เปิดร้านแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ มีรายได้ต่อเดือนแค่ไหน

เปิดร้านแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ คุ้มหรือไม่คุ้ม กาแฟพันธุ์ไทย มี 5 รูปแบบให้เลือกลงทุน ได้แก่ คีออส ฟู้ดทรัค เทรลเลอร์ บิ้วอิน และ สแตนด์อโลน

มาดูรูปแบบที่ 1 เป็นร้านแบบคีออส

  • ขนาดพื้นที่ 9 ตารางเมตร
  • ค่าก่อสร้าง ตกแต่งร้าน 360,000 บาท
  • อุปกรณ์ภายในร้าน 460,000 บาท
  • ค่าแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • ค่าประกันแบรนด์ 200,000 บาท
  • ค่า Royalty Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • ค่า Marketing Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • Pos 2,000 บาท/เดือน หรือ 24,000 บาท/ปี
  • รวม 1,250,000 บาท

รูปแบบที่ 2 เป็นร้านแบบฟู้ดทรัค

เปิดร้านแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย

  • ขนาดพื้นที่ 9 ตารางเมตร
  • ค่าก่อสร้าง ตกแต่งร้าน 673,000 บาท
  • อุปกรณ์ภายในร้าน 350,000 บาท
  • ค่าแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • ค่าประกันแบรนด์ 200,000 บาท
  • ค่า Royalty Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • ค่า Marketing Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • Pos 2,000 บาท/เดือน หรือ 24,000 บาท/ปี
  • รวม 1,453,000 บาท

รูปแบบที่ 3 เป็นร้านแบบเทรลเลอร์

  • ขนาดพื้นที่ 9 ตารางเมตร
  • ค่าก่อสร้าง ตกแต่งร้าน 500,000 บาท
  • อุปกรณ์ภายในร้าน 482,000 บาท
  • ค่าแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • ค่าประกันแบรนด์ 200,000 บาท
  • ค่า Royalty Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • ค่า Marketing Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • Pos 2,000 บาท/เดือน หรือ 24,000 บาท/ปี
  • รวม 1,412,000 บาท

รูปแบบที่ 4 เป็นร้านแบบบิ้วอิน

  • ขนาดพื้นที่ 35 ตารางเมตร
  • ค่าก่อสร้าง ตกแต่งร้าน 525,000 บาท
  • เพิ่มค่าออกแบบ 50,000 บาท
  • อุปกรณ์ภายในร้าน 600,000 บาท
  • ค่าแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • ค่าประกันแบรนด์ 200,000 บาท
  • ค่า Royalty Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • ค่า Marketing Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • Pos 2,000 บาท/เดือน หรือ 24,000 บาท/ปี
  • รวม 1,605,000 บาท

แบบที่ 5 เป็นร้านแบบสแตนด์อโลน

เปิดร้านแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย

  • ขนาดพื้นที่ 40 ตารางเมตร
  • ค่าก่อสร้าง ตกแต่งร้าน 800,000 บาท
  • เพิ่มค่าออกแบบ 50,000 บาท
  • อุปกรณ์ภายในร้าน 600,000 บาท
  • ค่าแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • ค่าประกันแบรนด์ 200,000 บาท
  • ค่า Royalty Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • ค่า Marketing Fee 3% ของยอดขายต่อเดือน
  • Pos 2,000 บาท/เดือน หรือ 24,000 บาท/ปี
  • รวม 1,880,000 บาท

ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านไม่มีแค่นี้นะคับ ทุกรูปแบบการลงทุนยังมีค่าวัตถุดิบเปิดร้านครั้งแรกประมาณ 120,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่แต่ละสาขา

มาดูกันต่อ ถ้าเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทย 1 ร้านจะมีรายได้เท่าไหร่

  • ประมาณการราคากาแฟเฉลี่ย 65 บาท / แก้ว
  • ต้นทุนกาแฟประมาณ 30%
  • ค่า Royalty fee และ Marketing Fee 3% + 3% = 6%
  • กาแฟแก้วหนึ่งจะมีต้นทุน 24 บาท
  • กาแฟหนึ่งแก้วมีกำไร 41 บาท
  • ถ้าคิดเฉลี่ยวันหนึ่งขายกาแฟได้ประมาณ 150 แก้ว
  • นำเอา 41 x 150 = 6,150 บาท/วัน หากคิดเป็นเดือน = 184,500 บาท

รายได้ต่อเดือนที่ได้ยังไม่ได้นำไปหักต้นทุนค่าใช้จ่ายในร้านนะคับ มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

  • ประมาณการค่าเช่าอยู่ที่ 40,000 บาท/เดือน อาจจะมากหรืน้อยกว่านี้ก็ได้นะคับ
  • ส่วนค่าจ้างพนักงาน 4 คน ประมาณ 40,000 บาท/เดือน
  • ค่าน้ำ และ ค่าไฟอยู่ที่ 10,000 บาท/เดือน
  • ต่อไปก็บวกค่าซ่อมบำรุงในร้าน 5,000 บาท/เดือน
  • สุดท้ายค่าระบบ POS ที่ต้องจ่ายแต่ละเดือน 2,000 บาท
  • รวมค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือน 97,000 บาท

เมื่อนำมาลบกับรายได้ก็จะได้ 184,500 – 97,000 = 87,500 บาท

เปิดร้านแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย

ถ้าเราเลือกลงทุนแฟรนไชส์ร้านกาแฟพันธุ์ไทยในรูปแบบร้าน บิ้วอิน นั่งกินในร้านได้ ก็จะใช้เงินลงทุนเปิดร้าน รวมถึงค่าวัตถุดิบแรกเข้าประมาณ 1,605,000 + 150,000 = 1,755,000 บาท

นั่นก็เท่ากับว่า หากเราเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทยหนึ่งร้าน ถ้าขายได้วันละ 150 แก้วโดยประมาณ ก็จะคืนทุนได้ในระยะเวลา 20-21 เดือน หรืออาจจะ 24 เดือน เพราะยอดขายอาจไม่เท่ากันทุกวัน

สำหรับใครที่อยาก เปิดร้านแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย หรือร้านกาแฟอื่นๆ อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจร้านกาแฟ ก็คือ การเลือกทำเลเปิดร้านให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ต้องมีคนพลุกพล่านด้วย

แต่ก่อนจะเลือกทำเลนั้น อันดับแรกเลยต้องย้อนกลับไปคิดก่อนว่า เราอยากสร้างร้านกาแฟขนาดไหน ออกแบบสไตล์ไหน มีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร เพื่อจะเลือกเจาะจงทำเลที่ตั้งได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังต้องศึกษาคู่แข่งในพื้นที่ ทางเข้าร้านสะดวกมั้ย มองเห็นง่ายมั้ย สุดท้ายก็อย่าลืมดูเรื่องสัญญาค่าเช่า และข้อตกลงเงื่อนไขของแต่ละพื้นที่ด้วยคับ

สุดท้ายใครคิดเห็นกันยังไง ใครที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจร้านกาแฟอยู่ สามารถแชร์ประสบการณ์เข้ามาแบ่งปันกันได้นะครับ

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter  

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187

ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช