10 ผลงานยุค AI ที่หุ่นยนต์ใกล้จะอยู่รวมกับมนุษย์มากขึ้น

ปัญญาประดิษฐ์ ” หรือ Artificial Intelligence (AI) นับเป็นเทคโนโลยีที่เริ่มมีการพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้นและมีการนำเอาเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้กับธุรกิจหลากหลายรูปแบบและเป็นการผนวกรวมเข้ากับทุกภาคส่วนมากขึ้น

ถ้ายังมองภาพไม่ชัดเจนก็ขอพูดให้เด่นชัดว่าในโลกอนาคตนั้นมนุษย์จะมีบทบาทในการทำสิ่งต่างๆ น้อยลงและจะใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาอำนวยความสะดวกมากขึ้นถึงขั้นที่เกิดความกังวลว่ามนุษย์จะว่างงานกันมากขึ้น ซึ่งความวิตกกังวลนี้มองไปถึงว่าอนาคตนั้นเราจะถูกปกครองโดยหุ่นยนต์หรือไม่

ในมุมมองของธุรกิจเองแล้ว AI ก็ไม่ต่างจากเรื่องของอินเทอร์เนตที่ประมาณ 20 ปีก่อนหลายคนก็ตั้งสมมุติฐานไปต่างๆนานาและทุกวันนี้อินเทอร์เนตก็กลายมาเป็นช่องทางสำคัญที่ใครก็ไม่กล้าปฏิเสธรวมถึงเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับนักธุรกิจจำนวนมากด้วย

ดังนั้น www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าเทคโนโลยีก็คือความมั่นคงอย่างหนึ่ง ยิ่งมีมาก ก็ยิ่งมีโอกาส และยิ่งสร้างงานเพิ่มขึ้นได้ เหมือนกับที่ แจ็ก หม่า ได้กล่าวไว้ว่า”จงอย่ากลัวเทคโนโลยี เทคโนโลยีไม่ได้จะทำลายตำแหน่งงาน

กลับกันจะสร้างงานมากขึ้นความคิดล้าหลังต่างหาก ที่จะทำลายการจ้างงานลง” และด้วยเหตุนี้นิตยสารไทม์ จึงได้นำเสนอนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่พร้อมทำให้โลกของเราเข้าใกล้ค่ำว่าไฮเทคมากย่งขึ้น

1.Google Home

 

ปัญญาประดิษฐ์

ภาพจาก goo.gl/pKU2D3 , goo.gl/zeUjdA

เป็นผู้ช่วยประจำบ้านที่ได้รับการพัฒนาด้วยระบบ “กูเกิล แอซซิสแทนต์” โดยผู้ใช้สามารถออกเสียงคำสั่งได้โดยไม่ต้องเอื้อมมือหยิบมือถือมาใช้ โดยกูเกิล โฮมจะช่วยผู้ใช้จัดการตารางนัดหมาย ค้นหาความต้องการต่าง ๆ และแปลภาษา ทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านได้อีกด้วย

2.Amazon Echo

r3

ภาพจาก goo.gl/TSka6D

ลักษณะคล้ายกับ Google Home แต่เป็นลักษณะขงลำโพงอัจฉริยะที่สั่งงานด้วยการใช้เสียง ซึ่งมีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายตั้งแต่รายงานข่าว รายงานสภาพอากาศ ให้ร่วมกับโปรแกรมอื่นในการเปิดเปิดเสียงเพลง หรือสั่งงานเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือแม้กระทั่งช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้มาจอดเทียบหน้าบ้านได้เลยทีเดียว

3.Fetch Robotic

r5

ภาพจาก goo.gl/m7vZNO

เป็นลักษณะของหุ่นยนต์ที่จะทำหน้าที่ตามติดพนักงานประจำคลังสินค้า และมีหน้าที่ช่วยหยิบสิ่งของจากชั้นวาง พร้อมกับช่วยเคลื่อนย้ายสิ่งของไปยังที่ต่าง ๆ โดยนวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อจากการยกของหนัก และคาดว่าจะเป็นอีกเทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามาทำงานทดแทนมนุษย์ในเรื่องการขนส่งสินค้าได้ด้วย

4.Aethon Tug

r6

ภาพจาก goo.gl/4xlnIa

หุ่นยนต์อัตโนมัติที่ปัจจุบันเข้าไปช่วยงานในสถานพยาบาล สำหรับเคลื่อนย้ายลำเลียงวัสดุ อุปกรณ์ ยา เสื้อผ้า และอาหาร ภายในโรงพยาบาล เพื่อช่วยลดเวลาการทำงานของพยาบาล ให้พวกเขาดูแลคนไข้ได้มากขึ้น เป็นการออกแบบเทคโนโลยีมาเพื่อธุรกิจสุขภาพสถานพยาบาลที่หากสำเร็จเต็มรูปแบบเมื่อไหร่เราคงเจอกับพยาบาลน้อยลงแน่ๆ

5. Tesla Model S

r7

ภาพจาก goo.gl/QybtvB

ค่ายนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ทำงานแบบไร้คนขับ โดยอาศัยกล้องและเซ็นเซอร์ในการขับเคลื่อนบนท้องถนน ทำให้รถยนต์คันนี้รู้ว่าควรจะอยู่ในเลนไหน และใช้ความเร็วเท่าใดในสถานการณ์จราจรต่าง ๆ ทั้งยังสามารถจอดรถได้ด้วยตัวเองซึ่งนักวิเคราะห์เองก็เคยออกมาให้ข้อมูลว่าภายในปี 2025 ยานยนต์ไร้คนขับจะมาแทนรถยนต์ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันได้แทบทั้งหมดทีเดียว

6. DJI MAVIC PRO

r8

ภาพจาก goo.gl/Nc7f6s

เป็นลักษณะของโดรนพับปีกได้ขนาดเล็กกะทัดรัด มาพร้อมกล้องนำทางเพิ่มศักยภาพในการมองเห็น รวมถึงหลีกเลี่ยงอุปสรรคต่อการบินได้ดี เช่น ต้นไม้ หรืออาคาร พร้อมระบบลงจอดและระบบบินกลับฐานอัตโนมัติ รวมทั้งระบบบินติดตามเป้าหมาย เช่น นักสกี เป็นต้น ด้วยระบบควบคุมผ่านรีโมตที่มีจอภาพในตัว หรือ ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่สามารถบินด้วยความเร็วสูงสุด 64.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

7. Otto Trucks

r9

ภาพจาก goo.gl/aFEOad

นี่คือเทคโนโลยีรถบรรทุกไร้คนขับที่พัฒนาโดยค่าย “อูเบอร์” โดยใช้ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานควบคู่กัน ส่งผลให้เจ้ารถบรรทุกอัจฉริยะคันนี้ขับเคลื่อนได้โดยมองเห็นท้องถนนและมองเห็นแผนที่หรือเส้นทาง แน่นอนว่าหากต้นแบบนี้สำเร็จเมื่อไหรในโลกอนาคตเราคงเห็นรถบรรทุกแบบไร้คนขับและคำถามก็คือคนทำอาชีพขับรถบรรทุกจะไปทำอะไรกันดี

8.Asus Zenbo

r10

ภาพจาก goo.gl/gbN1Dq

เป็นหุ่นยนต์หน้าตาน่ารักจากค่าย “เอซุส” ที่ทำหน้าที่คล้ายกับกูเกิล โฮม และอเมซอน เอคโค่ ที่สามารถตอบคำถามต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถเคลื่อนไหวได้เสมือนจริงไปรอบบ้าน ทั้งยังสามารถแสดงสีหน้าได้ผ่านใบหน้าเหมือนจริง ถ้าใครนึกภาพไม่ออกลองไปดูหนังวิทยาศาสตร์ต่างๆที่รับรองได้ว่าเจ้าตัวนี้ถอดแบบกันออกมาแบบเห็นๆเลยทีเดียว

9. Microsoft Hololens

r11

ภาพจาก goo.gl/jF1H34

เป็นการเปิดประสบการณ์การมองเห็นด้วยแว่นตาสุดล้ำจาก “ไมโครซอฟท์” ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพรอบตัวได้ในแบบสามมิติ หรือโฮโลแกรม สร้างประสบการณ์เล่นเกมเสมือนเข้าไปอยู่ในเกมจริง ๆ และการพูดคุยแบบเห็นหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน เมื่อโฮโลเลนส์สามารถสร้างหน้าจอสามมิติขึ้นมาตรงหน้าผู้ใช้งานได้

10. Softbank pepper

r12

ภาพจาก goo.gl/iZjONf

เป็นหุ่นยนต์สัญชาติญี่ปุ่นจากบริษัท “ซอฟต์แบงก์ โรโบติกส์” มีความสูง 4 ฟุต เคลื่อนที่ด้วยล้อ 4 ล้อ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถจับอารมณ์ของผู้ใช้งาน, จดจำโทนเสียงต่าง ๆ รวมถึงสีหน้าเพื่อจะได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้กับมนุษย์ ปัจจุบันได้ถูกทดสอบการใช้งานในฐานะผู้ช่วยเหลือลูกค้าในร้านค้าปลีกต่าง ๆด้วย

หากมองในแง่ดีนี่คือการพลิกโอกาสทางธุรกิจในทุกมิติเพียงแต่ตอนนี้หลายอย่างเป็นเพียงแค่ต้นแบบที่ต้องรอการทดลองที่สำเร็จเพื่อใช้งานได้อย่างแท้จริง แต่คาดว่าอีกไม่เกิน 10 ปีนับจากนี้เราจะได้เห็นอะไรดีๆที่แตกต่างไปจากเดิม

รวมถึงเราอาจได้เห็นธุรกิจใหม่ๆ อาชีพใหม่ๆ การลงทุนใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับ AI มากขึ้น ซึ่งใครมีหัวทางธุรกิจสักหน่อยเตรียมคิดการณ์ล่วงหน้าเรื่องนี้ไว้รับรองได้ว่าโอกาสทางธุรกิจเปิดกว้างมากทีเดียว

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด