5 ไอเดียสุดแจ่ม ใช้แว่น VR มาทำการตลาดยุคใหม่

เทคนิคการโฆษณาสินค้า และบริการในปัจจุบันมีการผสมผสานเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น หนึ่งในความน่าสนใจที่เด่นชัดนั้นคือ Virtual Reality หรือที่เรียกว่า แว่น VR ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องมายาวนาน

และดูเหมือนว่าจะเป็นการใช้งานได้จริงที่ดูคุ้มค่าโดยคาดการณ์ว่าตลาดของธุรกิจนี้จะมีไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2020 ซึ่งหลายแบรนด์ระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Ikea, McDonald, Coca Cola และ New York Times ก็ได้เริ่มต้นนำแว่น VR มาเป็นส่วนหนึ่งของการตลาด

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลของ 5 ไอเดียสุดแจ่มที่เกิดจากการใช้แว่น VR มานำเสนอให้นักลงทุนในบ้านเราได้มองเห็นทิศทางของธุรกิจยุคใหม่ซึ่งใครอยากจะผนวกเรื่องนี้ไปเป็นหนึ่งในแผนการตลาดก็ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

1.เทคนิคการใช้ VR ในการทำวิดีโอ 360 องศา

ไอเดียสุดแจ่ม

ภาพจาก goo.gl/Nhm3oC ,  goo.gl/NFRTl3

วิดีโอ 360 องศานั้นคือการบันทึกภาพสิ่งรอบตัวทั้งหมดไว้ทำให้ความรู้สึกของการมีประสบการณ์ร่วมและการโต้ตอบเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าการถ่ายภาพหรือวิดีโอแบบธรรมดา หากดูผ่านสมาร์ทโฟนเราแค่ยกมันขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบๆ ภาพก็จะเปลี่ยนไปเหมือนเราได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ จริงๆ แต่ถ้าเรามีอุปกรณ์ VR นั้นก็จะง่ายขึ้นเพียงแค่หันหน้าไปในทิศทางต่างๆ เท่านั้นก็เสมือนกำลังยืนอยู่ในสถานที่นั้นแบบเหมือนจริงสุดๆ

และเพราะการที่สามารถมีประสบการณ์ร่วมได้แบบรอบทิศของวิดีโอ 360 เป็นสิ่งใหม่จึงได้รับความสนใจมากกว่าวิดีโอทั่วๆ ไป บางคลิปได้ยอดวิวไปถึง 15 ล้านวิว และหลายแบรนด์เริ่มดึงการใช้วิดีโอ 360 เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ

เช่น การนั่งฟังการสัมภาษณ์ การทดลองขับรถ หรือพาทัวร์สถานที่ต่างๆ รวมไปถึงคอนเทนท์ประเภทอื่นๆ ถูกนำมาเสนอในมุมมองแบบ 360 และสามารถรับชมได้จากทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ VR เช่น แคมเปญของ The North Face ที่ให้คนได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ปีนหน้าผาในเนปาล

2.กลยุทธ์การแจก Google Cardboard

q12

ภาพจาก goo.gl/psQxZ5

Google Cardboard เป็นชุดอุปกรณ์ VR ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดด้วยราคาที่ต่ำกว่าแว่นตา VR แบบจริงจัง เราสามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้รวมถึงสั่งผลิตในนามแบรนด์ของเราเองซึ่งเป็นสิ่งที่หลายแบรนด์เริ่มทำแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เรามีวิดีโอ 360 เป็นของตัวเอง ลูกค้าของเราจะได้สัมผัสประสบการณ์ VR แบบสองชั้น เสมือนจริงที่สุดในแบบที่แบรนด์ให้ได้

หรือต่อให้ยังไม่มีงบมากพอที่จะผลิตวิดีโอ 360 แต่การที่มีอุปกรณ์ที่เพิ่มสีสันในการดูวิดีโอแบบ 360 แจก รับรองได้ว่าแบรนด์จะติดตาตรึงใจคนจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบเทคโนโลยี และจะช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำในฐานะผู้นำเทรนด์นำเทคโนโลยีตัวจริง

ตัวอย่างคือ New York Time ที่ได้เคยทำไปแล้ว ในการแจก Cardboard ของแบรนด์ให้กับผู้ติดตามหนังสือพิมพ์แบบฟรีๆ หลังจากนั้นไม่นานแบรนด์ก็มีวิดีโอ 360 ของตัวเองออกมา ซึ่งกลุ่มฐานลูกค้าของพวกเขาก็ได้ดื่มด่ำกับสุดยอดประสบการณ์สมจริงไปเต็มๆ

3.โปรโมชั่นการตลาดเปลี่ยนแพคเกจสินค้าเป็นแว่นตา VR

q13

ภาพจาก goo.gl/NZQqpq

นอกจาการสั่งผลิต Cardboard ในนามแบรนด์ได้แล้ว อีกหนึ่งวิธีที่เพิ่มความครีเอทเข้าไปอีกขั้นคือการแปลงแพคเกจจิ้งของให้สามารถนำกลับมาใช้งานต่อได้ในแบบของแว่นตา VR มีตัวอย่างจากการที่แมคโดนัลด์ฉลองวันเกิดครบรอบ30ปีด้วยการแจก Happy Goggles ที่แปลงร่างมากจากกล่อง Happy Meal กลายเป็นชุดแว่นตาสำหรับเทคโนโลยี VR แคมเปญนี้เกิดขึ้นในสวีเดนและได้รับการตอบรับอย่างดีมาก

หรือแม้แต่โคคาโคล่าก็เคยทำแคมเปญประเภทเดียวกันในการเปลี่ยนแพคเกจธรรมดาให้กลายเป็นแว่น VR ได้ หรือแม้แต่เบียร์ Budweiser ที่ทำในสิ่งที่ตรงข้ามกันโดบไม่ได้เปลี่ยนแพคเกจให้เป็นแว่น VR แต่นำแว่น VR มาเป็นแพคเกจในฤดูกาลของ NBA สิ่งที่เกิดขึ้นคือลูกค้าของจะได้เบียร์ที่อยู่ในแพคเกจชุดอุปกรณ์ VR ถึงเวลาก็มีเบียร์กิน มีแว่น VR ไว้ดูคอนเทนท์เจ๋งๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย

4.entertain ลูกค้าด้วยการสร้างเกม VR

q14

ภาพจาก goo.gl/OZ152I

เกมเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งธุรกิจเล็กใหญ่ในการช่วย support brand และสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า โดยร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งนิยมสร้างเกมสะสมแต้มของตัวเองให้ลูกค้าสามารถเก็บคะแนนเพื่อแลกส่วนลดหรือเมนูพิเศษ ดิสนีย์และบริษัทเอนเตอร์เทนเมนท์หลายเจ้าสร้างเกมขึ้นมาเพื่อช่วยโปรโมทหนังหรือการ์ตูนเรื่องใหม่ที่จะออกฉายซึ่งเราก็ทำแบบนี้กับสินค้าตัวเองได้เช่นกัน

เหมือนที่แมคโดนัลด์สร้างเกมชื่อ Slope Stars ให้ผู้เล่นเล่นสกีเก็บคะแนนในเกมแบบ VR หรือล้ำไปกว่านั้นในแบบที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์โดยตรงเช่น อิเกียที่ใช้เทคโนโลยี VR ให้ลูกค้าสามารถเดินเข้าไปในห้องครัวของอิเกีย ในแบบเสมือนจริงขนาดที่ว่าเปิดประตูเข้าไปได้ เดินไปรอบๆ เพื่อสำรวจ ไปจนถึงขั้นสามารถเล่นเกมปรุงอาหารในห้องครัว VR นั้นได้

5.ให้คนเข้าถึงสินค้าและบริการด้วยการสร้าง VR App

q15

ภาพจาก goo.gl/yIBIF3

VR app เริ่มมีให้เห็นอย่างแพร่หลายแล้วในปัจจุบันทั้งในแบบแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือบนเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่นการสร้างเว็บไซต์ขายรถที่จำลองโชว์รูมรถทั้งหมดมาไว้บนเว็บแล้วใช้เทคโนโลยี VR ในการเข้าชมรถภายในโชว์รูมไปจนถึงลองขับ หรือการโปรโมทหนังเรื่อง The walk ที่ Sony picture ปล่อยแอปสนุกๆ ให้คุณทดลองเดินไต่เชือกระหว่างตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เป็นต้น

เทคโนโลยี VR อาจยังเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่มากในบ้านเรา แต่ก็มีช่องทางที่ทำให้เป็นจริงได้ทั้งสำหรับธุรกิจใหม่และเก่า และแม้ว่าจะยังไม่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางแต่นั่นก็นับเป็นโอกาสอันดีในการที่เราจะหันมาให้ความสนใจและเริ่มทำก่อนที่คู่แข่งจะเอาไอเดียไปทำซะก่อน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/Lm0CYV

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด