว่าตลาดประสบความสำเร็จ ก้าวข้ามมา 50% แล้ว ”

ตลาดนัดนี้ แบ่งเป็นซอย เป็นล๊อค ช่วยให้ค้นหาร้านได้ง่ายขึ้น
ตลาดนัดนี้ แบ่งเป็นซอย เป็นล๊อค ช่วยให้ค้นหาร้านได้ง่ายขึ้น

ความแตกต่างที่ต้องมาเยือน

หากพูดถึงจุดเด่นของตลาดแห่งนี้ พี่อ้นบอกว่า ตลาดจะเป็นตัวบ่งบอกสินค้า หากเป็นตลาดนัด ก็จะพบเจอกับสินค้าทั่วไป แต่ถ้าเป็นตลาดไนท์ จะต้องทำการคัดสรรสินค้ามาจำหน่าย ที่กรีนเดย์ไนท์จึงมีสินค้าที่ไม่เหมือนใคร โดดเด่นจากตลาดแห่งอื่นด้วยการจำหน่ายสินค้าที่เป็นงานแฮนด์เมด  วินเทจ สินค้าโอทอป และของมือสองคุณภาพดี โดยมีแนวความคิดที่ว่า ตลาดแห่งนี้จะรวบรวมสินค้าที่ทุกคนต้องการ โดยที่ไม่ต้องไปหาซื้อจากที่อื่น หรือสั่งสินค้าในอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะไม่ได้เห็นสินค้าของจริง

กรีนเดย์ไนท์ จะแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน  โซนแรกคือด้านหน้าตลาด จะเป็นโซนของกลุ่มงานแฮนด์เมด วินเทจ ที่สินค้าไม่เหมือนใคร โซนต่อมาคือโซนพลาซ่า จะจำหน่ายสินค้าทั่วไป แบ่งออกเป็น 8 ซอย และโซนสุดท้ายเป็นโซนฟู้ด จำหน่ายอาหารรสชาติอร่อยหลากหลายประเภท ซึ่งแบ่งออกเป็น 8 ซอยเช่นกัน

นอกจากนี้ ที่ตลาดยังมีการจัดงานอีเว้นท์และปาร์ตี้ต่างๆ ในทุกๆ เทศกาลอีกด้วย เช่นงานวันเด็ก งานปาร์ตี้ชุดเอี๊ยม งานปีใหม่ ซึ่งในงานปีใหม่ที่ผ่านมานั้น โซนอาหารของตลาดมีการแจกอาหารฟรีในเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการ รวมไปถึงในทุกๆ สัปดาห์หรือทุกๆ เดือน ที่ตลาดแห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่กลุ่มนักขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จะมารวมตัวกันเพื่อพบปะสังสรรค์กันอีกด้วย
อยากเป็นเจ้าของตลาดต้องทำอย่างไร

พี่อ้นแนะนำว่า หากใครอยากจะเป็นเจ้าของตลาดแบบเขา เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องมีใจรัก รักที่จะทำและวางเป้าหมาย ประการสำคัญรองลงมาคือต้องมีสิ่งเกื้อหนุน ซึ่งสิ่งเกื้อหนุนสำหรับตัวเขาเองคือเพื่อนฝูงพ่อค้าแม่ขายที่เคยขายของร่วมกันมา เมื่อเขาเปิดตลาดจึงได้รับความร่วมมือจากเพื่อนๆ ซึ่งมาขายของที่ตลาดของเขา นอกจากนี้คือประสบการณ์การเรียนรู้ และการเก็บเกี่ยวข้อมูล นำข้อมูลจากตลาดที่ประสบความสำเร็จแล้วมาเรียนรู้และประยุกต์ใช้กับตลาดของตัวเอง ส่วนประการสุดท้ายก็คือเงินในการลงทุน

เคสไม้ และพวงกุญแจไม้ ได้รับความนิยมจากวัยรุ่น อย่างต่อเนื่อง
เคสไม้ และพวงกุญแจไม้ ได้รับความนิยมจากวัยรุ่น อย่างต่อเนื่อง

คุยกับพ่อค้าแม่ขายในกรีนเดย์ไนท์

หลังจากได้พูดคุยกับเจ้าของตลาดแล้ว ลองมาฟังมุมมองของพ่อค้าแม่ขายในตลาดแห่งนี้กันบ้าง ทีมงาน ThaiFranchiseCenter.com ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่นุ เจ้าของร้านแฮนด์เมดงานไม้ ที่ค้าขายในตลาดแห่งนี้มาตั้งแต่ตลาดเปิด

พี่นุเล่าให้ฟังว่า เดิมทีตนเองเปิดร้านคาร์แคร์ เมื่อหมดสัญญาเช่าจึงเปลี่ยนอาชีพมาเป็นพ่อค้า เริ่มแรกขายเสื้อผ้าผู้หญิงทั่วไป และเสื้อกันหนาว แต่สังเกตว่าร้านขายเสื้อผ้านั้นมีเป็นจำนวนมากแล้ว ประกอบกับเมื่ออากาศหนาวผ่านไป เสื้อกันหนาวจึงขายไม่ได้ พีนุจึงเปลี่ยนมาขายงานแฮนด์เมด ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว

“เราชอบงานแฮนด์เมดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยไม่ต้องเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับงานมากนัก ที่สำคัญตลาดนี้อยู่ใกล้บ้าน จึงเลือกที่จะมาค้าขายที่นี่ และตลาดก็ตอบโจทย์ได้ในระดับหนึ่ง เพราะสิ้นค้าของเราไม่เหมือนใครในตลาด มีร้านเราร้านเดียว จึงยังไม่มีคู่แข่ง”

ที่ร้านของพี่นุจำหน่ายทั้งเคสไม้ และพวงกุญแจไม้ที่ลูกค้าสามารถสั่งให้ออกแบบชื่อของตัวเองลงบนพวงกุญแจได้ ราคาของพวงกุญแจไม้แบบชิ้นเดียวนั้นราคา 79 บาท หากซื้อเป็นคู่ ราคา 150 บาท และสำหรับเคสไม้ ราคา 250 บาท ที่ผ่านมาอาจมีบางวันที่ขายได้น้อยบ้างเพราะฝนตก แต่ก็ไม่เป็นปัญหามากนัก รายได้ต่อวันประมาณ 1,000 บาท
พี่นุแนะนำว่า สำหรับคนที่อยากจะมาค้าขายที่ตลาดนั้นจะต้องมีใจรักในงานที่ทำมาเป็นอันดับแรก จากนั้นต้องมีเงินในการลงทุน และรู้จักเลือกทำเลค้าขายให้เหมาะสม

เสื้อผ้า สินค้าขายดี
เสื้อผ้า สินค้าขายดี

ถัดไปจากแผงของพี่นุไม่ไกลนัก เราได้พูดคุยกับน้องเจมส์ พ่อค้าอายุน้อยอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ ที่เจ้าตัวกับพี่ชายเป็นคนออกแบบเสื้อผ้าเองทั้งหมด น้องเจมส์เล่าให้ฟังว่า เริ่มมาค้าขายตั้งแต่ตลาดแห่งนี้เปิด และยึดอาชีพค้าขายควบคู่ไปกับการเรียน ซึ่งเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้  โดยตนเองนั้นเรียนทางด้านออกแบบอยู่แล้ว จึงนำความรู้ที่เรียนมาใช้ออกแบบเสื้อผ้าให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

“ผมทำร่วมกับพี่ชาย เสื้อผ้าของเราจะโดดเด่นที่สไตล์ เราจะออกแบบเสื้อผ้าในคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะส่งไปให้ร้านเพื่อสั่งตัด ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราก็จะเป็นวัยรุ่นผู้ชาย ราคาเสื้อผ้าที่ขายจะอยู่ที่ 100-350 บาท ที่ผ่านมาเรามีรายได้เฉลี่ยวันละ 2,000 -3,000 บาท “ น้องเจมส์จะมาขายเสื้อผ้ากับพี่ชายในทุกๆ วัน และวางแผนไว้ในอนาคตว่า จะเรียนทางด้านออกแบบต่อไปอีกเพื่อมาใช้ต่อยอดให้กับธุรกิจ

ตลาดอยู่ติดกับโรงเบียร์ ฮอลแลนด์
ตลาดอยู่ติดกับโรงเบียร์ ฮอลแลนด์

แวะเยี่ยมชม หรือค้าขายที่ กรีนเดย์ไนท์

ใครที่อยากมาตลาด กรีนเดย์ไนท์ นั้น สามารถเดินทางมาได้ที่ถนนพระราม 2 ตลาดจะอยู่ติดกับโรงเบียร์ฮอลแลนด์ ใกล้กับเซ็นทรัลพระราม 2 ตลาดเปิดตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็น – ตี 1 ของทุกค่ำคืน ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำหรับรถประจำทางที่ผ่าน ได้แก่สาย 76, 68, 105, 147, 140, 141, 142, 169 , 529 , 17 และ 85

สำหรับพ่อค้าแม่ขายที่สนใจอยากจะมาค้าขายที่กรีนเดย์ไนท์ สามารถติดได้ที่สำนักงานของตลาดโดยตรง หรือทางแฟนเพจเฟสบุ๊คชื่อ “ตลาดกรีนเดย์ไนท์”  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 094 441 1868 ราคาค่าเช่าแผงทั่วไป 80 บาทต่อวัน ยกเว้นแผงอาหาร ราคา 100 บาท ค่าไฟหลอดเล็ก 10 บาท และหลอดใหญ่ 20 บาท (เวลาที่เหมาะสมในการจองล็อคคือเวลาตั้งแต่บ่าย 3 เป็นต้นไป)

Special Offer สำหรับผู้ที่ติดต่อผ่านเว็บ  ThaiSMEsCenter.com  จะได้รับสิทธิพิเศษ ได้รับส่วนลดและให้ทดลองขายในตลาดกรีนเดย์ไนท์ หากเป็นสินค้าที่ทางตลาดให้ความสนใจ

หวังว่า ตลาดกรีนเดย์ไนท์ ที่ ThaiSMEsCenter.com นำมาเสนอ จะเป็นตลาดกลางคืนอีกตัวเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่สนใจ ได้มาใช้เวลาหลังจากเลิกงานหรือวันหยุดสุดสัปดาห์มาเดินจับจ่ายซื้อของ  รวมไปถึงพ่อค้าแม่ขายที่สนใจ อยากจะมาค้าขายในตลาดทำเลทองแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

ลิขสิทธิ์รูปภาพโดย ThaiSMEsCenter.com

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3eOe8Zb