แจกฟรี! 10 เมนูน้ำดื่มสมุนไพร แก้ร้อน แก้จน

ธุรกิจที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจนอกเหนือจากชา กาแฟ ชานมไข่มุกที่เป็นตลาดใหญ่ สินค้าเป็นที่รู้จักอย่างดี เครื่องดื่มพวกน้ำสมุนไพรก็เป็นอีกทางเลือกที่คนยุคใหม่ให้ความสนใจยิ่งเทรนด์รักสุขภาพมาแรง น้ำดื่มสมุนไพรก็ยิ่งมีคนสนใจมากขึ้น ในเมืองไทยมีสมุนไพรหลายชนิดที่เอามาทำเป็นเครื่องดื่มแสนอร่อยได้

อีกทั้งยังสามารถพลิกแพลงดัดแปลงนำมาทำเป็นรายได้เสริมให้กับคนที่มีธุรกิจอยู่แล้วหรือสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการหารายได้เพิ่ม ลองมาดู 10 เมนูน้ำดื่มสมุนไพร แก้ร้อน แก้จน ที่ www.ThaiSMEsCenter.com รวบรวมมาให้คนสนในได้เอาไปฝึกทำ ต้นทุนของแต่ละเมนูไม่สูงแต่ถ้าทำอร่อยๆ แพคเกจดีๆ จะยิ่งขายดีมากขึ้น

1.น้ำเก๊กฮวย

14

ภาพจาก bit.ly/2ZlZWgC

ส่วนผสม

  1. ดอกเก๊กฮวย 1 กำมือ
  2. น้ำเปล่า 2 ลิตร
  3. น้ำตาลทราย
  4. ใบเตย

วิธีทำ

  1. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด ใส่ดอกเก๊กฮวยลงไปเคี่ยวสักพัก
  2. ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้จนเย็น
  3. พอน้ำเก๊กฮวยเริ่มอุ่นยกลงกรอง บรรจุใส่ขวด จะนำไปแช่เย็นหรือใส่ในน้ำแข็งแล้วทานก็ได้

ต้นทุน-กำไร : ดอกเก๊กฮวยแห้งในตลาดที่บรรจุถุงราคาแตกต่างกันไปตามยี่ห้อประมาณ 150-250 บาท 1 ถุงสามารถทำน้ำเก๊กฮวยได้จำนวนมาก ต้นทุนเฉลี่ยต่อแก้วประมาณ 2-3 บาท ถ้าขายใส่แก้วแก้วละ 5-7 บาทกำไรต่อแก้วประมาณ3-4 บาท หรือจะเลือกทำบรรจุใส่ขวดสวยๆนำไปฝากขายตามร้านหรือในตลาดนัดก็แล้วแต่กลยุทธ์ทางการตลาดของแต่ละคน


2.น้ำกระเจี๊ยบ

13

ภาพจาก bit.ly/2NnY5pq

ส่วนผสม

  1. ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 2 กำมือ
  2. พุทราจีน 2 กำมือ
  3. น้ำเปล่า 3 ลิตร
  4. เกลือป่น 2 ช้อนชา
  5. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาดเอาเศษฝุ่นออก เคล็ดลับคือพยายามอย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหารได้
  2. ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย ชิมรสตามต้องการ
  3. ยกลงกรองเอากากออก รอจนอุ่นหรือเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

ต้นทุน-กำไร : กระเจี๊ยบแห้งในตลาดที่บรรจุถุงราคาแตกต่างกันไปตามยี่ห้อประมาณ 150-250 บาท 1 ถุงสามารถทำน้ำกระเจี๊ยบได้จำนวนมาก ต้นทุนเฉลี่ยต่อแก้วประมาณ 2-3 บาท ถ้าขายใส่แก้วแก้วละ 5-7 บาทกำไรต่อแก้วประมาณ3-4 บาท หรือจะเลือกทำบรรจุใส่ขวดสวยๆนำไปฝากขายตามร้านหรือในตลาดนัดก็แล้วแต่กลยุทธ์ทางการตลาด


3.น้ำดอกคำฝอย

12

https://bit.ly/2CH4khP

ส่วนผสม

  1. น้ำเปล่า 2 ลิตร
  2. ดอกคำฝอยแห้ง 4 ช้อนโต๊ะ
  3. ดอกเก๊กฮวยแห้ง 1 กำมือ
  4. น้ำตาลทราย

วิธีทำ

  1. ใส่น้ำ ดอกคำฝอย และดอกเก๊กฮวยลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงต้มจนเดือดและน้ำเริ่มเปลี่ยนสี
  2. ลดไฟอ่อนลง เติมน้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้ละลาย ชิมรสตามชอบ ต้มต่ออีกสักครู่
  3. ยกลงจากเตา กรองเอากากออก รอจนอุ่น ตักใส่ขวด นำไปแช่เย็นหรือใส่น้ำแข็งแล้วอร่อยแบบเย็นๆ

ต้นทุน-กำไร : ดอกคำฝอยในตลาดที่บรรจุถุงราคาแตกต่างกันไปตามยี่ห้อประมาณ 50-100 บาท 1 ถุงสามารถทำน้ำดอกคำฝอยได้จำนวนมาก ต้นทุนเฉลี่ยต่อแก้วประมาณ 2-3 บาท ถ้าขายใส่แก้วแก้วละ 5-7 บาทกำไรต่อแก้วประมาณ3-4 บาท หรือจะเลือกทำบรรจุใส่ขวดสวยๆนำไปฝากขายตามร้านหรือในตลาดนัดก็แล้วแต่กลยุทธ์ทางการตลาด


4.น้ำมะตูม

11

ภาพจาก bit.ly/30psFma

ส่วนผสม

  1. มะตูมแห้ง 10 ชิ้น
  2. น้ำเปล่า 2 ลิตร
  3. น้ำตาลทรายแดง

วิธีทำ

  1. นำมะตูมแห้งไปย่างไฟ หรือคั่วในกระทะจนมีกลิ่นหอม เตรียมไว้
  2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางใส่มะตูมที่ย่างไฟลงไปต้มจนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี หรือนานประมาณ 30 นาที
  3. จากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปคนผสมจนน้ำตาลละลายหมด ชิมรส
  4. ยกลงจากเตา กรองเอากากออก พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

ต้นทุน-กำไร : มะตูมแห้งในตลาดที่บรรจุถุงราคาแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและขนาดบรรจุประมาณ 50-200 บาท 1 ถุงสามารถทำน้ำมะตูมได้จำนวนมาก ต้นทุนเฉลี่ยต่อแก้วประมาณ 2-3 บาท ถ้าขายใส่แก้วแก้วละ 5-7 บาทกำไรต่อแก้วประมาณ3-4บาท หรือจะเลือกทำบรรจุใส่ขวดสวยๆนำไปฝากขายตามร้านหรือในตลาดนัดก็แล้วแต่กลยุทธ์ทางการตลาด


5.น้ำใบบัวบก

10

ภาพจาก bit.ly/2NlsS62

ส่วนผสม

  1. ใบบัวบก 1 -1.5 กิโลกรัม
  2. น้ำเปล่า 12 ถ้วย
  3. ใบเตย 6 ใบ
  4. น้ำเชื่อม 6 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ล้างใบบัวบกให้สะอาด สะเด็ดน้ำ จากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ เตรียมไว้
  2. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด พักทิ้งไว้จนน้ำอุ่น
  3. แบ่งใบบัวบกเป็น 6 ส่วน ทยอยใส่ลงในเครื่องปั่นตามด้วยน้ำต้มสุกที่อุ่นแล้ว 1 ถ้วยปั่นจนละเอียดเป็นน้ำทำซ้ำจนหมด
    ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่เฉพาะน้ำ
  4. ใส่น้ำเชื่อมลงในน้ำใบบัวบก คนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

ต้นทุน-กำไร : ใบบัวบกที่ขายในตลาดมีทั้งที่เป็นต้นกับที่ตัดใบพร้อมขาย ราคาใบบัวบกต้นละประมาณ 70-100 บาท หากซื้อแบบตัดใบราคาก็ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ เมื่อนำมาทำน้ำใบบัวบก ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 2-3 บาท ถ้าขายใส่แก้วแก้วละ 5-7 บาทกำไรต่อแก้วประมาณ3-4บาท หรือจะเลือกทำบรรจุใส่ขวดสวยๆนำไปฝากขายตามร้านหรือในตลาดนัดก็แล้วแต่กลยุทธ์ทางการตลาด


6.น้ำจับเลี้ยง

9

ภาพจาก bit.ly/2ZjzEf5

ส่วนผสม

  1. ชุดจับเลี้ยงสำเร็จรูป (50-70 กรัม) จำนวน 1 ห่อ
  2. น้ำเปล่า 2 ลิตร
  3. น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายแดง

วิธีทำ

  1. ใส่เครื่องจับเลี้ยงลงในหม้อ ตามด้วยน้ำ ต้มไฟอ่อนจนเดือด และน้ำเปลี่ยนสีใช้เวลาประมาณ 20 นาที
  2. ยกลงจากเตา กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ เทกลับใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ
  3. ใส่น้ำตาลทราย คนผสมให้เข้ากัน ต้มจนเดือด ยกลงจากเตา รอจนอุ่นหรือเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

ต้นทุน-กำไร : จับเลี้ยงแห้งในตลาดที่บรรจุถุงราคาแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและขนาดบรรจุประมาณ 50-100 บาท 1 ถุงสามารถทำน้ำจับเลี้ยงได้จำนวนมาก ต้นทุนเฉลี่ยต่อแก้วประมาณ 2-3 บาท ถ้าขายใส่แก้วแก้วละ 5-7 บาทกำไรต่อแก้วประมาณ3-4บาท หรือจะเลือกทำบรรจุใส่ขวดสวยๆนำไปฝากขายตามร้านหรือในตลาดนัดก็แล้วแต่กลยุทธ์ทางการตลาด


7.น้ำตะไคร้ใบเตย

8

ภาพจาก 1th.me/1N1C

ส่วนผสม

  1. ตะไคร้สด 6-7 ต้น
  2. ใบเตย 3-4 ต้น
  3. น้ำตาลทรายแดง

วิธีทำ

  1. นำตะไคร้สดมาตัดใบออก ล้างให้สะอาด แล้วทุบด้านหัวให้พอแตก เตรียมไว้ และเตรียมใบเตยล้างให้สะอาด แล้วหั่นครึ่ง เตรียมไว้
  2. ต้มน้ำสะอาดในหม้อสเตนเลส ต้มจนน้ำเดือดจัด เมื่อน้ำเดือดจัดแล้วใส่ตะไคร้ และใบเตยลงไป ปิดฝา แต่ยังคงไฟร้อนไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นหรี่ไฟลงให้ร้อนปานกลาง ต้มทิ้งไว้อีก 15 นาทีโดยปิดฝาตลอดเวลา
  3. เสร็จแล้ว ค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายใส่ลงไปในปริมาณที่ชิมแล้วออกหวานเล็กน้อย และไม่มีรสเฝื่อน
  4. กรองน้ำสมุนไพรด้วยผ้าขาวบางลงในหม้ออีกใบ แล้วพักให้เย็นตัว บรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนเฉลี่ยของน้ำตะไคร้ใบเตยถือว่าถูกมาก เราสามารถปลูกตะไคร้แล้วตัดมาทำน้ำสมุนไพรเองได้ ต้นทุนที่แท้จริงน่าจะมาจากแพคเกจที่ยิ่งดูดีมีราคาก็ยิ่งต้นทุนสูง เฉลี่ยเบื้องต้นต้นทุนไม่เกิน 2-3 บาท ราคาขายก็ขึ้นอยู่กับต้นทุนแพคเกจว่าแพงแค่ไหนส่วนใหญ่ถ้าขายเป็นขวดเริ่มต้น 5-10 บาท ก็มีกำไรเบื้องต้นประมารณ 5-7 บาท


8.น้ำอัญชันมะนาว

7

ภาพจาก bit.ly/2ZbFlAA

ส่วนผสม

  1. น้ำเปล่า
  2. ดอกอัญชันสด 100 กรัม
  3. น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง
  4. น้ำมะนาวตามใจชอบ

วิธีทำ

  1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ดอกอัญชันลงต้ม ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
  2. ยกลงจากเตา ยกลงกรองดอกอัญชันออก เอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
  3. ผสมน้ำดอกอัญชันกับน้ำเชื่อม น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

ต้นทุน-กำไร : ราคาดอกอัญชันสดที่แม่ค้าขนมรับซื้อเพื่อนำน้ำไปทำเป็นสีผสมในขนม แบบสด ตกกิโลกรัมละ 60 – 100 บาท ส่วนราคาดอกอัญชันตากแห้งจำหน่ายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 250-500 บาท ต้นทุนของเครื่องดื่มชนิดนี้จึงสูงกว่าแบบอื่นๆ เฉลี่ยต่อขวดประมาณ 5-10 บาท ราคาขาย 10-15 บาท (เน้นการขายปริมาณมากเพื่อเฉลี่ยแล้วให้ได้กำไร) เพราะหากตั้งราคาสูงเกินไปลูกค้าจะไม่สนใจ


9.น้ำสำรอง

6

ภาพจาก bit.ly/30r6Qmi

ส่วนผสม

  1. ลูกสำรองนำมาตัดหัวท้ายออก จำนวน 10 ลูก
  2. น้ำเปล่า 1 ลิตร
  3. น้ำตาลทรายแดง

วิธีทำ

  1. แช่ลูกสำรองในน้ำสะอาดจนพองตัวออกเป็นเส้นวุ้น เลือกเอาแต่วุ้น สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
  2. ใส่เนื้อสำรองลงในหม้อต้มกับน้ำจนเดือด ใส่น้ำตาลทรายแดง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา
  3. ตักใส่แก้ว พร้อมดื่มขณะร้อน ๆ หรือพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท เทใส่ขวดเก็บไว้ดื่มแบบเย็น

ต้นทุน-กำไร : ลูกสำรองราคาแตกต่างตามขนาดบรรจุและยี่ห้อ ถ้าเป็นเกรดส่งออกอาจราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 600 บาท แต่โดยทั่วไปที่ใช้กันจะมีราคาประมาณ 150-200 บาทถือว่าเป็นน้ำดื่มสมุนไพรที่มีต้นทุนต่อขวดประมาณ 5-10 บาท ราคาขาย 10-15 บาท (เน้นการขายปริมาณมากเพื่อเฉลี่ยแล้วให้ได้กำไร) เพราะหากตั้งราคาสูงเกินไปลูกค้าจะไม่สนใจ


10.น้ำว่านหางจระเข้

5

ภาพจาก bit.ly/2zgWgSI

ส่วนผสม

  1. ว่านหางจระเข้ 1 ถ้วยตวง
  2. น้ำเปล่า
  3. น้ำผึ้ง

วิธีทำ

  1. นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วแช่น้ำทิ้งไว้สักพัก จากนั้นนำไปล้างเพื่อเอาน้ำยางออกให้หมด ทำความสะอาดบริเวณลำต้นให้สะอาด
  2. หั่นว่านหางจระเข้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำลงไป ปั่นให้ละเอียด
  3. นำว่านหางจระเข้ที่ปั่นแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อกรองเศษของว่านออกเหลือแต่น้ำ
  4. ใส่น้ำผึ้งลงในน้ำว่านหางจระเข้ คนให้เข้ากัน พร้อมดื่ม

ต้นทุน-กำไร : เราสามารถปลูกว่านหางจระเข้และนำมาทำเป็นวัตถุดิบน้ำสมุนไพรได้ จะช่วยประหยัดต้นทุนดีกว่าการไปซื้อว่านหางจระเข้จากตลาด ต้นทุนเฉลี่ยหากปลูกเองใช้เอง ราคาต่อขวดประมาณ 3-4 บาท ขายในราคาขวดละ 7-10 บาท กำไร 4-5บาท

*** ทั้งนี้ราคาต้นทุน-กำไร เป็นการคาดคะเนเบื้องต้นในความเป็นจริงผู้ลงทุนจะซื้อวัตถุดิบแบบรวม ๆ และนำมาเฉลี่ยทำเป็นเมนู ต้นทุนแท้จริงจะขึ้นอยู่กับความยากง่าย ปริมาณ และจำนวนวัตถุดิบ จึงไม่อาจจำเพาะเจาะจงราคาได้ชัดเจน รวมถึงต้องคำนวณเรื่องค่าเช่าพื้นที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่แท้จริงด้วย***


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2G6hhpO

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด