เปิดร้านสังฆภัณฑ์ เริ่มต้นทำไง?

ประเทศไทยนั้นเป็นเมืองพุทธธุรกิจบุญจึงสามารถเติบโตได้อย่างดี ในยุคที่เศรษฐกิจยังเฟื่องฟูกำลังการซื้อเครื่องสังฆภัณฑ์ในเทศกาลสำคัญๆทางศาสนาจะพุ่งสูงขึ้นมาก แต่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเราเจอกับปัญหาหลายด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ส่งผลต่อยอดการใช้จ่ายของคนที่เน้นประหยัดมากขึ้น ถึงกระนั้นในธุรกิจบุญก็ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีแม้จะไม่มากเหมือนแต่เก่าก่อน

อย่างไรก็ตามแม้กำลังการซื้อจะลดลงแต่ธุรกิจแนวร้านสังฆภัณฑ์ก็ยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจมากเพราะตราบใดที่คนยังเข้าวัดทำบุญ สินค้าในกลุ่มนี้ก็ยังขายได้ต่อเนื่องและถึงแม้เราจะมองเห็นทิศทางของธุรกิจนี้ว่าดีแต่ปัญหาก็คือหลายคนยังไม่รู้ว่างานนี้จะเริ่มต้นทำธุรกิจร้านสังฆภัณฑ์ได้อย่างไร ในวันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีแนวทางสำคัญของการ เปิดร้านสังฆภัณฑ์ ที่ใครอยากทำธุรกิจนี้ควรต้องศึกษาไว้

เริ่มต้น เปิดร้านสังฆภัณฑ์ ต้องใช้เงินเท่าไหร่?

เปิดร้านสังฆภัณฑ์
ภาพจาก goo.gl/tjA7TD , goo.gl/tjA7TD

เป็นคำถามแรกที่ทุกคนต้องถามแม้ว่าเรื่องทำเลก็สำคัญไม่แพ้กันแต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องมีเงินทุนมาก่อน ปัจจุบันการลงทุนในธุรกิจร้านสังฆภัณฑ์นั้นถือว่าใช้เงินในระดับ 100,000 เพราะหากลงทุนน้อยกว่านี้สินค้าในร้านก็จะน้อยตามไป ยังไม่รวมกับการจัดร้าน แต่งร้าน ที่ยุคนี้สินค้าต่างๆ ก็มีราคาแพงมากขึ้น

ดังนั้นหากคิดจะเริ่มต้นในธุรกิจนี้จริงๆขั้นต่ำก็ไม่ควรมีเงินน้อยกว่าหลักแสน เพื่อให้ได้สินค้าที่มากที่สุดซึ่งบางทีต้นทุนการเปิดร้านที่เหมาะสมอาจจะสูงกว่านี้ได้ในระดับ 300,000 – 500,000 ก็ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนว่าวางสเปคของร้านไว้แบบไหนยิ่งเป็นร้านใหญ่ทุนก็ยิ่งสูงมากขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ยังไม่รวมเงินทุนหมุนเวียนภายในร้านสำหรับการซื้อของเข้าร้านตามเทศกาลต่างๆที่ประเมินไว้เบื้องต้นอยู่ประมาณ 50,000 บาทเป็นอย่างน้อย

5 ขั้นตอนการ เปิดร้าน

หลังจากที่เรามั่นใจว่ามีเงินทุนในการเปิดร้านได้มากพอ เราลองมาดูในส่วนของวิธีการเปิดร้านตามลำดับขั้นว่าต้องทำอย่างไรก่อนหลังกันบ้าง

1.สำรวจทำเลที่เหมาะสมที่สุด

v12
ภาพจาก goo.gl/VqQRwN

การ เปิดร้านสังฆภัณฑ์ นั้นทำเลเป็นสิ่งสำคัญมาก หากตั้งอยู่ในย่านชุมชน หรือใกล้กับวัดได้ด้วยจะยิ่งดีมาก สังเกตให้ดีว่าในรัศมี1-2 กม.รอบวัดจะมีร้านสังฆภัณฑ์เรียงรายเป็นจำนวนมาก หรืออีกแหล่งที่น่าสนใจคือในย่านตลาดสดที่มีคนพลุกพล่านหากเป็นในทำเลอื่นที่ไม่ใช่โซนเหล่านี้โอกาสในการขายจะยากมาก

2.เลือกสินค้าเข้าร้านต้องให้มีคุณภาพและครบทุกความต้องการ

สินค้าที่ขายในร้านจะเป็นตัวตัดสินว่าร้านสังฆภัณฑ์ของเราน่าสนใจหรือไม่ สินค้าหลักๆที่ควรมีก็คือพวกเครื่องสังฆทาน เทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน สบง จีวร ดอกไม้แห้ง ธูปเทียน เครื่องบวชพระ

โดยเฉพาะพวกชุดสังฆทานที่น่าจะขายดีที่สุดเราก็ต้องรู้จักการสรรหาสินค้านำมาจัดเป็นชุดสังฆทานที่เหมาะสมกับราคาโดยต้องเน้นของที่มีประโยชน์และรวมแล้วราคาไม่แพงเกินไปโดยเรตปกติของราคาเครื่องสังฆทานยุคนี้ที่คนพอจะมีกำลังซื้อได้มากคือชุดละประมาณ 200-300 บาท สินค้าภายในชุดที่ควรมีก็เช่น ไฟฉาย รองเท้าแตะ สบู่ ยาสีฟัน ยาสามัญประจำบ้าน เป็นต้น

ในการหาสินค้าเข้าร้านในหมวดหมู่อื่นๆ เช่นเทียนพรรษาหรือว่าอุปกรณ์เครื่องบวชทางหนึ่งที่น่าสนใจคือการติดต่อกับบรรดาซัพพลายออร์ที่เป็นโรงหล่อเทียน หรือโรงงานผลิตเพื่อให้ได้สินค้าในราคาที่ถูกลงซึ่งจะดีกว่าการไปรับต่อมาอีกทีที่จะทำให้เรามีกำไรในการขายน้อยลงด้วย

3.การจัดตกแต่งร้านให้ง่ายต่อการเดินเลือกสินค้า

v13

ภาพจาก goo.gl/V6LZek

เนื่องจากร้านสังฆภัณฑ์จะต้องมีการลงสินค้าที่หลากหลายแต่เราก็ไม่ควรละเลยเรื่องการจัดวางและการตกแต่งร้านให้เหมาะสมทั้งในส่วนหน้าร้านและภายในร้าน บริเวรหน้าร้านสิ่งที่เราต้องวางโชว์ก็คือชุดสังฆทาน

ส่วนภายในร้านก็ควรจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ให้ง่ายต่อการเลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นโซนธูปเทียนดอกไม้แห้ง โซนเครื่องบวช เช่น สบงจีวร ผ้าอาบน้ำฝน หรือโซนอุปกรณ์ทางศาสนาทั่วไปเช่น ตาลปัตร หนังสือมนต์พิธี พานแว่นฟ้า พระพุทธรูปปางต่างๆ เป็นต้น

4.ความรู้ของเจ้าของร้านในเรื่องการทำบุญเป็นสิ่งสำคัญ

นอกเหนือจากการเลือกทำเลดี มีเงินทุน และจัดตกแต่งร้านเหมาะสม การ เปิดร้านสังฆภัณฑ์ เรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความรู้ของเจ้าของร้านที่ต้องสามารถพูดคุยแนะนำลูกค้าที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องพิธีทางศาสนามากนัก

หากเราสามารถแนะนำได้ว่าทอดกฐินควรใช้อะไรบ้าง ทอดผ้าป่าควรมีอุปกรณ์อะไร หรือเป็นงานบวชต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง การที่เรามีความรู้ในเรื่องเหล่านี้และนำเสนอแก่ลูกค้าได้ก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่นในร้านค้าของเรามากขึ้นด้วย

5.มีบริการเสริมที่นอกเหนือจากการขายหน้าร้าน

สินค้าบางประเภทไม่สามารถวางขายที่ร้านได้เช่น บางคนที่อยากสร้างพระก็จะเดินมาที่ร้านสังฆภัณฑ์ เพื่อติดต่อสอบถามเรื่องการหล่อพระ เราก็ควรรู้จักกับโรงหล่อพระที่มีคุณภาพไว้รองรับลูกค้ากลุ่มนี้ซึ่งแต่ละปีก็มีจำนวนไม่น้อย

หรือบริการจัดส่งสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าทีละมากๆและไม่สามารถนำกลับได้ทั้งหมดโดยเฉพาะกับคนที่จะจัดงานบวช หรือการทอดกฐิน ที่อุปกรณ์ทางศาสนามีค่อนข้างเยอะหากเรามีบริการจัดส่งได้ด้วยก็จะเป็นการสร้างความประทับใจที่ดีเช่นกัน

3 เทคนิคเสริมเพื่อเปิดร้านสังฆภัณฑ์ให้รวยเร็วยิ่งขึ้น

v14
ภาพจาก goo.gl/Kr4oQc

โดยทั่วไปกำไรเฉลี่ยของร้านสังฆภัณฑ์จะอยู่ที่ประมาณ 30% เป็นอย่างน้อย ซึ่งสินค้าบางชิ้นก็สามารถทำกำไรได้มากเช่นการสั่งทำพระพุทธรูป หรือสินค้าบางรายการก็เน้นการขายในปริมาณมากก็จะมีกำไรมากเช่นชุดสังฆทาน เป็นต้น อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากการรู้วิธีเปิดร้านแล้ว เทคนิคของการทำให้ร้านสังฆภัณฑ์ของเราดูน่าสนใจก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน โดยทั่วไปมีเทคนิคสำคัญๆ 3 ประการคือ

1.ยิ้มแย้มเข้าไว้ ทำให้ลูกค้าสบายใจเมื่อเข้ามาในร้าน

แทบจะเป็นโมเดลของทุกธุรกิจที่หากพ่อค้าแม่ค้าหน้าบึ้งตึ้ง พูดจามะนาวไม่มีน้ำ ถามคำตอบคำ เชื่อได้เช่นกันว่าลูกค้าจะไม่ประทับใจและไม่อยากกลับเข้ามาอีกครั้งเป็นแน่

ยิ่งเป็นร้านสังฆภัณฑ์ด้วยแล้วการแต่งตัวของเจ้าของร้านก็ต้องดูสะอาด หรือจะเปิดเสียงเพลงธรรมะคลอเบาๆ ร่วมด้วยก็จะเสริมบรรยากาศซื้อขายได้ดีขึ้น และเรื่องการพูดจาที่ต้องให้เรียบง่าย ฟังแล้วน่าเชื่อถือ หรือการรู้จักทักทายในเรื่องอื่นๆบ้างที่ไม่เกี่ยวกับการซื้อขายก็จะดูสร้างความเป็นกันเองได้ดีขึ้น

2.มีการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมตามสมควร

ร้านสังฆภัณฑ์ก็สามารถจัดโปรโมชั่นได้แม้จะไม่ใช่การลดแลกแจกแถมเหมือนในห้างสรรพสินค้า โปรโมชั่นของร้านสังฆภัณฑ์อาจจะเป็นการแจกของชำร่วยเช่นธูปหอม เทียนหอม ตามเทศกาลต่างๆ หรือลูกค้าบางรายที่มีการสั่งสินค้าจำนวนมากก็อาจจะลดแลกแจกแถมสินค้าบางรายการเข้าไปด้วย หรือการร่วมทำบุญช่วยซองในงานบวช หรือร่วมเป็นเจ้าภาพในการทอดกฐิน ผ้าป่า เป็นต้น

3.ไม่ควรขายของตัดราคากันเด็ดขาด

v15

ภาพจาก goo.gl/SuDMcy

เนื่องจากกำไรของร้านสังฆภัณฑ์ไม่ได้มากมายนัก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องทุนหายกำไรหดก็ไม่ควรขายสินค้าตัดราคากับร้านอื่นในละแวกเดียวกันเด็ดขาด แต่ควรหันมาเน้นสู้กันที่คุณภาพและบริการ เป็นสำคัญ

ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็เข้าใจได้หากสินค้าจะมีราคาแพงแต่ถ้าแลกกับบริการทีดี่ส่วนใหญ่ก็ยอมจ่ายและเมื่อเขาเป็นลูกค้าประจำของร้านไหนก็จะมาซื้อสินค้าที่ร้านนั้นเป็นประจำเสมอ และอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญสำหรับลูกค้าบางรายที่มีรายการสั่งสินค้าในราคารวมสูงๆ เพื่อป้องกันปัญหาลูกค้าไม่มารับสินค้าเราควรเก็บมัดจำเบื้องต้นไว้ด้วย

และปัจจุบันช่องทางการตลาดของร้านสังฆภัณฑ์ไม่ได้แค่เปิดร้านแล้วรอให้ลูกค้าเล่ากันปากต่อปากเท่านั้น การตลาดยุคนี้หากจะให้ธุรกิจโตเร็วขึ้น การใช้ช่องทางโซเชี่ยงทั้งเฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตราแกรม

ในการสร้างฐานลูกค้าก็น่าสนใจมาก หากเราคอยอัพเดทกิจกรรมของร้านเช่นการร่วมทำบุญทอดกฐิน ผ้าป่า งานสร้างพระ ฯลฯ ภาพลักษ์ของร้านค้าเราก็จะดีมากและจะเป็นการดึงดูดให้คนสนใจและเข้ามาใช้บริการที่ร้านเรามากขึ้นด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

อ้างอิงจาก https://bit.ly/35Lo8Qm

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด