รู้ยัง! McDonald’s รายได้ไม่ได้มาจากการขายอาหาร

หลายคนอาจจะรู้ว่า McDonald’s เป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐอเมริกา ด้วยจำนวนเครือข่ายร้านสาขามากกว่า 36,000 แห่งทั่วโลก บริการลูกค้ามากกว่า 70 ล้านคนต่อวัน โดยขายเบอร์เกอร์จำนวน 75 ชิ้นทุกๆ วินาที

แต่คุณผู้อ่านอาจไม่รู้ว่า McDonald’s ไม่ได้มีรายได้หลักจากการขายอาหาร แต่มีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเก็บค่าเช่า วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอเรื่องราวให้ทราบกัน

หลายคนอาจจะรู้ว่า

ภาพจาก goo.gl/RyT52c , goo.gl/yZcMkM

ก่อนอื่นขอเรียนว่า ต้นแบบของการขายแฟรนไชส์ของ McDonald’s ได้สร้างรูปแบบพิเศษที่ไม่เหมือนใคร กล่าวคือ เวลาจะขายแฟรนไชส์ให้ใคร McDonald’s จะเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้น แล้วเก็บค่าเช่าต่อจากผู้ซื้อแฟรนไชส์อีกต่อหนึ่ง ยิ่งร้านนั้นเติบโตเท่าใด ค่าเช่าที่เก็บก็จะแปรผันตามไปด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่า… McDonald’s นั้นอยู่ในธุรกิจ “อสังหาริมทรัพย์” ก็ได้

ที่ผ่านมาหลายคนอาจรู้เพียงว่า ธุรกิจหลักของ McDonald’s ไม่ใช่การขายแฮมเบอร์เกอร์ หรือเฟรนช์ฟรายส์อย่างเดียว แต่เบื้องหลังแล้ว คือ เจ้าของธุรกิจสังหาริมทรัพย์ตัวยงของโลก

m5

ภาพจาก goo.gl/Zno8eT

ย้อนกลับไป McDonald’s เริ่มต้นธุรกิจในปี 1940 โดย 2 พี่น้อง Richard and Maurice McDonald หรือ Dick กับ Mac ผู้สร้างระบบการผลิตที่รวดเร็วสุดเทพ เพิ่มยอดขายของธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นครอบครัว และชุมชนให้แก่ผู้บริโภค แล้ว McDonald’s มาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างไร

มาดูรายได้ของ McDonald’s ย้อนกลับไปในปี 2015 นั้นมียอดอยู่ที่ 25,413 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้ที่บริษัทเป็นคนดำเนินการ 16,488 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยอดขายจากแฟรนไชส์ 8,925 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ll4

ภาพจาก goo.gl/8HCxJb

แต่ถ้าดูชัดๆ จะเห็นว่า “แฟรนไชส์” สามารถทำรายได้ เพียงแค่ 1/3 ของรายได้ทั้งหมด แต่ถ้ามาดูกำไรในแต่ละส่วนจะเห็นว่า กำไรจากสาขาที่ดำเนินการโดย McDonald’s นั้น มีค่าใช้จ่ายตั้ง 13,977 ล้านดอลลาร์

ขณะที่กำไรจากสาขาแฟรนไชส์มีค่าใช้จ่ายเพียง 1,647 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ส่วนที่เหลือคือเงินเข้ากระเป๋า 7,278 ล้านดอลลาร์ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ประมาณ 74% ถือว่าเป็นสัดส่วนที่มาก

ll7

ภาพจาก goo.gl/rzF7Nk

รู้ไหมว่า เงินส่วนนี้ คือ เงินเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องมาจาก อดีต CFO ของ McDonald’s Harry J. Sonneborn ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ Ray Croc โดยเปลี่ยน McDonald’s ให้เป็นเครื่องจักรผลิตเงินจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีอำนาจเหนือ 2 พี่น้องแบบเห็นๆ

Harry J. Sonneborn เคยพูดไว้ว่า “จริงๆ แล้วเราไม่ได้อยู่ในธุรกิจอาหาร แต่เราทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ต่างหาก เหตุผลเดียวที่เราขายแฮมเบอร์เกอร์ในราคา 15 เซนต์ ก็เพราะมันคือ สิ่งที่สร้างกำไรได้ดีที่สุด เพื่อให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ (ผู้เช่า) สามารถจ่ายค่าเช่าให้เราได้ยังไงละ”

ll6

ภาพจาก goo.gl/ebRjLB

หลังจากทั้งคู่ ก็พากันเปิดบริษัท ชื่อ Franchise Realty Corp. เป็นเจ้าของที่ดินของผู้ถือแฟรชไชส์อีกทีหนึ่ง ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ หมายถึง ที่ดิน หรือ ทรัพย์อันติดกับที่ดิน

หรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดิน รวมทั้งสิทธิทั้งหลายอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วย จึงเป็นข้อสรุปได้เลยว่า Ray Croc เป็นเจ้าของที่ดิน ร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดบนที่ดินของเขาด้วยนั่นเอง

ll9

ภาพจาก goo.gl/1eiD7L

จะเห็นว่า กำไรทั้งหมดที่ได้จากแฟรนไชส์ มาจาก 2 รูปแบบ ได้แก่ ค่าส่วนแบ่งแฟรนไชส์ 4 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้นจากยอดขาย และค่าเช่าที่ดินของ McDonald’s นั่นเอง ซึ่งค่าเช่าที่นี้ไม่ได้ตายตัว มีการจัดการบวกเพิ่มจากราคาค่าเช่าทั่วไปอีก ซึ่งรายได้จากค่าเช่าที่ดินของแฟรนไชส์ คิดเป็นสัดส่วน 65% ของรายได้จากแฟรนไชส์ทั้งหมด

จึงไม่แปลกที่ปัจจุบัน McDonald’s ได้เติบโตเป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีลูกค้าเฉลี่ย ถึง 70 ล้านคนต่อวัน มีสาขาทั้งหมดถึง 36,000 สาขา ใน 119 ประเทศทั่วโลก มีแฟรนไชส์ซีถึง 85%

ll10

ภาพจาก goo.gl/dsi5p6

ขณะเดียวกัน McDonald’s ได้ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พร้อมเก็บค่าเช่าจากเหล่าผู้ซื้อแฟรนไชส์อีกด้วย ทำให้ McDonald’s กลายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของโลก

โดยมูลค่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ McDonald’s ในปัจจุบันสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์ ถือว่านอกจากฟันกำไรจากการขายแฟรนไชส์แล้ว ยังเก็บค่าเช่าเป็นกอบเป็นกำอีกด้วย

ll8

ภาพจาก goo.gl/bkVmy8

ยกตัวอย่าง Richard Adams ที่เป็นแฟรนไชส์ซีในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และเป็นที่ปรึกษาแฟรนไชส์เจ้าอื่นๆ กล่าวว่า McDonald’s จ่ายค่าเช่าเดือนละ 2,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 80,000 บาท) แก่ห้างสรรพสินค้า และขอส่วนแบ่งจาก Adams ถึง 8.5% จากกำไรการขาย

สรุปเขาต้องจ่ายค่าเช่าที่ให้แก่ McDonald’s ถึง 170,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือ 14,000 ดอลลาร์ต่อเดือน คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 490,000 บาท เรียกว่า McDonald’s เก็บกินค่าเช่าที่ จนหนำใจกันเลยทีเดียว


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ goo.gl/5UrtV2
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน goo.gl/Nyy6xs

อ้างอิงจาก

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช