6 ขั้นตอน มือใหม่หัดขายของในตลาดนัด

มีหลายคนที่เคยเห็นเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก หาสินค้าไป ขายตามตลาดนัด ต่างๆ แล้วมีความคิดอยากจะขายของเหมือนกับเพื่อนบ้าง เพื่อที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 
หรือถ้าขายดี ก็มีความคิดอยากจะออกจากงานประจำ เพื่อยึดอาชีพขายของตามตลาดนัดแบบเต็มตัว แต่หลายคนก็ติดปัญหาตรงที่ ไม่มีรถส่วนตัว ไม่เคยขายของ ไม่รู้จักวิธีการติดต่อจองล็อค มีทุนน้อย ใครที่ไม่เคยมีขายของตามตลาด ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย ไม่ต้องห่วง

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีวิธีและขั้นตอนการขายของในตลาดนัด มาฝากพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่อยากจะขายของในตลาดนัด แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี

1. ขายที่ไหนดี

ขายตามตลาดนัด

เป็นคำถามแรกที่คุณต้องถามตัวเอง ถามแล้วก็มืดแปดด้าน ไม่รู้จะต้องเริ่มยังไง วิธีที่ง่ายที่สุด คือ ต้องรีบเปิดหู เปิดตา ให้กว้างขวางขึ้น คอยรับฟังข่าวสารว่า ห้างไหนจะมีตลาดนัด ตรงไหนจะมีงาน ตรงไหนจะแบ่งพื้นที่ให้เช่า ราคาเท่าไร กลุ่มคนที่เดินเหมาะสมกับสินค้าที่คุณจะขายหรือไม่ ที่สำคัญสุดจะติดต่อฝ่ายขายตลาดนัดได้อย่างไร

2. ติดต่อฝ่ายขาย

jk23

หลังจากคุณรู้แล้วว่า เป้าหมายการขายของในตลาดนัดอยู่ที่ไหน เป็นพื้นที่ใดแล้ว ก็ต้องหาที่อยู่และเบอร์ติดต่อฝ่ายขายของตลาดนัดแต่ละแห่งที่คุณสนใจ เมื่อได้เบอร์ Sale ของตลาดนัดแล้ว อย่ารอช้า รีบโทรไปติดต่อ สอบถามรายละเอียดทันที เพราะพื้นที่ดีๆ มักจะถูกจับจองเต็มหมด ในเวลาอันรวดเร็ว

สำหรับรายละเอียดที่ต้องคุยกับ Sale ส่วนใหญ่ Sale จะถามเราก่อนเลยว่า คุณจะขายสินค้าอะไร เข้ากับ Concept ตลาดนัดของเขาไหม ถ้าตัวสินค้าไม่ผ่าน เขาจะบอกปฏิเสธเราทันที

ถ้าคุณมีเว็บไซต์ หรือแคตาล็อกสินค้า คุณควรส่งรายละเอียดให้กับ Sale ดูด้วย เพราะจะช่วยให้การพิจารณาของ Sale ง่ายขึ้น หากคุณผ่านด่านนี้สำเร็จ ก็จะไปคุยกันถึงเรื่องระยะเวลา ราคาเช่า พื้นที่ ทำเลที่ตั้งและรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ

3. เปรียบเทียบราคาเช่าพื้นที่

jk24

แน่นอนทำเลดีๆ ห้างดังๆ ย่อมแพงกว่าพื้นที่ที่อยู่ไกลความเจริญ ยิ่งคนเดินมีกำลังซื้อมาก ค่าเช่าที่ตรงนั้นก็จะยิ่งแพงขึ้นด้วย ห้างเปิดใหม่ หรือตลาดนัดแต่ละพื้นที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก มักจะมีโปรโมชั่นปล่อยที่ให้ขายฟรี หรือให้เช่าในราคาที่ต่ำมาก เพื่อเป็นการโปรโมทตลาด

แต่หากเป็นห้างที่เปิดมานานแล้ว อยู่ตัวแล้ว ราคาก็จะสูงขึ้นตามระดับของสถานที่นั้นๆ ผู้เช่าจะต้องคิดถึงต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ให้รอบคอบ เพราะมีโอกาสขาดทุนสูงมาก หากการค้าขายไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้

4. โอนเงินค่าเช่า

jk26

เมื่อคุณได้ทำการตกลงรายละเอียดทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คุณรีบโอนเงินค่าเช่าพื้นที่ขายของในตลาดนัด หรือห้างสรรพสินค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าคุณโอนช้า Sale จะเอาพื้นที่ที่คุณจองไว้ เอาไปให้คนอื่นโดยทันที

อย่างที่บอกไปแล้วว่าเขาไม่ง้อลูกค้า ใครโอนเงินสดให้เขาเร็ว จึงถือว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครองพื้นที่อย่างแท้จริง แต่ทั้งนี้ ก็มีตลาดนัดหลายๆ แห่งที่ให้จ่ายค่าเช่าตอนที่เราไปจอง อาจจะเป็นช่วงเที่ยง หรือบ่าย แล้วแต่นโยบายของตลาดแต่ละที่

5. จัดเตรียมสินค้าและอุปกรณ์ขายของ

jk21

หลังจากโอนเงินค่าเช่าแล้ว คุณก็ต้องเริ่มจัดเตรียมอุปกรณ์ขายของตามตัด หรือห้างสรรพสินค้า ทำป้ายร้าน ซื้อข้าวซื้อของจิปาถะต่างๆ ที่จะต้องใช้ ขั้นตอนนี้แนะนำให้ทำบัญชีรายจ่ายดีๆ เพราะว่าเป็นเงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ที่จะต้องลงไป ไม่นับรวมกับค่าสินค้าที่เตรียมไว้ขายนะครับ

หากทำอลังการมากก็จะแพงมาก ก็ต้องถามตัวเองว่าจะขายขิงตลาดนัดประจำไหม คุ้มหรือเปล่า ครั้งแรกอย่าไปหวังเรื่องยอดขายอะไรนัก เหมือนกับเป็นการทดลองขายก่อน

6. ลงพื้นที่ขายของจริง

jk25

เป็นขั้นตอนสุดท้ายในขายของตามตลาดนัด หรือขายตามห้างสรรพสินค้า คุณควรจัดวางสินค้าที่จะขายให้เป็นระเบียบเรียบร้อย วางเรียงให้สะดุดสายตาลูกค้าที่เดินผ่านไปมาในตลาดนัด หรือห้างสรรพสินค้า

พร้อมจัดป้ายหน้าร้าน ไฟส่งสว่าง ดึงดูดความสนใจ ที่สำคัญคุณอาจใช้กลยุทธ์การตลาด การขาย การนำเสนอสินค้าในรูปแบบของคุณเข้ามาช่วยให้สินค้าของคุณขายดีด้วยก็ได้ เพราะถือว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลงทุน ลงแรงไปแล้ว

แม้ว่าการขายของในตลาดนัด หรือเช่าพื้นที่ขายในห้างสรรพสินค้าจะเหนื่อย อาจทำให้หลายคนต้องถอดใจกลางคัน แต่ข้อดีของการขายของตลาดนัด คือ เราได้พบปะลูกค้า ได้พูดคุยกับเขา ได้รู้ความต้องการ ได้สังเกตเห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคหลายๆ อย่าง ที่เราไม่สามารถเห็นได้จากหน้าเว็บไซต์ หรือการแชตกับลูกค้า

ยิ่งถ้าเรารู้ความต้องการของผู้บริโภค ก็จะทำให้เราสามารถหาสินค้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคเหล่านั้นได้ แล้วก็จะทำให้เราสนุกไปกับการขายของตลาดนัด

ใครสนใจอยากขายของตลาดนัด แต่ไม่รู้ว่ามีตลาดนัดไหนบ้าง สามารถเข้าไปดูทำเลค้าขายทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็น ตลาดนัด, โครงการ, คอมมิวนิตี้มอลล์, คอมเพล็กซ์, พลาซ่า, พื้นที่เช่า, เปิดท้ายขายของ รวมแหล่งค้าขายที่สำคัญๆ ในประเทศไทย ได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/market


SMEs Tips

  1. หาทำเลพื้นที่ขายของ
  2. ติดต่อฝ่ายขายของตลาดนัด
  3. เปรียบเทียบราคาค่าเช่าพื้นที่
  4. โอนเงินค่าเช่า
  5. จัดเตรียมสินค้าและอุปกรณ์ขายของ
  6. ลงพื้นที่ขายจริง

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช