7 กลยุทธ์ Mobile Marketing ปี 2560 รู้ก่อน ได้เปรียบ!

อย่างที่เรารู้กันว่าปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เป็นมากกว่าเดิม ยิ่งเราผูกพันกับสมาร์ทโฟนของเรามากขึ้น การทำ Mobile Marketing ก็ยิ่งสำคัญมากสำหรับแบรนด์ที่ทันสมัย ยิ่งเราเริ่มเร็วมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งดีต่อธุรกิจมากเท่านั้น

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า Mobile Marketing มีการเติบโตที่รวดเร็วมาก และทั้ง 7 สิ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในการตลาดปี 2560 เป็นแน่

1. Mobile Apps จะเป็นส่วนหนึ่งในผลการค้นหาบน Google

Mobile Marketing

ภาพจาก goo.gl/48B8EX

Google เพิ่มผลการค้นหาโดเมนโดยรวมเอา Mobile apps เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผลการค้นหาบน Smartphone หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่า มีการเปลี่ยนให้เว็บไซต์ของธุรกิจกลายเป็น Mobile Friendly มากขึ้นเพราะจอมือถือเป็นหน้าจอหลักที่คนทั่วไปใช้มากที่สุด

และในตอนนี้ถ้าธุรกิจของเราคิดจะสร้างแอพขึ้นมาก็ถือเป็นเวลาที่ถูกต้องที่เพราะมันจะส่งผลให้ผลการค้นหาอยู่ในลำดับต้นๆ ของ SEO นั้นหมายถึงโอกาสของธุรกิจเราจะเป็นที่รู้จักมีมากขึ้นจากคนทั่วโลกที่กว่า 80 % มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือ จึงถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่ใครยังไม่รู้ควรทราบและเมื่อทราบรีบลงมือทำรับรองดีต่อธุรกิจของคุณแน่

2. การโฆษณาบน Instagram

jj8

ภาพจาก goo.gl/yUd80b

Instagram แอพแชร์ภาพถ่ายชื่อดังที่เริ่มต้น จาก Mobile only และมีการเติบโตอย่างมากโดยในขณะนี้ประเทศไทยมี ผู้ใช้เครือข่ายนี้มากกว่า 7.8 ล้านคน/เดือนโดยมีการกดไลน์ไม่ต่ำกว่ามี 74 ล้านครั้ง/วัน

รวมถึงมีรูปอัพผ่าน Instagram กว่า 1.8 ล้านรูปต่อวัน และจากตัวเลขความนิยมที่พูดถึงนี้ทำให้แบรนด์สินค้าจำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาสนใจในการโฆษณาผ่าน Instagram มากขึ้น จึงถือเป็นจุดเริ่มที่ดีหากธุรกิจของคุณเองมีช่องทางของโซเชี่ยลมีเดียทุกอย่างยกเว้นอินสตราแกรม ควรใช้โอกาสนี้สมัครเข้าร่วมเครือข่ายแล้วสร้าง Mobile Marketing ให้สำเร็จกันบน Instagram นี้เลย

3. Multi-Device Mobile Marketing

jj9

ภาพจาก goo.gl/48B8EX

ถ้ากำลังคิดว่า Mobile Marketing คือแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น นั่นแสดงว่าตัวคุณเองกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Mobile Marketingอย่างสิ้นเชิงเพราะแท้ที่จริงแล้วMobile Marketing นั้นมีหลายช่องทางกว่านั้นรวมถึง Smartwatches กับ Tablet ด้วยก็ถือเป็น Mobile Marketing อีกอย่างหนึ่งด้วย โดยลูกค้าอาจเห็นสินค้าของเราบน Smartphone แล้วทำการหาข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อในช่องทางโซเชี่ยลอื่นๆ

ในบทความของ Forbes.com เรื่อง Consumers Take A Multi-Device Path To Purchase อธิบายพฤติกรรมของลูกค้าว่าเริ่มต้นจากจอที่หนึ่งแล้วย้ายไปยังอีกจอหนึ่ง โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ได้หลายอย่างแต่ที่แน่ๆ คือมันไม่ได้จบที่หน้าจอเดียวเท่านั้น

4. Video Content

jj10

ภาพจาก goo.gl/InaMmV

ในปีที่ผ่านมา การทำโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ วีดีโอนั้นถือว่ามีการขยับตัวค่อนข้างมาก หลายๆแบรนด์ทั้งใหญ่ทั้งเล็กเรียงแถวปล่อยโฆษณาทางวีดีโอออกมามากมาย

เหตุผลหลักเนื่องมาจากเทรนด์ของผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันผ่านเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์มากขึ้น จากตัวเลขสถิติในปีที่ผ่านมา ผู้ใช้งานใช้อินเทอร์เนตมากถึง 55% ในการดูคอนเทนท์วีดีโอ และ 68% ของวีดีโอถูกแชร์ เมื่อดูบนสมาร์ทโฟนและน่าจะมากขึ้นอีกในปีนี้และปี 2017 ด้วยเหตุนี้นักการตลาดจึงต้องปรับกลยุทธ์ในใช้วีดีโอคอนเทนท์มากขึ้นในการเข้าถึงผู้บริโภค

5. การรวมกันระหว่าง Ecommerce และ Social Media

jj12

ภาพจาก goo.gl/5gx6ij

อาจจะฟังดูไม่ใหม่นักสำหรับคนไทย ที่ใช้ช่องทางอย่าง Facebook ขายสินค้ามานานแล้ว แต่การสร้างระบบรองรับอย่างเป็นทางการของ Facebook น่าจะทำให้ช่องทางนี้เติบโตขึ้น มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าโอนเงินแล้วจะไม่ได้ของ เพราะมันจะมาพร้อมกับการคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์ของ Facebook

นอกจากนี้ยังเป็นการทำลายเส้นแบ่งระหว่างร้านค้าและสื่อออนไลน์ โดยคนส่วนใหญ่มักจะเข้าไปอ่านรีวิวสินค้าใน Facebook Page ก่อนทำการตัดสินใจซื้อ ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องที่ง่ายและเร็วขึ้นด้วย

6. ระบบจ่ายเงินผ่าน Smartphone

jj14

ภาพจาก goo.gl/eZzq0S

Apple pay และ Samsung Pay อาจเป็นเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการทำ Mobile Marketing ด้วยการจ่ายเงินผ่าน Smartphone ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นปลอดภัยกว่าการใช้บัตรเครดิตเพราะไม่มีการแสดงเลขบัตรเครดิตและยังต้องยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือเท่านั้น

ซึ่งปลอดภัยจากการปลอมลายเซ็นต์ ไม่ต่างจากยุคที่เปลี่ยนการใช้เงินสดมาเป็นบัตรเครดิตและในอนาคตอันใกล้ก็จะเป็นเรื่องปกติของคนทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เราไม่สามารถมองข้ามสิ่งนี้ไปได้เลย

7. App สำหรับคนรักสุขภาพ

jj15

ภาพจาก goo.gl/8QyhAf

เทรนด์ของการดูแลสุขภาพยังอยู่ในช่วงขาขึ้น สังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลง positioning ของ Apple watch จากที่เคยวางตำแหน่งให้เหมือนเป็นเครื่องประดับที่แสดงถึงความสำเร็จ เหมือนนาฬิกาแบรนด์เนมอย่าง Rolex

เห็นได้ชัดว่าล่าสุดได้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องมือ Fitness Tracking อย่างเต็มรูปแบบ เพราะการแชร์ระยะทางที่เราวิ่งล่าสุด หรือแคลเลอรี่ที่ถูกเบิร์น กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Lifestyle และเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนที่แชร์มีชีวิตความเป็นอยู่ดีแค่ไหน และคาดว่าเราคงได้เห็นสิ่งนี้บ่อยมากขึ้นในปีหน้า

ทั้งหมดนี้คือ 7 แนวโน้มที่เรานำมาเป็นแนวทางในการนำไปปรับใช้กับการทำการตลาดบนสามาร์ทโฟนในปี 2017 หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเพิ่มช่องทางในการติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ใกล้ชิดมากขึ้น เพราะปัจจุบันการพัฒนาบนมือถือเดินทางมาไกล และคาดว่าจะไปได้อีกจนเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อม และรับมือให้ทันเท่านั้นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/6UvHgK

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด