แจก 3 สูตรน้ำจิ้มสุกี้! ลูกค้าติดใจ

น้ำจิ้มอาจไม่ใช่อาหารจานเด็ดแต่อาหารจานเด็ดหลายอย่างก็ขาดน้ำจิ้มไม่ได้เช่นกัน น้ำจิ้มคือเมนูช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยมากขึ้น โดยเฉพาะสุกี้ที่ขอบอกเลยว่าถ้าไม่มีน้ำจิ้มก็แทบไม่ต่างจากแกงจืดดีๆ นี่เอง

การทำน้ำจิ้มสุกี้ให้อร่อยจึงเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าได้อย่างดี แม้ร้านดังอย่าง MK ก็มีทีเด็ดที่นอกจากเป็ดย่างก็มีน้ำจิ้มสุกี้ที่ลูกค้าพูดถึงมากที่สุด www.ThaiSMEsCenter.com รวบรวมเอา3สูตรน้ำจิ้มสุกี้ที่ใครทำเป็นทำอร่อยรับรองจะช่วยเพิ่มลูกค้าให้ติดใจร้านอาหารของเราได้อีกมาก

1.น้ำจิ้มสุกี้แบบ MK

สูตรน้ำจิ้มสุกี้

ภาพจาก bit.ly/2KN8k4R

ส่วนผสม

  1. กระเทียมดอง
  2. ผักชีฝรั่ง
  3. กระเทียม
  4. ซอสหอยนางรม ซอสพริก ซีอิ๊วขาว
  5. น้ำมันงา น้ำส้มสายชู
  6. เต้าหู้ยี้
  7. ซอสมะเขือเทศ น้ำตาล พริกแดง
  8. ผักชี และ งาขาว

วิธีทำ

  1. เทซอสพริกทั้งขวดลงในกระทะหรือหม้อ ตามด้วยน้ำส้มสายชู 3 ทัพพี ซอสมะเขือเทศ 1 ทัพพี และซีอิ๊วขาว 3 ทัพพี
  2. ตามด้วยซอสหอยนางรม 1 ทัพพี, น้ำกระเทียมดอง 2 ทัพพี, น้ำตาลทราย 3 ทัพพี
  3. นำพริกแดงและกระเทียมมาโขลกให้เข้ากันจนแหลก
  4. จากนั้นใส่เต้าหู้ยี้ประมาณ 4 ชิ้น (พร้อมน้ำเต้าหู้ยี้) และบดขยี้ทุกอย่างให้เข้ากัน นำมาตักใส่กระทะ ตั้งทิ้งไว้
  5. คั่วงาขาวประมาณ 1 กำมือ ด้วยไฟอ่อนๆ
  6. ซอยผักชีและผักชีฝรั่งเตรียมไว้
  7. ส่วนผสมที่คลุกเคล้าเอาไว้ในกระทะให้เริ่มตั้งไฟอ่อนๆ คนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเดือดแล้วปิดไฟได้เลย
  8. บดงาขาวที่คั่วแค่พอให้แหลก ใส่ลงไปในครก ตามด้วยน้ำมันงา 2 ทัพพี
  9. เมื่อทุกอย่างรวมกันแล้วค่อยๆคนให้ทุกอย่างเข้ากันอย่างดีจะได้เนื้อน้ำจิ้มเนียนวาว ก่อนรับประทานโรยหน้าด้วยผักชีและผักชีฝรั่งเพิ่มกลิ่นหอมให้มากขึ้น

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนน้ำจิ้มสุกี้เป็นการซื้อวัตถุดิบทีละมากๆ แล้วนำมาทำน้ำจิ้มที่แทบจะไม่มีต้นทุนต่อถ้วย ส่วนใหญ่จะใช้น้ำจิ้มสุกี้เป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหารและดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้าน ตรงนี้อาจทำให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น


2.น้ำจิ้มสุกี้สูตรฮ่องกง

16

ภาพจาก bit.ly/31TSvPG

ส่วนผสม

  1. ซอสพริกเผ็ดกลาง
  2. ซอสน้ำมันหอย
  3. น้ำมันงา
  4. น้ำปลา
  5. น้ำมะนาว
  6. งาขาวคั่วแล้ว พอประมาณ
  7. น้ำซุป สำหรับเจือให้ซอสใส
  8. กระเทียมสดสับละเอียด
  9. ผักชีสับ
  10. พริกขี้หนูสับละเอียด

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะไฟกลางๆ ใส่น้ำมันงา ใส่ซอสพริกเผ็ดกลางและซอสน้ำมันหอย น้ำปลาปรุงรส ใส่น้ำซุป คนให้เข้ากัน คนบ่อยๆ แล้วใส่งาที่คั่ว
  2. จากนั้นก็เตรียมน้ำมะนาว, พริกขี้หนูสับ, กระเทียมสับ ไว้ปรุงเพิ่มรสตามใจชอบ

ต้นทุน-กำไร : น้ำจิ้มสุกี้สูตรฮ่องกงจะไม่ข้นเหมือนน้ำจิ้มสุกี้ทั่วไปแต่รสชาติจะมีความหอมทั้งจากงาและน้ำซุป นอกจากจิ้มสุกี้ยังใช้ทานคู่กับลูกชิ้นหรืออาหารทอดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีด้วย

ต้นทุน-กำไร: น้ำจิ้มสุกี้สูตรฮ่องกงเป็นการซื้อวัตถุดิบทีละมากๆ แล้วนำมาทำน้ำจิ้มที่แทบจะไม่มีต้นทุนต่อถ้วย ส่วนใหญ่จะใช้เป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหารและดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้าน ตรงนี้อาจทำให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น


3.น้ำจิ้มสุกี้สูตรไม่ใส่เต้าหู้ยี้

15

ภาพจาก bit.ly/2KN9gWV

ส่วนผสม

  1. ซอสพริก
  2. ซีอิ๊วขาว
  3. น้ำตาลทราย
  4. น้ำส้มสายชู
  5. น้ำมันงา
  6. รากผักชีสับหยาบ
  7. กระเทียมไทยแกะเปลือกสับหยาบ
  8. พริกขี้หนูสีเขียว และแดงสับหยาบ
  9. น้ำมะนาว
  10. งาขาวคั่วบุบ
  11. ใบผักชี

วิธีทำ

  1. ผสมซอสพริก ซีอิ๊วขาว น้ำตาล น้ำส้มสายชู และน้ำมันงา เข้าด้วยกันในภาชนะผสม
  2. คนให้ทั่วจนน้ำตาลละลาย ใส่รากผักชี กระเทียม พริกขี้หนู น้ำมะนาว และงาขาวคั่ว แบ่งงาส่วนหนึ่งไว้สำหรับใช้โรยหน้าเล็กน้อย
  3. ชิมรสให้เปรี้ยว หวาน เค็ม หอมกลิ่นน้ำมันงา สามารถปรุงรสเผ็ดเพิ่มได้ตามต้องการ
  4. ก่อนเสิร์ฟคู่กับอาหารตกแต่งด้วยใบผักชี งาขาว ให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น 

ต้นทุน-กำไร : น้ำจิ้มสุกี้สูตรไม่ใส่เต้าหู้ยี้เป็นการซื้อวัตถุดิบทีละมากๆ แล้วนำมาทำน้ำจิ้มที่แทบจะไม่มีต้นทุนต่อถ้วย ส่วนใหญ่จะใช้เป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหารและดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้าน ตรงนี้อาจทำให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น

*** ทั้งนี้ราคาต้นทุน-กำไร เป็นการคาดคะเนเบื้องต้นในความเป็นจริงผู้ลงทุนจะซื้อวัตถุดิบแบบรวม ๆ และนำมาเฉลี่ยทำเป็นเมนู ต้นทุนแท้จริงจะขึ้นอยู่กับความยากง่าย ปริมาณ และจำนวนวัตถุดิบ จึงไม่อาจจำเพาะเจาะจงราคาได้ชัดเจน รวมถึงต้องคำนวณเรื่องค่าเช่าพื้นที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่แท้จริงด้วย***


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2Jf8ph8 

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3kCR7dx

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด