5 วิธีขายของออนไลน์ “ให้กลายเป็นเสือนอนกิน”

ตลาดออนไลน์กลายเป็นช่องทางซื้อขายสำคัญที่ยุคนี้ใครไม่ใช้ช่องทางนี้ถือว่า “สอบตก” และมีโอกาสเจ๊งสูงมาก จากปี 2562 ที่คาดว่า ปี 2563 ตลาดออนไลน์จะเติบโตมากขึ้น ก็กลายเป็นเฟื่องฟูสุดๆ

สาเหตุหลักๆคือการระบาดของ COVID-19 ที่กระตุ้นให้ตลาดออนไลน์โตแบบก้าวกระโดด ข้อมูลน่าสนใจระบุว่า ในปี 2563 นี้ธุรกิจช็อปออนไลน์มีมูลค่าที่ 220,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4-5% ของค้าปลีกทั้งประเทศ มีการเติบโต 35% จากปี 2562 ที่มีมูลค่า 163,300 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าหลายคนก็คิดเหมือนกัน และรู้ว่าตลาดออนไลน์คือช่องทางที่ดี เงินลงทุนน้อยกว่า โอกาสขายได้มากกว่า ไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขวักไขว่ในโซเชี่ยล ซึ่งเราก็มีสูตรเด็ดเคล็ดลับ เปลี่ยนคนทำธุรกิจออนไลน์ให้กลายเป็น “เสือนอนกิน” มาฝากให้ลองศึกษาและทำตามกันดู

1.เลือกรูปแบบที่ลงทุนน้อยและไม่ยุ่งยาก

วิธีขายของออนไลน์

ภาพจาก https://pixabay.com/

ในที่นี้เราจะพูดกันที่วิธี เป็นสำคัญ โดย Dropship คือการนำสินค้าของคนอื่นมาขาย โดยเราสามารถบวกกำไรเข้าไปอยู่ในสินค้านั้น ๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องส่งสินค้าหรือประกันสินค้าใด ๆ ว่าง่าย ๆคือเราไปเป็นตัวกลาง โดยนำสินค้าของเจ้าของโรงงานไปขาย ต่างจาก Pre-order ที่หมายถึง สินค้าที่ ต้องมีระยะเวลาในการสั่งซื้อ หรือสินค้าที่ต้องมีระยะเวลาในการผลิต เป็นสินค้าที่ไม่มีของในสต็อค หรือของหมดสต็อคต้องทำการสั่งซื้อใหม่อีกรอบ

แต่ข้อดีของ Pre-order คือเราจะได้สินค้าที่ถูกต้องถูกใจตามรายการสั่งซื้อต่างจาก Dropship ที่อาจมีการคลาดเคลื่อนได้ แต่คนส่วนใหญ่เลือกขายออนไลน์แบบ Dropship เพราะง่ายและสะดวกกว่า ซึ่งเราก็ควรศึกษาว่ามี Dropship ที่ไหนน่าวางใจ เหมาะจะทำธุรกิจร่วมกัน หากได้ลงทุนกับ Dropship ที่ดีโอกาสในการขายของเราก็จะมีมากขึ้น

2.Live สดเป็นประจำต่อเนื่อง

73

ภาพจาก bit.ly/2HHON6D

การ Liveสด เป็นวิธีเพิ่มยอดขายให้เราได้มากที่สุด สูตรเด็ดคือเราต้อง “Liveสด” ทุกวัน มีตัวอย่างน่าสนใจของพ่อค้าออนไลน์ท่านหนึ่งชื่อว่า “หลีเจียฉี” เขาขายลิปสติกจีน เขาไลฟ์สด 5 นาทีแต่ขายลิปสติกได้ 15,000 แท่ง สร้างรายได้หลายล้านหยวน มีคนถามเขาว่าทำไมเขามาถึงจุดนี้ได้ ก่อนหน้าที่เขาจะประสบความสำเร็จมีคนติดตามใน TikTok เขากว่า 38 ล้านคน เขาบอกว่าเขาไลฟ์สดวันละ 5-8 ชั่วโมง

เขาไลฟ์สดทุกวันแม้วันไหนเขาจะไม่สบายเขาก็ต้องมาไลฟ์ การไลฟ์ของเขาก็ไม่ได้อะไรมากแค่ออกมาทาลิปสติกโน่นนี่นั่นให้ดูแค่นั้น เขาให้เหตุผลในการไลฟ์สดทุกวันแบบนี้ว่า “วันไหนเขาไม่มา มีโอกาสที่คนจะเข้ามาดูเขาไลฟ์ หันไปดูคนอื่นไลฟ์แทน” เลยต้องเข้ามาไลฟ์ทุกวันเพื่อให้คนดูจำได้ว่า “เขาเป็นใคร” เป็นสิ่งที่หลีเจียฉีได้พูดไว้ ให้คนดูเหมือนรู้สึกว่า “ถ้าไม่ได้ดูเหมือนชีวิตขาดอะไรไป”

3.โรงงานมีกำลังการผลิตเพียงพอ

72

ภาพจาก https://pixabay.com/

สิ่งที่เราต้องมั่นใจว่าจะทำให้เราเป็นเสือนอนกินจากการขายของออนไลน์ได้คือ “โรงงานผู้ผลิตต้องมีความเป็นมืออาชีพ” เราต้องศึกษาโรงงานที่เราติดต่อเป็นพาร์ทเนอร์เหล่านี้ให้ดี ว่ามีกำลังการผลิตที่ดีพอ มีสต็อคสินค้าที่พอกับความต้องการของลูกค้า เพราะคงไม่ใช่แค่เราเจ้าเดียวที่ติดต่อสินค้าจากโรงงานนี้ประเด็นนี้ลองมองในแง่ Worst Case กัน

ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเรายิงโฆษณาผ่าน Facebook ลงทุนจากหลักร้อย ซึ่งช่วงแรกก็ขายดี ส่งของทัน จึงขยับค่าโฆษณาเป็นวันละ 1,000 บาท สุดท้าย แบรนด์ที่เราร่วมธุรกิจด้วยบอกว่าผลิตสินค้าไม่ทัน เพราะต้องส่งสินค้าให้ Dropship รายอื่นด้วย หรือ ขาดสภาพคล่องเพราะพิษเศรษฐกิจ หรือเหตุผลอีกนับร้อยประการ จนอาจทำให้เราขาดทุน เสียโอกาสขาย และเสียลูกค้าไปในที่สุด

4.ลองเป็นลูกค้าตัวเองดูก่อน

71

ภาพจาก https://pixabay.com/

ก่อนที่จะไปขายสินค้าออนไลน์ให้คนอื่น ลองเอาตัวเองเป็นลูกค้าตัวเอง คือสั่งสินค้าจากเว็บที่เราต้องการเอาของมาขาย ทั้งนี้เพื่อทดสอบว่า โรงงานหรือพาร์ทเนอร์ของเราที่ขายของออนไลน์นั้นดีจริงเหมือนที่เราคุยให้ลูกค้าฟังหรือเปล่า การเอาตัวเองเป็นหนูทดลองก่อนถ้าดีก็จะได้บอกต่อ ถ้าไม่ดีจะได้หาวิธีแก้ไขไม่กลายเป็นปัญหาในภายหลังซึ่งการได้รู้ถึงประสิทธิภาพในการจัดส่ง

คุณภาพสินค้าที่แท้จริง จะช่วยให้เรามีข้อมูลคุยกับลูกค้าของเราได้ง่ายขึ้นและเป็นการใส่ใจในงานบริการที่ลูกค้าจะรู้สึกว่าเราไม่ได้แค่อยากจะได้เงินจากเขาเท่านั้น เมื่อลูกค้าไว้ใจมั่นใจในตัวเราส่วนใหญ่ก็จะไม่หนีไปไหนสุดท้ายเราก็จะกลายเป็นเสือนอนกินเพราะมีฐานลูกค้าตัวเองจำนวนมาก

5.ลงทุนจากเล็กไปใหญ่ ค่อยๆโตไปทีละขั้น

70

ภาพจาก https://pixabay.com/

การเป็นเสือนอนกินในธุรกิจออนไลน์สำคัญคือ “อย่ารีบโต” ให้สร้างฐานลูกค้านับจาก 1 ไป 2 ไป 3 พยายามรักษาลูกค้าที่มีอยู่เก่าก่อนจะไปหาลูกค้าใหม่ สิ่งที่ควรทำเพื่อให้ได้อัตราการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปคือทดสอบดูก่อนว่าผลิตภัณฑ์ขายได้ คุณภาพดีจริงตามที่ลูกค้ารีวิว โอกาสขายสูงไหม โอกาสซื้อซ้ำมากแค่ไหน หลังจากมั่นใจแล้วค่อยลงทุนก็ยังไม่สาย

หรือโรงงานบางแห่งใช้ระบบตัวแทนจำหน่าย ที่ต้องสต็อคสินค้า พ่อค้าแม้ค้าออนไลน์หน้าใหม่ส่วนใหญ่มักโดนผู้ผลิตหลอกล่อด้วยโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ซื้อครบ 30 ลังแจกทอง หรือ ซื้อเกิน 50 ลังจะได้เรทที่ถูกมากๆ ตรงนี้ต้องให้มั่นใจว่าได้แน่ มีโปรโมชั่นไม่หลอกแน่ จึงคอ่ยทำการขาย จะได้เป็นการเซฟตัวเองไม่ให้ถูกหลอกและลูกค้าเราก็ไม่หนีหายไปจากเราด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดีเทคนิควิธีการ สูตรเด็ดเคล็ดลับในการขายของออนไลน์มีหลากหลายวิธี แถมยังมีคอร์สเรียนเพิ่มยอดขายให้เราเลือกเรียนอีกมากมาย การตลาดออนไลน์แม้เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพแต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราเองว่าจะเลือกใช้วิธีได้ถูกต้องเหมาะสมแค่ไหน สำคัญสุดคือไม่ว่าจะการตลาดดีอย่างไร สินค้าก็ต้องมีคุณภาพเพราะตัวชี้วัดความพอใจของลูกค้าส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ตัวสินค้านั่นเอง


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/31JWws9 , https://bit.ly/34sAlZ8 , https://bit.ly/3mnwEKq

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3oDPoYn

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด