รวมธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากคนขี้เกียจ

“ เศรษฐกิจแบบขี้เกียจ (Lazy Economy) เกิดจากความต้องการความสะดวกสบายในชีวิต โดยที่ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินหากสินค้าหรือบริการนั้นๆ ช่วยทำให้รู้สึกว่าได้รับความสะดวกสบายมากกว่าเดิม

และจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการความสะดวกสบายขั้นสุด ยังทำให้เกิดธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า“ตลาดคนขี้เกียจ” กำลังเป็นที่จับตามองและเป็นโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ เนื่องจากคนทั่วไปมีพฤติกรรมรักความสบายและหันมาพึ่งเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น

เศรษฐกิจแบบขี้เกียจ

ภาพจาก freepik.com

โดยผลวิจัยพบ 10 พฤติกรรมที่คนไทยขี้เกียจที่สุด คือ 1. ออกกำลังกาย 2. รอคิวซื้อของ 3. ทำความสะอาดบ้าน 4. อ่านหนังสือ 5. ทำอาหาร 6. พูดคุยหรือเจอคนเยอะๆ 7. ดูแลผิวพรรณตัวเอง 8. เรียน/ทำงาน 9. ออกไปชอปปิ้ง และ 10. การเดินทาง โดยเมื่อเจาะลึกไปเฉพาะ 5 อันดับแรกของพฤติกรรมที่คนทั่วไปขี้เกียจพบว่า

  • 84% หรือประมาณ 55 ล้านคนจากจำนวนประชากร 66.41 ล้านคนอยากให้ร่างกายดูดี แต่ขี้เกียจออกกำลังกาย
  • 81% หรือประมาณ 53 ล้านคนจากจำนวนประชากร 66.41 ล้านคนชอบการช็อปปิ้ง แต่ขี้เกียจรอคิวซื้อของ
  • 77% หรือประมาณ 50 ล้านคนจากจำนวนประชากร 66.41 ล้านคนขี้เกียจทำความสะอาด รอให้รกก่อนแล้วค่อยทำ
  • 70% หรือประมาณ 46 ล้านคนจากจำนวนประชากร 66.41 ล้านคนอ่านหนังสือแค่ผ่านๆ เพราะขี้เกียจอ่านหนังสือ
  • 69% หรือประมาณ 45 ล้านคนจากจำนวนประชากร 66.41 ล้านคนชอบกิน แต่ขี้เกียจเข้าครัวทำอาหาร

ทั้งนี้เราได้ลองมาแยกย่อยออกเป็นหมวดหมู่จะพบว่ามีธุรกิจหลายอย่างที่เกิดมาเพื่อ “คนขี้เกียจ” โดยเฉพาะ บางธุรกิจก็พัฒนาให้คนสนใจลงทุนในแบบแฟรนไชส์ได้ด้วย

1.ขี้เกียจทำอาหาร

40

ภาพจาก facebook.com/fastdeliverythailandfoodcar

ที่ชัดเจนที่สุดคือบริการเดลิเวอรี่ซึ่งมีหลายแบรนด์ที่น่าสนใจบางแบรนด์สามารถลงทุนในแบบแฟรนไชส์ได้ด้วยเช่น ฟาส เดลิเวอรี่ แฟรนไชส์เดลิเวอรี่ 1อำเภอ 1 แอพเดลิเวอรี่ ส่งอาหาร เรียกรถ รองรับหลากหลายประเภทการให้บริการ

สามารถสร้างรายได้จากหลายช่องทางเช่นรายได้จากร้านค้า , รายได้จากไรเดอร์ , รายได้จากการขายอุปกรณ์ เป็นต้น ลงทุนเริ่มต้น 2,000 – 9,000 บาท หรือแบรนด์อื่นที่หลายคนรู้จักเช่น Gojek , LINEMAN และ LALAMOVE ,
GrabFood , FoodPanda , 7-Delivery , Go Bike , Happyfresh เป็นต้น

