4 วิธีสุดจ๊าบ ! ดึงลูกค้าคู่แข่งมาเป็นของเราซะ

โลกของธุรกิจ นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการแข่งขันเกิดขึ้นยิ่งเป็นสินค้าที่มีคนสนใจคู่แข่งก็ยิ่งมากดังนั้นการต่อสู้ที่สำคัญคือการทำอย่างไรที่จะดึงลูกค้าจากคู่แข่งนั้นมาเป็นของเราได้บ้าง

เหตุผลสำคัญที่ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าสินค้าจำเป็นต้องมีการดึงเอาลูกค้าของคู่แข่งมาเป็นของตัวเองนั้นเพราะนี่คือหนึ่งใน 2 วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ธุรกิจของเรามีโอกาสขยายตัวมากขึ้นในเชิงกลยุทธ์แล้วไม่ใช่เรื่องผิดจารีตประเพณีแต่อย่างใด

หากวิธีการทำตลาดและดึงคู่ลูกค้าจากคู่แข่งของเรานั้นเป็นไปตามแนวทางของการบริหารจัดการไม่ได้ใช้กลโกงหรือหลอกลวงกันมาเรื่องเหล่านี้ถือว่าเป็นธรรมดาสามัญในโลกของธุรกิจ

ซึ่งถ้าหากเราเลือกที่จะไม่ดึงลูกค้าจากคู่แข่งก็มีอีกหนึ่งวิธีที่ยากกว่าก็คือการหาตลาดใหม่ให้ตัวเอง ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วถือว่ายากมากนอกจากว่าสินค้าเราไม่เคยปรากฏออกมาก่อนเลยในตลาดแต่ถ้าเป็นสินค้าแนวเดียวกันกับที่มีอยู่แล้วก็คงจะแทรกตัวเข้าไปได้ยากมาก

เช่น การขายเครื่องสำอางให้กับลูกค้าที่ส่วนใหญ่ก็มีแบรนด์ในดวงใจของตัวเองอยู่แล้ว และนี่คือ 4 วิธีการที่เป็นหลักเบื้องต้นในการดึงลูกค้าคู่แข่งให้กลายมาเป็นลูกค้าตัวเองได้อย่างแนบเนียนที่สุด

1.รักษาฐานลูกค้าของตัวเองไว้ให้ได้ก่อน

วิธีสุดจ๊าบ

สินค้าของเราก็ต้องมีแฟนพันธ์แท้อยู่เหมือนกันดังนั้นเราก็ต้องมาดูว่าทำไมลูกค้าของเราถึงปักใจใช้สินค้าของเราในเมื่อมีสินค้าอื่นๆอีกมากมายที่เขาจะเลือกใช้ได้ ดูข้อดีของตัวเองก่อนเช่น สินค้าเราน่าสนใจ โปรโมชั่นหรือเปล่าที่เขาติดใจ

หรือเขาชื่นชอบในการบริการ ถ้าเราทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้จะทำให้เรารักษาฐานลูกค้าของเราไว้ได้ก่อนที่คิดจะออกไปลุยหาลูกค้าจากคู่แข่งเพราะลูกค้าเก่าของเราเป็นสิ่งที่เราควรรักษาไว้ให้แน่นแฟ้นเนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาและเงินทุนในการสร้างตลาดกลุ่มนี้ขึ้นมาใหม่

ยกตัวอย่างโค้กเคยมีสินค้าที่เป็น Coke Classic และมีการเปลี่ยนรสชาติเพื่อเอาใจลูกค้าใหม่ ปรากฏว่าผลไม่เป็นตามคาด เพราะลูกค้าเก่ารับไม่ได้กับรสชาติใหม่นี้ จนยอดขายลดลงชัดเจน นั้นคือการที่ไม่เข้าใจในความต้องการของลูกค้าตัวเองจนเกิดผลกระทบในด้านยอดขายอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

2.ทำความเข้าใจลูกค้าของคู่แข่ง

17

เรียกว่าเป็นการล้วงให้ลึกถึงสิ่งที่เรามองไม่เห็น เราอาจเห็นว่าสินค้าคู่แข่งมีฐานลูกค้าจำนวนมาก มองเผินก็ดูเหมือนว่าสินค้าเขาน่าสนใจหรือทำให้ลูกค้าเห็นผลจากการใช้งานได้จริง หรือถ้าเป็นของกินก็คงจะอร่อยมากๆ แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี้เราอย่ามาวิเคราะห์ตามตรรกะของตัวเองเป็นอันขาด

ทางที่ดีส่งทีมงานลงไปสอบถามลูกค้าคู่แข่งกันแบบเป็นเรื่องเป็นราวโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวเองก็ได้ว่ามาจากไหน สิ่งสำคัญที่เราต้องให้เขาตอบคือ เขาชอบอะไรในสินค้าเหล่านั้น และคิดว่าทำไมเขาถึงไม่เปลี่ยนใจลองไปใช้สินค้าตัวอื่นดูบ้าง

กลยุทธ์นี้มีความจำเป็นที่ต้องนำมาใช้หากต้องการเจาะลึกฐานลูกค้าและเมื่อได้ข้อมูลเหล่านั้นมาก็ต้องมาพัฒนาสินค้าตัวเองให้สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกค้าคู่แข่งต้องการจากนั้นค่อยมาประเมินผลกันอีกทีว่าเราสามารถดึงลูกค้าเขามาได้มากขึ้นแค่ไหน

3.กำหนดวิธีการตลาดในการดึงลูกค้าคู่แข่งแบบชัดเจนสุดๆ

23

รายละเอียดปลีกย่อยในข้อนี้คือการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนไม่ใช่การเหวี่ยงแหดึงเอาคู่แข่งของทุกแบรนด์ที่เป็นธุรกิจในลักษณะเดียวกัน แต่ถ้าทำได้ระบุเจาะจงไปเลยว่าจะเลือกแบรนด์ใดมาเป็นเป้าหมายในการดึงลูกค้า เพราะแม้จะเป็นสินค้าในแบบเดียวกันแต่แบรนด์สินค้าก็จะมีจุดอ่อนจุดแข็งในตัวเองที่ต่างกัน

ถ้าเรารู้ว่าคู่แข่งที่เรากำหนดเป้าหมายไว้นั้นมีจุดอ่อนตรงไหนก็จะทำให้เราโจมตีในจุดนั้นได้ง่ายขึ้น เช่นบางทีความสัมพันธ์ของลูกค้ากับแบรนด์นั้นอาจไม่แน่นแฟ้นนักหากมีข้อเสนอที่ดีกว่าก็อาจเปลี่ยนใจมาเลือกได้ อย่างกรณีของ Uber และ Grab คะ ทั้งที่แท็กซี่อยู่ก่อนแต่เพราะลูกค้าเห็นว่าบริการแท็กซี่นั้นยังไม่ดีพอเขาก็จะหันไปหาบริการของ Uber และ Grab มากขึ้น

4.สร้างจุดเด่นให้ตัวเองเพื่อให้ลูกค้าคู่แข่งมั่นใจและหันมาเลือกสินค้าของเรา

22

นับเป็นการดึงลูกค้าจากคู่แข่งแบบมีกลยุทธ์ เมื่อรู้ว่าจุดอ่อนของเป้าหมายคืออะไร แต่จะไม่มีประโยชน์เลยหากเราไม่สามารถพัฒนาสินค้าเราให้เกิดจุดแข็งเพื่อลบจุดอ่อนนั้นได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมากที่สุดในเรื่องนี้คงเป็นธุรกิจเครื่องเขียนที่มีอยู่นับไม่ถ้วน

การขายของแต่ละร้านก็มีทิศทางเหมือนๆกัน คนซื้อเองก็แทบจะไม่แยกว่าร้านไหนเป็นร้านไหนขอให้มีเครื่องเขียนที่ตัวเองต้องการก็พอ หรือบางทีก็เป็นลูกค้าประจำกันจากความสนิทสนม แต่ถ้าเราสามารถทำให้สินค้าของเราดูโดดเด่นมี Story ที่น่าสนใจยิ่งกว่าแม้จะเป็นสินค้าเครื่องเขียนเหมือนกันแต่ก็จะน่าสนใจกว่าคู่แข่งและพร้อมทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าและกลายเป็นลูกค้าประจำของเราได้

ทั้งนี้การเลือกว่าจะใช้วิธีการนำเสนอแบบใดหรือกลยุทธ์ดึงดูดใจอย่างไหนนั้นก็ต้องอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละธุรกิจซึ่งมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกันแต่หลักการโดยรวมนั้นใกล้เคียงกัน เรื่องของการทำธุรกิจนั้นจำเป็นมากที่ต้องเคลื่อนไหวด้านกิจกรรมการตลาดให้ต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการรับรู้ให้คนเห็น และรู้จัก ยิ่งทำมากก็ยิ่งมีโอกาสเพิ่มฐานลูกค้าได้มากเช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด