5 อันดับ แฟรนไชส์อาหาร ที่คนไทยนิยมมากที่สุด
แน่นอนว่าอาหาร เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่สามารถขาดได้เลยในชีวิตประจำวันของคนเรา ดังนั้น ธุรกิจอาหารจึงเป็นธุรกิจที่สามารถทำเงินได้ดีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอกไปจากร้านอาหารทั่วไปที่ผู้มีประสบการณ์ได้เปิดกันเองอย่างมากมายแล้ว ธุรกิจอาหารที่เป็นแฟรนไชส์ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจในการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่เช่นเดียวกัน
หลายๆ คนที่เพิ่งเริ่มต้นมองหาธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทอาหาร อาจจะยังไม่ทราบ และต้องการหาคำตอบว่า แฟรนไชส์ใดกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจอยู่บ้าง วันนี้ ThaiSMEsCenter.com จึงไม่รอช้าที่จะนำ 5 อันดับแฟรนไชส์ประเภทอาหารยอดนิยม
(โดยวัดจากจำนวนการคลิกเข้าชมแฟรนไชส์ในเว็บไซต์ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2558 http://www.thaifranchisecenter.com/directory/franchise_list_all.php?show=hot ) มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่สนใจกันค่ะ
อันดับที่ 1 เชสเตอร์ (เข้าชม 504,654 ครั้ง)
หากกล่าวถึงเชสเตอร์แล้วล่ะก็ เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องรู้จักกับแฟรนไชส์ร้านอาหารฟาสฟู้ดในเครือเจริญโภคภัณฑ์นี้กันดีอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากเชสเตอร์จะโดดเด่นด้วยเมนูไก่ย่างและเมนูข้าวต่างๆ ที่มีรสชาติกลมกล่อมอร่อยลงตัวแล้ว เชสเตอร์ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเมนูอินเตอร์อย่างโกลเด้นฟิช สปาเก็ตตี้ไก่ สเต็กหมูคูโรบูตะ รวมไปถึงเมนูเบอร์เกอร์ต่างๆ อย่างเบอร์เกอร์ไก่ กุ้ง หรือปลาอีกด้วย นอกจากนี้ เชสเตอร์ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่มีมาตรฐาน ให้ความใส่ใจในคุณภาพและการบริการเป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับท่านใดที่สนใจ แฟรนไชส์เชสเตอร์มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า (ก่อนVat) 700,000 บาท และงบลงทุนอยู่ที่ 6.5 ล้านบาท ซึ่งสามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chesters.co.th/ หรือ เชสเตอร์
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ในปี 2558 นี้
เชนร้านอาหารจะมีมูลค่าตลาด
ประมาณ 108,000 – 110,000 ล้านบาท
เติบโตอยู่ในกรอบร้อยละ 6.9 – 8.9 จากในปี 2557”
อันดับที่ 2 ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ (เข้าชม 421,088 ครั้ง)
สำหรับใครที่ชอบและมีความสุขกับการได้กินหรือแทะไก่ ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูไก่ทอดที่ควรค่าแก่การได้ลิ้มลองไม่น้อย ด้วยเพราะรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ครบเครื่องลงตัวด้วยรสและกลิ่นหอมของสมุนไพร
อีกทั้งเจ้าของแฟรนไชส์ยังมีเคล็ดลับการหมักและการทอดอย่างเชี่ยวชาญจึงทำให้ไก่มีความกรอบนอก นุ่มใน และไม่อมน้ำมัน โดยไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำนั้นมีทุกส่วนให้เลือกรับประทานตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนสะโพก น่อง ปีก อก รวมไปถึงส่วนของเอ็น ซึ่งถ้าหากได้ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ ก็คงเข้ากันได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับท่านใดที่สนใจ แฟรนไชส์ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำมีค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ 2,900 บาท และงบลงทุนประมาณ 10,000 บาท
ซึ่งสามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kaitodck.com/ หรือ แฟรนไชส์ ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ
อันดับที่ 3 ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิดเทิดเถิง (เข้าชม 356,672 ครั้ง)
ไจแอ้น แฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาระเบิดชิ้นใหญ่เต็มคำ กรอบอร่อยเพราะผลิตจากปลาทะเลสดเกรดเอนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ประเภทอาหารที่คนให้ความสนใจไม่แพ้แฟรนไชส์อื่นๆ เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันไจแอ้นมีจำนวนสาขากว่า 1,000 สาขา
การันตรีรสชาติและคุณภาพด้วยการรับรองแฟรนไชส์มาตรฐานจากกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงเชลล์ชวนชิมและรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย และนอกไปจากลูกชิ้นปลาระเบิดที่โดดเด่นแล้ว ไจแอ้นก็ยังมีลูกชิ้นกุ้งระเบิด และปลาเส้นอีกด้วย
สำหรับท่านใดที่สนใจ แฟรนไชส์ไจแอ้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกลงทุน โดยมีรูปแบบการลงทุนตั้งแต่ 2,900-27,900 บาท สามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lookchingiant.com/index.php หรือ แฟรนไชส์ ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิดเทิดเถิง
อันดับที่ 4 ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิดพุงแตก (เข้าชม 227,540 ครั้ง)
เรียกได้ว่าลูกชิ้นปลาระเบิดนั้นเป็นแฟรนไชส์ประเภทอาหารที่มาแรงเลยทีเดียว แต่แม้ว่าจะจำหน่ายสินค้าที่เป็นลูกชิ้นปลาเหมือนกัน ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิดพุงแตกก็มีความแตกต่างที่ทำให้สามารถจดจำได้ง่ายๆ ด้วยรูปร่างหน้าตาของลูกชิ้นปลาที่เป็นลูกกลมใหญ่ ขายในราคา 1 ลูก 1 บาท มีน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรเฉพาะที่เมื่อราดลงไปบนลูกชิ้นแล้วทานได้เข้ากันอย่างลงตัว
อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งแบรนด์อาหารที่ได้รับการการันตีรสชาติและคุณภาพจากเชลล์ชวนชิมเช่นเดียวกันด้วย
สำหรับท่านใดที่สนใจ แฟรนไชส์ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิดพุงแตก มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกลงทุน โดยมีรูปแบบการลงทุนตั้งแต่ 1,900-19,900 บาท สามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sumofishball.com/index.php หรือ แฟรนไชส์ ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิดพุงแตก
อันดับที่ 5 ชาลี สเต็ก (เข้าชม 205,078 ครั้ง)
ชาลี สเต็ก เป็นแฟรนไชส์ร้านสเต็กคุณภาพดีราคาย่อมเยา โดยทุกๆ เมนูล้วนนำวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานมาปรุงประกอบอาหาร จึงทำให้อาหารมีรสชาติที่เข้มขน กลมกล่อมและอร่อยถูกปาก และนอกไปจากเมนูสเต็กนานาชนิดแล้ว
ชาลี สเต็กยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนให้ลิ้มลองและละลานตามากมายจนตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก สลัดต่างๆ ซุป รวมไปถึงเมนูพิเศษอย่างปีกไก่ชาลี ไก่หมักไวน์แดง ไก่หมักซอสญี่ปุ่น หรืออกเป็ดรมควัน และมีเมนูของหวานที่เอาไว้ทานตบท้ายอย่างเค้กรสชาติต่างๆ อีกด้วย
สำหรับท่านใดที่สนใจ แฟรนไชส์ชาลี สเต็ก มีค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ 19,000 บาท โดยมีเงินลงทุนอยู่ที่ 30,000-70,000 บาท ซึ่งสามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.charliesteaks.com/ หรือ แฟรนไชส์ ชาลี สเต็ก
ThaiSMEsCenter.com หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้จะเป็นแนวทางและสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ที่กำลังสนใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทอาหารได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไชต์ของแฟรนไชส์และเว็บไซต์ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์
http://www.thaifranchisecenter.com/franchisethai/index.php
ขอขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.facebook.com/chesterthai