6 เทรนด์ตลาดนัดยุคใหม่ แบบนี้ดีแน่

พื้นที่ค้าขาย ยังเป็นช่องทางธุรกิจที่ทำกำไรให้ผู้ลงทุนได้อย่างดี แต่ยุคสมัยนี้การจะเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็นตลาดนัดแบบธรรมดาก็ดูจะไม่น่าสนใจเท่าไหร่

ถ้ามองตามกระแสให้ดีจะพบว่าตลาดนัดยุคใหม่นั้นต้องผสมผสานเรื่องของไอเดียเข้าไปไม่ว่าจะตลาดกลางวันหรือตลาดกลางคืน ถ้ามีไอเดียแจ่มๆ ก็พร้อมเรียกคนให้เข้ามาเดินได้มากนั่นก็หมายความว่าตลาดที่เราลงทุนสร้างจะกลายเป็นทอร์คออฟเดอะทาวได้มากขึ้นด้วย

และเราก็เชื่อว่าในปีหน้าจะต้องมีตลาดแนวใหม่เกิดขึ้นอีกจำนวนไม่น้อยแต่สำหรับใครที่อยากลงทุนทำตลาดสไตล์ที่ว่านี้แต่ไม่มีไอเดียวันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จัดมาให้ดูกัน 5 ตลาดยุคใหม่ที่เปิดตัวกันไปไม่นานแต่กระแสคนรู้จัก

และคนต้องการมีมากจนเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และถ้าจะให้ดีตลาดนัดที่ออกมาหลังจากนี้ควรมีไอเดียที่แตกต่างออกไปให้มาก ยิ่งต่าง ยิ่งน่าสนใจ ที่สำคัญยิ่งทำให้ผู้ลงทุนมีรายได้มากขึ้นด้วย

1.ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์

เป็นตลาดแนววินเทจที่ขึ้นชื่อในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก คำว่าตลาดนัดรถไฟนั้นเป็นเพราะใช้ชื่อเดิมจากตลาดนัดรถไฟจตุจักรที่หมดสัญญาเช่าที่และเปลี่ยนมาจัดที่บริเวณด้านหลังห้างซีคอนสแควร์แต่ใช้ชื่อเดิมเพื่อคงเอกลักษณ์ไว้ที่นี่มีพื้นที่กว่า 62 ไร่

มีการจัดเป็น 3 โซนสำคัญคือโซนตลาดนัดและโซนพลาซ่า ในโซนตลาดนัดมีร้านค้ามากกว่า 1,000 แผง โซนพลาซ่ามีร้านค้าไม่ต่ำกว่า 500 และโซนโกดังที่เป็นพื้นที่ใหญ่ประมาณ 10 ไร่มีร้านค้าประมาณ 200 ร้านค้าด้วยกัน

เอกลักษณ์สำคัญของตลาดนี้คือแต่ละโซนจะมีสินค้าที่สุดแนวไม่ซ้ำกันอย่างโซนพลาซ่าเมื่อเดินเข้ามาก็จะพบกับสื้อผ้าวัยรุ่น ชาย-หญิง เสื้อผ้ามือสอง รองเท้า กระเป๋า ของตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ จำนวนมาก ในโซนตลาดนัดเรา

นอกจากเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แล้วก็ยังมีของสะสม ของเล่น ของตกแต่งต่างๆ ตุ๊กตาน่ารักๆ ทั้งของเก่าของใหม่ ในโซนโกดังก็จะมีสินค้าประเภทของเก่าสไตล์วินเทจ เฟอร์นิเจอร์ย้อนยุค อาหารสไตล์โบราณ เรียกว่าตลาดนัดรถไฟแห่งนี้คือต้นแบบที่ดีของตลาดนัดยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

2.ตลาดนัดเรือบิน บางพลี

ภาพจาก facebook.com/planenightmarket

ด้วยแนวคิดสร้างตลาดยุคใหม่ในบรรยากาศเดิมๆ ถือเป็นตลาดนัดสำหรับการท่องเที่ยวที่บรรยากาศย้อนไปในปี 2499 ด้วยการตกแต่งร้านค้า อาคาร ที่ใช้วัสดุ อิฐ ไม้ ได้อย่างกลมกลืน ภายในโครงการจัดออกเป็นหลายส่วนทั้งตลาดนัด ตลาดต้นไม้ พลาซ่า โซนสินค้าแฟชั่น รวมถึงโซนของกินที่มีให้เลือกจำนวนมาก

นอกจากนี้ไฮไลต์ที่สำคัญของตลาดแห่งนี้คือการมีอาคารไม้ 2 ชั้นให้คนที่มาท่องเที่ยวในตลาดได้มาชมเครื่องบินที่ขึ้นลงในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งอยู่ใกล้กันมากกับตลาดแห่งนี้จึงกลายเป็นที่มาของคำว่าตลาดนัดเรือบิน

ภาพจาก facebook.com/planenightmarket

ตลาดนัดแนวใหม่แห่งนี้มีพื้นที่กว่า 150 ไร่ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบางปลาพลาซ่า เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและคนทั้งในและนอกสถานที่เป็นตลาดนัดดีๆที่มีไอเดียในการดึงดูดผู้คน พ่อค้า เหมาะสำหรับการค้าขายในยุคสมัยใหม่เป็นอย่างยิ่ง

3.ตลาดเครื่องบิน นครปฐม

ภาพจาก goo.gl/VxQLcx

ตลาดเครื่องบินนี้เกิดขึ้นจากการนำเครื่องบินเก่า รถจี๊ป และรถทางทหารอีกมากมาย ที่ได้จากการประมูลของนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงและนำไปเก็บไว้บริเวณริมถนนสายมาลัยแมน นครปฐม – สุพรรณบุรี หลักกิโลเมตรที่ 5 อ.เมือง จ.นครปฐม บนเนื้อที่ 40 ไร่ เพื่อรอขายให้กับผู้ชื่นชอบ

ในระหว่างที่เก็บไว้รอขาย จึงนำมาเปิดเป็นตลาดโดยนำเครื้่องบินเก่าเหล่านี้มาเป็นจุดดึงดูดขาช้อป ตลาดนัดแห่งนี้มีสินค้าทุกประเภทมีร้านค้ามากกว่า 1,000 ร้านค้าเปิดขายสัปดาห์ละ 2 วัน คือวันพุธกับเสาร์ ตั้งแต่ 14.00-21.00 น.

ภาพจาก goo.gl/VxQLcx

ส่วนเครื่องบินลำใหญ่รุ่นแมคดอนเนลล์ดักลาส เอ็มดี-80 ที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณทางเข้า ในวันที่มีตลาดนัด จะเปิดโอกาสให้ขึ้นชมด้านบน ซึ่งจุดนี้เองทำให้ผู้คนสนใจโดยเฉพาะกลุ่มเด็กๆ ที่ยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบินจริงๆ ได้มีโอกาสสัมผัสกับเครื่องบินที่ผ่านสนามรบ มีประวัติศาสตร์ให้ได้ชมและศึกษา

อย่างไรก็ตาม บริเวณด้านหลังของตลาดนัดกำลังดำเนินการก่อสร้าง Hangar หรือโรงเก็บเครื่องบิน ทำเป็นทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และยังมีเครื่องบินให้ถ่ายรูปเช็กอินกันอีกด้วย

4. Chaeng Market ตลาดสุดฮิพแห่งใหม่ (แจ้งวัฒนะ)

ภาพจาก facebook.com/Chaengmarket

Chaeng Market เป็นแนวคิดที่เนรมิตตึกร้างให้กลายเป็นตลาดทางเลือกใหมที่ตอบโจทย์คนมีไลฟ์สไตล์ ที่กำลังมองหาที่เดินเล่น เพลินๆ ไม่ไกลจากที่ทำงาน โดยตลาด แห่งนี้อยู่ใกล้กับบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ ไม่ไกลจากศูนย์ราชการ, DSI และกรมการกงสุลด้วยแนวคิดที่เน้นการประดับไฟที่โดดเด่นทำให้ต้นไม้ธรรมดากลายเป็นสิ่งสะดุดตาคนที่พบเห็น

ภาพจาก facebook.com/Chaengmarket

หากมองจากด้านนอกบางคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นตลาดเล็กๆ แต่ที่จริงมีพื้นที่ด้านในกว้างขวางมากรวมถึงมีสินค้าหลากหลายให้เลือกช็อปกันอย่างจุใจ Chaeng Market จึงเป็นศูนย์รวมอาหารการกินที่เหมาะกับการซื้อกลับไปทานที่บ้าน หรือจะเลือกทานที่ร้านก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ แต่ละโซนของที่นี่มีอาหารและสินค้าประเภทติดไอเดียมากมายเป็นธีมตลาดยุคใหม่ที่น่าจะมีอนาคตสดใสทีเดียว

5.ตลาดโรงนา (มีนบุรี)

ภาพจาก facebook.com/Rongna.Market

ตลาดโรงนาแห่งนี้เปิดทำการเมื่อประมาณกลางปี 2558 ถึงตอนนี้ก็ยังถือเป็นตลาดยุคใหม่ที่มีความน่าสนใจกับพื้นที่จำนวน 2 ไร่ แต่มีสินค้าทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้าแฟชั่น ของตกแต่งบ้าน

ด้วยแนวคิดของตลาดที่เน้นความเรียบง่ายเป็นบรรยากาศแบบสบายๆสไตล์โรงนาจึงเป็นที่มาของชื่อนี้ มีการแบ่งโซนค้าขายทั้งส่วนตลาดภายในอาคาร และโซนเปิดท้ายที่อยู่ด้านหน้าตลาด

ภาพจาก facebook.com/Rongna.Market

มีปริมาณร้านค้าทั้ง 2 โซนหนาแน่นเพราะทางเจ้าของตลาดมีกิจกรรมที่น่าสนใจและโปรโมชั่นดีๆมานำเสนออยู่อย่างต่อเนื่องซึ่งแน่นอนว่าด้วยสิทธิพิเศษลูกเล่นการตลาดต่างๆที่ว่านี้ล้วน

แต่ดึงดูดผู้คนให้สนใจและทำให้ตลาแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักของคนอย่างรวดเร็วจนเป็นต้นแบบสำคัญให้อีกหลายๆที่ได้มีไอเดียในการสร้างสรรค์ตลาดนัดแนวใหม่มากขึ้นด้วย

6.ตลาดเรโทร (รัชโยธิน)

ภาพจาก facebook.com/RetroMarketThailand

คำว่า reto คือการดึงเอาอดีตมาเป็นจุดขายแตกต่างจากวินเทจที่มีการปรับแต่งให้เข้ากับยุคสมัย ดังนั้นตลาดเรโทรที่อยู่บริเวณหน้าห้างเมเจอร์รัชโยธินแห่งนี้ จึงมีธีมการจัดร้านในสไตล์ที่ย้อนยุคชัดเจน อารมณ์ของตลาดจึงสื่อมาแบบอบอุ่น ผ่อนคลาย

เรียกว่าเป็นสไตล์ตลาดที่ชัดเจนและหาได้ยากในยุคปัจจุบัน ที่ตลาดแห่งนี้มีร้านทั้งแบบปูเสื่อ และแบบเปิดท้าย มีทั้งรถเก่า รถโบราณที่เราจะพบได้ทั้งรถเต่า รถโฟล์ค

นอกจากนี้สินค้าต่างๆ ก็มีความน่าสนใจอย่างยิ่งโดยเฉพาะสินค้าติดไอเดียแบบสุดฮิพ หรือแหวกแนวแบบใหม่ กลายเป็นจุดนัดพบที่น่าสนใจที่จะเปิดตลาดกันตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึง 5 ทุ่ม

ภาพจาก facebook.com/RetroMarketThailand

แต่ถ้าใครสนใจอยากมาตลาดแห่งนี้หรืออยากมีส่วนร่วมในการค้าขายก็ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าตลาดเรโทรนี้เขาเปิดเพียง 1 ครั้ง/เดือนเท่านั้นโดยจะเปิดทุกวันพุธที่4ของเดือน ถ้าอยากมาเยี่ยมชมความแปลกใหม่ของตลาดนี้ก็ดูวันเวลาให้ดีๆ งานนี้จะได้ไม่มาเสียเที่ยวกันซะเปล่าๆ

และตลาดเหล่านี้ถือเป็นตัวแทนของการลงทุนในยุคใหม่ที่ไม่ใช่แค่ดึงดูดพ่อค้าให้เข้ามาขายของในพื้นที่แต่ต้องมีไอเดียผสมผสานเข้าไปเพื่อให้ตลาดเป็นจุดศูนย์รวมของคนจำนวนมากยิ่งยุคสมัยที่โซเชี่ยลมีอิทธิพลการจัดตลาดให้เลิศหรู ดูดี มีสไตล์

เราอาจไม่จำเป็นต้องทำการตลาดมากพลังโซเชี่ยลของคนที่มาเดินเที่ยวจะเป็นคนผลักดันทำให้ตลาดของเราติดลมบนได้ง่ายขึ้นทั้งนี้ก็อยู่ที่ไอเดียเป็นสำคัญว่าจะทำได้ดีขนาดไหน