2.ขี้เกียจออกกำลังกาย

41

ภาพจาก bit.ly/3u8497W

โดยกระแส Home Fitness ซึ่งผู้ใช้สามารถสมัครเป็นสมาชิกรายเดือน สมัครเรียนคอร์สการออกกำลังกายออนไลน์ที่สามารถโต้ตอบกับเทรนเนอร์ หรือกับผู้ใช้รายอื่นได้ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ที่รักในการออกกำลังกาย ไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปฟิตเนสอีกต่อไป

ในประเทศไทยก็มีหลายบริการที่น่าสนใจเช่น ABSOLUTE CYCLE Home Pop-Up !” คลาสปั่นจักรยานพร้อมบริการให้เช่าจักรยาน และ “ABSOLUTE YOU Virtual Studio” คลาสออกกำลังออนไลน์แบบไลฟ์สด “Online Private Session” คลาสออนไลน์แบบส่วนตัว-กลุ่มเล็ก 3 คน รวมไปถึง “ABSOLUTE Anytime” คลาสโยคะออนไลน์ที่มีอยู่ก่อนแล้วมารวมกันในแพลตฟอร์มเดียว

3.ขี้เกียจอ่านหนังสือ

42

คนที่ไม่อยากอ่านยุคนี้ก็มี Podcast ให้เลือกฟังกันตามใจชอบไม่ต้องมาเปิดหนังสืออ่านเองและมีหมวดหมู่ของ Podcast ให้เลือกฟังได้ตามความพอใจ โดย Podcast ที่น่าสนใจเช่น ThaiFranchiseCenter.com , มนุษย์ลงทุน The Shareholders , THE MARKET Podcast , MoneyBuffalo Podcast , PEOPLESHIP , คนสร้างเวลา , Marketing Oops! Podcast เป็นต้น

4.ขี้เกียจซักผ้า

43

ภาพจาก bit.ly/3nXacJS

เป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้ดีที่สุด บางคนอาจไม่ใช่ขี้เกียจซักผ้าแต่ไม่มีเวลาซัก ซึ่งธุรกิจซักอบรีด มีหลายแฟรนไชส์ให้เลือกลงทุนมากมาย เช่น Mr Jeff ,WashCoin , Otteri Wash & Dry , LaundryBar , 24 wash ,Coin laundry
Cleanpro Express , MARU Laundry  ซึ่งแต่ละแฟรนไชส์มีแพคเกจการลงทุนที่หลากหลาย มีจุดเด่นและรูปแบบการบริการที่น่าสนใจ ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามต้องการ ถือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ยังเติบโตได้อีกมาก

5.ขี้เกียจล้างรถ

44

ภาพจาก facebook.com/jwashcarcare

การล้างรถเป็นเรื่องที่หลายคนขี้เกียจ หรือไม่มีเวลา หรือไม่มีสถานที่ในการล้างรถของตัวเอง ดังนั้นธุรกิจคาร์แคร์จึงตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดี โดยมีการลงทุนในแบบแฟรนไชส์ที่น่าสนใจเช่น เจ วอช ซิสเท็ม แฟรนไชส์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องล้างรถอัตโนมัติให้คนสนใจลงทุนเปิดคาร์แคร์ได้ง่ายขึ้น

รับลูกค้าได้มากขึ้น ล้างรถ1คันใช้เวลาไม่นาน ใช้พนักงานน้อย มีการวางระบบบริหารจัดการในร้านให้คนลงทุนสามารถเปิดร้านได้อย่างมืออาชีพ ปัจจุบันมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก หรือจะเป็นแฟรนไชส์อื่นๆที่น่าสนใจเช่น วิซาร์ด ออโต้ แคร์ ,Moly Care เป็นต้น

6.ขี้เกียจชงกาแฟ

45

ภาพจาก bit.ly/3gLFzWH

กาแฟแม้เป็นเครื่องดื่มยอดฮิต แต่บางคนก็ไม่มีเวลางชงกาแฟเอง หรือบางคนก็ขี้เกียจชง ดังนั้นธุรกิจตู้กาแฟหยอดเหรียญจึงตอบโจทย์ได้ดีมาก นอกจากติดตั้งตามสถานที่ทั่วไป คนที่มีร้านค้าร้านอาหารยังนำไปติดตั้งเพิ่มเติมในร้านสร้างรายได้เพิ่มที่ดีด้วย โดยปัจจุบันมีให้เลือกลงทุนหลายแบรนด์เช่น ตู้กาแฟหยอดเหรียญ 24 ชม. เน้นการจำหน่ายตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่ลงทุนน้อยที่สุด สร้างรายได้ทุกวัน

โดยรสชาติกลมกล่อมดีเยี่ยม ถูกใจผู้บริโภคทั่วไปด้วยราคาขายที่ต่ำมาก เพียงแก้วละ 10 บาท ต้นทุนเพียง 5 บาท ทำกำไรได้ถึงแก้วละ 50% ไม่ต้องชง ไม่ต้องเฝ้าร้าน ไม่ต้องนั่งขาย มีระบบตรวจนับจำนวนกาแฟแต่ละชนิดว่าขายได้กี่แก้วในแต่ละวัน ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุนเพียง 56,000 บาท หรือจะเป็นแบรนด์อื่นๆที่น่าสนใจ

เช่น Qualitat จำหน่ายกาแฟหยอดเหรียญหลายรุ่นให้ลูกค้าเลือกลงทุน แบบไม่ยุ่งยากต้นทุนต่อแก้วอยู่ที่ 4 บาท ราคาขายต่อแก้ว 10 บาท กำไร 6 บาทต่อแก้ว หรือ ซันร้อยแปด ให้บริการสินค้าหยอดเหรียญผู้ลงทุนสามารถเลือกรูปแบบตู้หยอดเหรียญได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นตู้กาแฟ ร้อน เย็น ตู้เครื่องดื่ม ตู้มาม่า ตู้ขนมสแน็ค เป็นต้น

7.ขี้เกียจทำงานบ้าน

46

ภาพจาก facebook.com/beneatco

การทำงานบ้านติดอันดับที่คนส่วนใหญ่ขี้เกียจมาก ซึ่งก็มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่เป็แอพแม่บ้านให้เราเรียกมาทำความสะอาดได้ตามสะดวก โดยปัจจุบันมีหลายแอพที่น่าสนใจเช่น BeNeat , ServisHero , Ayasan , MS Claire , Fixzy เป็นต้น ซึ่งนอกจากบริการทำความสะอาดทั่วไป บางแอพพลิเคชั่นยังมีบริการ พี่เลี้ยงเด็ก , ดูแลผู้สูงวัย , คนขับรถส่วนตัว , งานซ่อมบำรุงต่างๆ โดยราคาก็จะแตกต่างกันไป แต่ก็ถือว่าสะดวกสบายสำหรับคนยุคนี้มาก

8.ขี้เกียจขับรถ

47

ภาพจาก bit.ly/3t2VzGi

สำหรับคนที่ขี้เกียจขับรถ หรือเบื่อที่จะต้องหาที่จอดรถ สมัยนี้ก็มีบริการที่ง่ายแสนง่าย โดยเป็นแอพพลิเคชั่นเรียกบริการรถยนต์ แท็กซี่ หรือแม้แต่มอเตอร์ไซด์ให้มารับในจุดที่เราต้องการ โดยมีหลายแอพที่น่าสนใจเช่น GrabCar , line รถร่วม GoBike , GrabTaxi เป็นต้น โดยแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ค่าบริการจะแตกต่างกันไปตามแต่ประเภทรถที่เรียกใช้งาน รวมถึงค่าใช้จ่ายจะแตกต่างตามระยะทางในแต่ละครั้งด้วย

9.ขี้เกียจเดินช็อปปิ้ง

48

ภาพจาก facebook.com/BCOCENTER

การเดินช็อปปิ้งอาจเป็นความสุขของหลายคน แต่คนอีกไม่น้อยที่เบื่อการช็อปปิ้ง ขี้เกียจต่อคิว เดี๋ยวนี้ก็มีการตลาดออนไลน์เอาใจคนขี้เกียจออกไปช็อป โดยสามารถเลือกสินค้าได้ไม่ต่างจากไปช็อปปิ้ง ซึ่งก็มีการลงทุนในแบบแฟรนไชส์ให้คนสนใจได้เลือกด้วย

เช่น บิวตี้เซ็นเตอร์ (บีโค้) แฟรนไชส์ออนไลน์ขายครื่องสำอางความสวยงามทุกชนิด ที่ผู้ลงทุนจะได้เว็บไซต์ขนาดใหญ่ สวยงาม ภายใต้ชื่อของเรา พร้อมสินค้าในเว็บไซต์กว่า 2,000 รายการ สอนวิธีโปรโมทเว็บให้ลูกค้ารู้จักเมื่อมีคนสนใจสินค้า มีทีมงานจัดส่งสินค้าให้ในชื่อของผู้ลงทุน โดยเราไม่ต้องเสียเวลาแพ็คของเอง ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 9,900 บาท หรือจะเป็นเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ที่เรารู้จักกันเช่น Shopee , Lazada , Shobshop , ShopBack , PartyHaan เป็นต้น

10.ขี้เกียจพกเงินสด

49

ภาพจาก bit.ly/3vrXqG7

ยุคที่เราพยายามผลักดันให้เป็นสังคมไร้เงินสด จนบางคนก็ติดใจและขี้เกียจพกเงินสดติดตัว และเลือกจ่ายค่าสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมายเช่น Merchant iPay , K-Payment Gateway , PayPal , Omise , 2C2P , Rabbit Line Pay , TrueMoneyWallet ซึ่งแม้แต่โครงการของภาครัฐเองอย่างคนละครึ่ง , เราชนะ , เรารักกัน ก็ล้วนให้ประชาชนได้หันมาใช้จ่ายแบบไร้เงินสด เป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ยกระดับขึ้นอีกครั้ง

สาระน่ารู้!

53

ภาพจาก freepik.com

สำหรับการตลาดขี้เกียจหรือเศรษฐกิจขี้เกียจ(Lazy Economy) เริ่มเกิดขึ้นในช่วงปี 2561 หลังจากที่เถาเป่า ผู้ดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในประเทศจีนได้เก็บข้อมูลของลูกค้าและพบว่าคนจีนรุ่นใหม่ที่เกิดหลังปี 1995 มีการใช้จ่ายไปกับอุปกรณ์สำหรับคนขี้เกียจมากถึง 70% สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงใน Taobao

เช่น อายแชโดว์แบบปาดครั้งเดียวจบ หม้อร้อนอเนกประสงค์ สำหรับคนอยากทำอาหารแต่ขี้เกียจเก็บล้าง , เก้าอี้เล่นเกมปรับนอนได้ นอกจากนี้แบรนด์อื่นอย่าง IBM มีโดรนส่งกาแฟ หรือ Walmart ที่มีระบบส่งอาหารเข้าตู้เย็นเมื่อลูกค้าขี้เกียจออกไปซื้อของข้างนอก รวมถึง Gojex บริการส่งน้ำมันให้ เมื่อลูกค้าขี้เกียจไปรอคิวที่ปั๊ม เป็นต้น

และในต่างประเทศยังมีธุรกิจหรือบริการรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถตอบสนองความขี้เกียจได้ เช่น เครื่องพับผ้า เครื่องช่วยแปรงฟัน เว็บไซต์ที่ช่วยเลือกเสื้อผ้า บริการจัดส่งวัตถุดิบปรุงอาหารพร้อมวิธีการทำ ซึ่งสินค้าเหล่านี้ล้วนแต่ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองความขี้เกียจของลูกค้าทั้งสิ้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3tnhskk , https://bit.ly/3wO34Uv , https://bit.ly/3wQzsWv  , https://bit.ly/3dV22gP , https://bit.ly/3tcboeH , https://bit.ly/3d9ulZZ , https://bit.ly/3s9DFRQ , https://bit.ly/2QkjvHh , https://bit.ly/2QkXGrq , https://bit.ly/3a1sxzW

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3vvuo8O

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด