14 ข้อนี้เท่านั้น..พาธุรกิจให้ติดระดับโลกได้

เราอาจจะเคยคิดว่าจะทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จได้ ลำพัง การมีเงินทุน เพียงอย่างเดียวไม่ใช่ตัวชี้วัดคำว่าสำเร็จได้ การทำธุรกิจประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง ความคิด ทัศนคติ การเรียนรู้ ประสบการณ์ ผู้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นธุรกิจระดับโลกได้จำเป็นต้องมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน

ซึ่งถ้าตรวจสอบและประเมินจากการจัดอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด 100 อันดับแรกหรือที่เรียกว่า BrandZ Top 100 จะพบว่าแบรนด์ดังอย่างแอปเปิล กูเกิล ไอบีเอ็มต่างก็ติดโผอย่างไม่ต้องสงสัยและถ้าเราถอดรหัสความสำเร็จจากแบรนด์เหล่านี้จะพบว่ามีความจริงเพียง 14 ประการที่น่าสนใจ

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com ได้นำเสนอมาเป็นความรู้แก่ผู้ที่คิดทำธุรกิจทุกท่านให้มีกรอบปฏิบัติที่ถือเป็นหลักการระดับโลกเพื่อพาธุรกิจของทุกท่านให้ยิ่งใหญ่ไปสู่ระดับโลกในอนาคตได้เช่นกัน

การมีเงินทุน

1.รู้จักเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง

เนื่องจากคำว่าธุรกิจก็คือการแข่งขัน ที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้และตื่นตัวอยู่เสมอเมื่อโอกาสมาถึง จะได้ไม่ปล่อยให้หลุดลอยไป เพราะในบางครั้งโอกาสที่หลุดลอยไปเพียงครั้งเดียว ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของเราได้มากกว่าที่เราจะคาดได้

2.ทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์

การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์รวมถึงการยอมรับการเปลี่ยนแปลงในโลกที่มีการแข่งขันรุนแรงถือเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจาก ความเข้าใจที่ถ่องแท้จะทำให้เรามารถแยกแยะสาระสำคัญออกจากสิ่งฉาบฉวย ซึ่งจะช่วยให้กำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เหมาะสม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่หลงไปกับภาพลวงตา

qw2

3.ยืนหยัดกับสิ่งที่เป็น เนื้อแท้

ในการยืนหยัดกับสิ่งมี่เป็นเนื้อแท้ทางธุรกิจนั้นเราต้องมีความชัดเจนว่า อะไรคือสิ่งที่สร้างให้แบรนด์ของเรามีลักษณะพิเศษ แตกต่างจากคู่แข่ง เมื่อหาเจอแล้ว ก็จงยืนหยัดรักษา เนื้อแท้หรือเอกลักษณ์เหล่านั้นไว้เพราะนั้นถือว่าคือตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ของเราที่จะทำให้คนอื่นรู้จักและยอมรับได้

4.มีมาตรฐานและความคงเส้นคงวาทางธุรกิจ

อาจจะเรียกว่าเป็นจุดยืนซึ่งการทำธุรกิจนั้นจำเป็นมากที่เราต้องคงเส้นคงวา การโหนกระแสแบบฉาบฉวย เป็นสิ่งที่น่าเย้ายวน เพราะจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ อย่างน้อยก็ชั่วระยะเวลาหนึ่ง พึงตระหนักไว้ว่า ถ้าจะโหนกระแส ก็ต้องเป็นกระแสที่สอดคล้องกับแบรนด์ของเรา ความคงเส้นคงวานี้ จะเปลี่ยนกระแสให้กลายเป็นแรงเสริมในการสร้างแบรนด์ด้วย

qw3

5.เป็นแบรนด์ที่รู้จักการตอบแทนสู่สังคม

คุณค่าของแบรนด์ยังผูกโยงกับสิ่งที่ธุรกิจตอบแทนคืนให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ธุรกิจที่ไร้จริยธรรมทางสังคม คือธุรกิจที่กำลังเดินหน้าสู่จุดจบ แบรนด์ของธุรกิจเหล่านี้มีแต่จะเสื่อมค่าลงไปตามกาลเวลา

6.พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเพื่อผู้บริโภค

นวัตกรรมคือการส่งมอบอนาคตให้กับลูกค้า มีแต่ผู้ที่มุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น ที่จะทำเช่นนี้ได้ จำไว้ว่า ลูกค้าไม่ได้หวังแค่สินค้าและบริการ ลูกค้าต้องการอนาคต ดังนั้น แบรนด์ที่ดีจึงต้องส่งมอบอนาคตให้ถึงมือของลูกค้าได้ด้วย

qw4

7.สร้างความรู้สึกให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความต่างในตัวสินค้า

คำว่าความแตกต่างที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นบุคลิกและเรื่องราวที่ฝังอยู่ในตัวของแบรนด์ รูปลักษณ์ภายนอกจะอยู่ในความทรงจำ แต่บุคลิกและเรื่องราวจะถูกเปลี่ยนเป็นอารมณ์ความรู้สึก จะถูกแปลงเก็บไว้ในหัวใจของลูกค้า จึงคงได้อยู่นานกว่า และลอกเลียนแบบไม่ได้

8.ความเห็นของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ

การรับฟังลูกค้าถือเป็นกฏพื้นฐานของการค้าแม้ว่าความคิดเห็นของลูกค้าจะไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่สิ่งที่ลูกค้าพูด เป็นประโยชน์กับธุรกิจของเราเสมอ การรับฟังลูกค้าเป็นการให้เกียรติพวกเขา เมื่อเราให้เกียรติลูกค้า แบรนด์ของเราก็จะได้รับสิ่งเดียวกันนี้ตอบแทนกลับมา

qw6

9.ใช้ความจริงใจสร้างความไว้วางใจ

ธุรกิจที่ดีต้องรู้จักเปลี่ยนความจริงใจให้เป็นความไว้วางใจ ในสงครามแบรนด์ ความไว้วางใจเป็นทั้งอาวุธที่ทรงพลังและเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ความไว้วางใจไม่สามารถซื้อหาได้ สิ่งที่เราทำได้ คือ ต้องทำธุรกิจอย่างซื่อสัตย์จริงใจ แล้วปล่อยให้ลูกค้าตัดสินใจเองว่า จะยอม ‘ให้’ ความไว้วางใจแบรนด์ของเราหรือไม่

10.สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค

ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ความประทับใจที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากคำโอ้อวดเสแสร้ง แต่เกิดจากการให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าที่ลูกค้าคาดหวังไว้ สิ่งที่เหนือความคาดหวังนี้เอง คือเคล็ดลับในการเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์

qw5

11.แบรนด์ไม่ใช่แค่ชื่อเรียกสินค้าแต่คือพันธะสัญญากับลูกค้าด้วย

แบรนด์คือพันธะสัญญา ในสายตาของลูกค้า แบรนด์เป็นคำมั่นสัญญาว่าธุรกิจจะสร้างความพึงพอใจให้สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้า ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ที่ไม่สามารถรักษาพันธะสัญญาข้อนี้ได้ ก็คือแบรนด์ที่ตายไปแล้วในสายตาของลูกค้า

12.ธุรกิจที่ดีต้องรู้จักการยืดหยุ่น

รู้จักยืดหยุ่น ความคงเส้นคงวาและการทำตามพันธะสัญญา ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจต้องเดินทางเส้นเดียวตลอดไป ในบางครั้ง ธุรกิจต้องยืดหยุ่น รู้จักเลือกใช้วิธีการให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ ถึงจะเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อนก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะใช้วิธีการใด แบรนด์จะต้องส่งมอบคุณค่าชุดเดียวกันกับที่ลูกค้าเคยได้รับในระดับที่ไม่น้อยไปกว่าวิธีการที่เคยใช้มาก่อน

qw8

13.รู้จักการวิเคราะห์และประเมินธุรกิจ

ประเมินให้เป็นนิสัย การประเมินอย่างเป็นกลางจะช่วยให้เราเห็นภาพธุรกิจของเราอย่างแจ่มชัด เมื่อใดที่เราสามารถสร้างนิสัยการประเมินอย่างเป็นกลางให้เกิดขึ้นแล้ว นอกจากจะทำให้เราสามารถปรับปรุงธุรกิจและเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ ยังช่วยให้เรามองทะลุม่านหมอก เข้าใจในส่งที่คู่แข่งกำลังทำอยู่ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย

14.ต้องกล้าที่จะแตกต่างในบางเวลา

ธุรกิจจะโดดเด่นได้ต้องรู้จักการแหกกฎดูบ้าง การทำอะไรซ้ำกัน จะทำให้เกิดเป็นความเคยชิน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทำอะไรซ้ำกัน ก็คือ ‘กฎ’ ซึ่งไม่ได้หมายถึงเฉพาะกฎหมายที่ถูกกำหนดขึ้น แต่ยังรวมไปถึงความเชื่อต่างๆ ที่มากำหนดทัศนคติในการคิดและการตัดสินใจ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นปัจจุบันนี้ การยึดติด คือการอยู่กับที่ หากเราต้องการเดินไปข้างหน้า ต้องการให้แบรนด์ของเราอยู่รอด บางครั้งเราก็ต้องพร้อมที่จะแหกกฎ

qw7

แนวทางปฏิบัติทั้ง 14 ประการนี้จะเรียกว่ากฎก็ไม่ใช่ทั้งหมดหากแต่เป็นสิ่งที่สุดยอดแบรนด์ 100 แบรนด์ระดับโลกนำไปใช้แล้วประสบความสำเร็จได้อย่างดี ทั้ง 14 ข้อจึงเป็นเหมือนโครงสร้าง เป็นหลักการ

โดยสังเกตได้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องกำไรโดยตรง แต่กล่าวถึงทัศนคติ การเรียนรู้ แนวทางความคิด เพื่อเป็นกรอบปฏิบัติให้เดินได้ถูกทางแล้วกำไรจากการค้าทางธุรกิจก็จะตามมาในภายหลัง

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด