10 เส้นทางสู่เงินล้าน เดินหน้าไปเลย!

สิ่งที่ทุกคนในสังคมมีความต้องการเหมือนกันคือการมีความสุขสบายกับการใช้ชีวิตนั้นหมายถึงการมีเงินทองให้พอจับจ่ายใช้สอยแบบไม่ต้องเดือดร้อนในอนาคต หลายคนจึงมองหาการลงทุนที่คุ้มค่าและน่าจะตอบสนองความต้องการของตัวเองได้

แต่ทว่าในโลกความจริงมองไปทางไหนก็มีธุรกิจเปิดใหม่แทบทั้งนั้น การจะลงทุนสักอย่างเราจึงไม่ใช่คนแรกดังนั้นโอกาสที่จะแชร์ตลาดก็มีสูงมาก สุดท้ายก็เกิดเป็นความเสี่ยงว่ากำไรที่ต้องการอาจไม่ได้อย่างที่หวังไว้ จึงเป็นคำถามเกิดขึ้นในใจว่าตกลงแล้วหากจะตั้งเป้าทำเงินล้านให้ได้จริงๆจะมีวิธีไหนน่าสนใจบ้าง

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงพยายามรวบรวมวิธีที่เป็นไปได้สู่การก้าวเป็นเศรษฐีเงินล้าน บางอย่างอาจต้องใช้เงินลงทุนมากหน่อยแต่ก็มีโอกาสสำเร็จเร็วขึ้น แต่บางอย่างเป็นการเริ่มต้นจากศูนย์และค่อยๆไต่เต้าขึ้นไปอาจใช้เวลานานสักหน่อยแต่ถ้าตั้งใจและทำจริงเงินล้านที่เกิดจาก 10 เส้นทางต่อไปนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกัน

1. สร้างบริษัทขึ้นมาแล้วขาย

เส้นทางสู่เงินล้าน

มีตัวอย่างให้เห็นมากมายที่นักธุรกิจก่อตั้งบริษัทขึ้นมา แล้วสร้าง Asset อะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อได้เปรียบทางการค้า แนวคิด/ไอเดียแจ่มๆ ฐานลูกค้า สินค้าที่ขายดี ฯลฯ เพื่อให้เป็นธุรกิจที่มีอนาคตดีมากๆ เสร็จแล้วก็หาหุ้นส่วนใหม่, นักลงทุน มาซื้อกิจการไป หรือมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาที่ไม่ธรรมดา

โดยแทนที่เราจะต้องคอยรับเงินปันผลจากธุรกิจไปเรื่อยๆ เราก็ขายหุ้นเดิมหรือหุ้นเพิ่มทุนในราคาแพงพิเศษให้กับผู้ที่สนใจ แต่ทั้งนี้การลงทุนก้าวสู่เงินล้านด้วยวิธีนี้ก็ต้องบอกก่อนเลยว่าต้องมีเงินและประสบการณ์ที่มากเป็นพิเศษ

แต่นักลงทุนจำนวนมาก็มักจะใช้วิธีการนี้ในการต่อยอดคล้ายกับการเอาเงินต่อเงินที่ได้ผลดี แต่ถ้าสนใจจริงๆก็ควรเริ่มศึกษาและทำจากธุรกิจเล็กๆให้สำเร็จก่อนแล้วค่อยขยับขยายไปสู่ธุรกิจที่ใหญ่กว่าในอนาคตได้

2.ขายความชำนาญที่เรามี

jk4

น่าจะเป็นเรื่องง่ายที่สุดแต่บางทีก็ยากที่สุดเหมือนกัน ขั้นแรกเราต้องค้นหาตัวเองให้เจอว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร และอะไรที่ทำให้เรามีความสุข และอย่าดูถูกความสามารถตัวเองเด็ดขาด ต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนแต่ถ้าเราทำได้อย่างชำนาญก็กลายมาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เช่นกัน แต่ความยากที่ตามมาอีกประการคือการฝึกฝนให้ความชำนาญนั้นกลายเป็นมูลค่า

ในแง่ของธุรกิจนั้นต่างประเทศเองก็ให้ความสนใจเรื่องนี้มากอย่างช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เขาฮิตเรื่องของ Info Product หรือสินค้าที่เป็นประเภท Content ข้อมูล อยู่ในรูปแบบ Audio Book, e-Book, Training Course/Class

ใครมีความรู้เป็นทุนเดิม หรือศึกษาหาความรู้บางเรื่องให้ลึกสักหน่อย แล้วทำตัวเป็น “ผู้รู้” หรือ Guru ผลิตสินค้าประเภทนี้มาขาย ไล่มาตั้งแต่ Basic อย่างเช่นการเขียนหนังสือ, การเป็นที่ปรึกษา, การเขียน e-Book ไปจนถึงการจัดสัมมนา หรือ Advance หน่อยอย่างเช่น คอร์สออนไลน์, Subscription Program ฯลฯ

3.ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

jk5

ภาพจาก goo.gl/E2BVy2

ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างจากการเป็นนายหน้า เพราะนี่คือการเก็งกำไรจากพวกบ้านพักอาศัย ที่ดิน คอนโดมิเนียม อาจจะเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ทำให้เราเข้าใกล้เงินล้านได้เร็วแต่ก็ต้องลงทุนก่อนพอสมควรและต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญที่ดีอย่างยิ่ง หลักการง่ายๆ ก็คือซื้อมาแล้วขายไปโดยกินกำไรส่วนต่าง

สิ่งสำคัญคือการกะเก็งให้ถูกจังหวะเวลาในการซื้อและขาย เช่นถ้าซื้อในช่วงเศรษฐกิจยังไม่เฟื่องฟูมาก พอเศรษฐกิจเติบโต ราคาที่ดินและอสังหาฯ อื่นๆ ก็ขยับขึ้นพรวดๆ ในอดีตก็มีหลายคนกลายเป็นคนรวยภายในไม่กี่ปีก็เพราะ “ซื้อของได้ราคาถูก”

ในเวลาที่ถูกต้องนั้นเอง หรือถ้าจะเล่นในหมวดของ ทองคำ เพชรพลอยก็ได้เช่นกันแต่ก็ต้องมีการมองภาพรวมเศรษฐกิจแบบระยะยาวที่เราต้องวิเคราะห์เป็น หากเราชำนาญด้านนี้จริงๆ อาจทำกำไรจากการซื้อขายได้กว่า 4-5 เท่าเป็นเศรษฐีได้ไวกว่าที่คิดมาก

4.ใช้บล็อกสร้างรายได้

jk6

ภาพจาก www.livingroom.org

คำว่า Blogger ไม่ใช่ศัพท์ที่เกิดขึ้นใหม่ ธุรกิจแนวนี้มีมานานพอสมควรปัจจุบันทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศก็มี Blogger ที่ว่านี้จำนวนมาก Darren Rowse เจ้าของบล็อกต่างๆจำนวนมากบล็อกแรกที่เขาทำขึ้นมาก็คือ LivingRoom.org เป็นบล็อกที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันในออสเตรเลีย จากนั้นเขาก็ทำบล็อกอื่นๆตามมามากมายเช่นบล็อกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค บล็อกเกี่ยวกับไมเคิลแจ๊คสัน

ในปัจจุบันมีบล็อกที่เขาทำหลักๆอยู่คือ Digital Photography School และ ProBlogger โดยมีคนเข้าบล็อกเฉลี่ยวันละ 85,000-100,000 คนต่อวัน โดยบล็อกเหล่านี้สร้างรายได้ให้ Darren Rowse ถึง 20,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน

คิดเป็นเงินไทยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 74,000 บาท เทียบเป็นปีก็มีรายได้ไม่น้อยกว่า 8 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ผู้สนใจก็ต้องพัฒนาทักษะในแต่ละช่องทางทำเงินที่เกี่ยวข้องจึงจะสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

5.สร้างธุรกิจที่แตกต่างแบบคนอื่นคิดไม่ถึง

jk7

นั้นหมายถึงเราอาจต้องมีความคิดสร้างสรรค์และเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคแบบสุดๆ ความคิดนี้จะคล้ายกับการเป็น Startup ที่ขายความคิดและไอเดียให้กับผู้สนใจนำไปสร้างสรรค์สินค้าต่อหรือไม่ก็ระดมทุนในการสร้างสินค้าที่แตกต่างจากตลาดทั่วไป

โดยตัวอย่างมีให้เห็น เช่น Glia นวัตกรรมสำหรับธุรกิจค้าปลีก ที่โดดเด่นในกลุ่มธุรกิจออนไลน์ของเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ โดยเป็นโปรแกรมชนิดหนึ่งที่ให้ผู้ค้าสามารถเลือกโฆษณาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

ทั้งนี้ Glia ยังสามารถให้ลูกค้าเพิ่มโปรไฟล์ของตัวเองตามทัศนคติ การแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอาหารว่ามาจากแหล่งไหน เป็นชีวจิตไหม หรือว่าเป็น CareerLabs นี่คือรูปแบบธุรกิจที่สร้างความโปร่งใสของผู้ลงทุนที่น่าสนใจมาก

หรือ UAViators ที่เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับให้กลายเป็นธุรกิจที่มีความชัดเจนมากขึ้นทำให้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติในพื้นที่ต่างๆ และยังสามารถเข้าถึงพื้นที่ การถ่ายภาพทางอากาศได้เร็วกว่า ประหยัดกว่า และมีความละเอียดมากกว่าการใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม จึงทำให้ธุรกิจของ UAViators นั้นได้รับความนิยมและสนใจจากหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างมาก

6.เป็นนักคิด นักเขียน นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ

jk8

หลักการของการเป็นนักพูดที่ดีคือต้องมีความรู้ที่เปี่ยมล้นและรู้จักทักษะในการพูด จังหวะต้องดี มีเทคนิคทำให้ผู้ฟังคล้อยตามและรู้สึกสนใจเนื้อหาที่เราพูดไป โดยงานนี้คนทำต้องมีใจรักอยู่พอสมควรจึงจะสามารถสร้างรายได้ที่ดีจากการพูดได้การทำธุรกิจในลักษณะนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เวลาในการสะสมชื่อเสียงอยู่บ้าง

แต่หากเราเริ่มต้นทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำและในสักวันที่เรามีชื่อเสียงเป็นคนดังที่รู้จักกันในนามนักพูดให้กำลังใจ รายได้จากการเป็นวิทยากร หรือการรับเชิญไปพูดตามงานต่าง ๆ ก็จะเริ่มตามมาและขอบอกว่ามีนักพูดหลายคนที่เริ่มต้นมาจากจุดนี้และทุกวันนี้มีรายได้ต่อเดือนที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งทีเดียว

โดยเฉลี่ยนักพูดที่ประสบความสำเร็จมีรายได้คิดเป็นชั่วโมงละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท หรือถ้าในระดับกลางๆแบบคนทั่วไปก็อยู่ในหลักพันบาทรายได้มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับงานที่มีในแต่ละเดือน

7.ขายสินค้าในตลาดออนไลน์

jk9

น่าจะเป็นรูปแบบที่หลายคนก็กำลังทำอยู่เพียงแต่ว่ามีทั้งที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำตอบหลังสาเหตุของการที่ทำธุรกิจนี้แล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับยุคแรกๆที่อินเทอร์เนตเฟื่องฟูนั้นเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและมีตัวเลือกจำนวนมากเกิดการแชร์ตลาดจนผู้ค้ารายใหม่ๆแจ้งเกิดได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าอาชีพนี้จะตีบตันทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคของผู้ลงทุน

สิ่งสำคัญคือการประชาสัมพันธ์ที่ต้องกระจายเข้าไปในสื่อโซเชี่ยลให้มากที่สุดถึงขนาดอาจต้องยอมลงทุนโฆษณาประชาสัมพันธ์บ้างเพื่อโอกาสทางการขายที่มากขึ้น นอกจากนี้การเลือกสินค้าก็สำคัญเช่นกันหากเราติดต่อผู้ผลิตที่มีสินค้าแปลกใหม่ ในราคาที่เรานำมาจำหน่ายต่อได้ก็จะสร้างความน่าสนใจเพราะอย่างไรตลาดออนไลน์ก็ยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของคนในยุคนี้

8.เป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

jk1

วิธีการเริ่มต้นอาชีพนี้หลักการง่ายๆคือหาทรัพย์ที่ต้องการทำตลาดและติดต่อคนมาซื้อสินทรัพย์นั้นซึ่งก็มีกระบวนการต่างๆเช่นการเจรจากับเจ้าของทรัพย์ ประกาศหาคนรับซื้อ ติดต่อกับคนซื้อ เจรจาทำสัญญาซื้อขาย

เราก็จะมีรายได้โดยส่วนใหญ่จะคิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์เช่นขายสินทรัพย์ในราคา 1,000,000 บาท ก็จะได้ค่านายหน้า 30,000 บาท เป็นต้นแต่ทั้งนี้ผู้ที่จะเป็นนายหน้าก็ต้องเรียนรู้เทคนิคการพูด การเข้าถึงสินทรัพย์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ ก็จะเสริมประสิทธิภาพนายหน้าให้ดียิ่งขึ้น

9.ธุรกิจDropship

jk11

ภาพจาก goo.gl/hmCdxg

ธุรกิจ Dropship จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนสำคัญคือ ตัวเรา เจ้าของสินค้า และลูกค้าคนที่จะซื้อสินค้า วิธีการก็แค่เอาสินค้าที่เจ้าของสินค้าไปประกาศขายและเมื่อมีคนสนใจติดต่อซื้อเข้ามาและลูกค้าโอนเงินให้กับเราเรียบร้อย

เราก็ส่งค่าสินค้าให้กับเจ้าของสินค้าและเจ้าของสินค้าก็จะจัดส่งสินค้าให้กับผู้ที่ต้องการซื้อ ข้อดีของธุรกิจประเภทนี้คือเราไม่ต้องสต็อคสินค้าไม่ต้องสิ้นเปลืองทุนในการซื้อสินค้า โดยกำไรในการขายแต่ละครั้งจะอยู่ประมาณ 10-15 %

10.สร้างรายได้กับ Google AdSense

jk10

ภาพจาก goo.gl/m4l84o

เพียงแค่เรามีเว็บไซต์และสมัคร Google AdSense และเอาโฆษณามาติดในเว็บไซต์ของเราและทุกครั้งที่มีคนเข้ามาคลิกดูโฆษณาในเว็บไซต์ของเราเราก็จะได้รับเงินอันนี้ไม่ได้ลงทุนเป็นเงินแต่ลงทุนเป็นเวลาและการทุ่มเทของเราซึ่งแต่ละคลิกจะได้เงินไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับผู้ที่ทำ Google Adwords (ผู้ที่ต้องการโฆษณาสินค้าตนเองในรูปแบบ Banner)ว่าจ่ายให้กับ Google มากน้อยเท่าไร ถ้า จ่ายมาก เราก็ได้มาก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการลงทุนที่ต่ำแต่สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างดีเช่นกัน

ทั้งนี้เราอาจมีวิธีการสร้างเงินล้านในอีกหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีรูปแบบแฟรนไชส์ให้เลือกมากมายหลากหลายราคาที่เหมาะสมกับตัวเอง

หากเราไม่รู้จะเริ่มต้นได้อย่างไรก็สามารถปรึกษาการลงทุนกับเจ้าของแฟรนไชส์ต่างๆก่อนได้สนใจแบบไหน ชอบธุรกิจอะไรก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ อาจทำให้เรากลายเป็นเศรษฐีได้ดีพอๆกับ 10 วิธีที่กล่าวไปแล้วก็ได้

สนใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์เรามีรวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่จำนวนมากสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม ดูรายละเอียดเพิ่มเติม goo.gl/LuVAXJ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด