รวมเทคนิค ขอกู้เงิน ผ่านง่าย ได้ไว สมใจนึก!

อยากทำธุรกิจแต่ไม่มีเงินทุน สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือ “กู้เงิน” ปัจจุบันมีสถาบันการเงินหลายแห่งพร้อมปล่อยกู้ให้คนสนใจได้นำเงินมาเริ่มต้นธุรกิจ รวมถึงคนที่ต้องการขยายธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่ก็สามารถขอกู้ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าปัญหาที่หลายคนเจอคือ “กู้ไม่ผ่าน” ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว และเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องน่าปวดหัวนี้กวนใจคนอยากกู้ลองมาดูเทคนิคที่น่าสนใจ ถ้าทำตามนี้รับรองว่าจะกู้เงินผ่านง่าย ผ่านไว สมใจนึกมากขึ้น

ขอกู้เงิน

1.เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม

เป็นเรื่องพื้นฐานในการกู้เงินที่เราควรเตรียมหลักฐานทุกอย่างให้พร้อมการเตรียมเอกสารหลักฐานอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อที่ต้องการ โดยมี 3 กลุ่มหลักคือ เอกสารประจำตัวเช่น สำเนาบัตรประชาชน , สำเนาทะเบียนบ้าน , สำเนาทะเบียนสมรส เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องมีเอกสารเกี่ยวกับรายได้ เช่น สมุดบัญชีเงินฝาก , หลักฐานการรับหรือจ่ายเงิน เป็นต้น สุดท้ายเอกสารที่สถาบันอาจต้องการเช่น สำเนาโฉนดที่ดิน (สำหรับค้ำประกัน) , เอกสารสำคัญของผู้กู้ร่วม , แผนธุรกิจ เป็นต้น

2.ทำประวัติชำระหนี้ให้ดีก่อนกู้เงิน

ก่อนสถาบันการเงินจะอนุมัติปล่อยกู้ มักจะต้องมีการเช็คเครดิตบูโร เพื่อตรวจดูประวัติการชำระหนี้ต่างๆ ถ้าประวัติเราดีก็จะมีผลในการประเมินปล่อยกู้ได้ง่าย ซึ่งแน่นอนว่าสถาบันการเงินก็ต้องประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังปล่อยกู้ หากพิจารณาแล้วมองว่าโอกาสที่ผู้กู้จะผิดชำระหนี้มีมากกว่า การขอกู้เงินก็จะยากขึ้นทันที ดังนั้นก่อนการกู้เงินจำเป็นต้องเคลียร์เครดิตบูโรของเราให้ดีด้วย

18

3.ไม่ควรมียอดภาระหนี้เกิน 30% ของรายได้

ภาระหนี้ก็มีผลต่อการพิจารณาเงินกู้ ดังนั้นการคิดจะกู้เงินใดๆ ควรเช็คก่อนว่าหนี้สินรวมทั้งหมดไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน ถึงจะมีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติเงินกู้ แต่ถ้าหากมีหนี้ที่เยอะเกินไป ก็อาจจะทำให้สถาบันการเงินมองว่าเราจะไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ แล้วหนี้ที่ยื่นกู้อาจจะเป็นหนี้เสียได้ ดังนั้น เพื่อประเมินความเสี่ยงของธนาคาร จึงไม่ค่อยอนุมัติให้กับคนที่มีภาระหนี้สินที่เกินตัว

4.ยื่นขอกู้เงินจากสถาบันการเงินหลายแห่งในครั้งเดียว

การขอกู้เงินจากสถาบันการเงินหลายแห่งในครั้งเดียว เพื่อให้กระจายความเสี่ยงของเราเองในกรณีที่บางสถาบันการเงินอาจไม่ปล่อยกู้ แต่อาจมีบางสถาบันการเงินที่ยอมอนุมัติปล่อยกู้ เพื่อให้เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการขอกู้ โดยอาจขอกู้สินเชื่อประเภทเดียวกับแต่ต่างสถาบันการเงินสัก 2-3 แห่ง เพื่อจะได้จัดเตรียมเอกสารในครั้งเดียว และถ้าหากไม่มีสถาบันการเงินไหนให้การอนุมัติ ควรจะต้องหยุดพักไว้สักระยะ เพื่อที่จะได้สร้างเครดิตตัวเองให้ดีขึ้นก่อน

17

5.อย่าขอกู้สินเชื่อบ่อยเกินไป

การขอสินเชื่อที่เหมาะสมไม่ควรทำถี่และบ่อยเกินไปเนื่องจากสถาบันการเงินจะมองว่าเรามีปัญหาเรื่องบริหารการเงินและการขอกู้มากเกินไปจะส่งผลต่อการชำระหนี้ในระยะยาว โดยปกติทุกสถาบันการเงินจะมีข้อมูลของผู้กู้อยู่ในระบบ ซึ่งหากการกู้ครั้งแรกประสบความสำเร็จ การขอกู้ในครั้งที่ 2 จะง่ายขึ้น แต่ก็ควรเว้นระยะห่างให้เหมาะสมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้มากยิ่งขึ้นด้วย

6.เลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการ

การขอกู้สินเชื่อจากธนาคารมีรูปแบบสินเชื่อแตกต่างกันไป การขอสินเชื่อให้ถูกประเภท ช่วยให้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น โดยสินเชื่อที่น่าสนใจเช่น สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล , สินเชื่อเพื่อเริ่มธุรกิจ , สินเชื่อบัตรกดเงินสด เป็นต้น โดยวงเงินและอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานจะมีผลต่อการพิจาณาที่ง่ายขึ้น

16

7.เตรียมหลักฐานการแสดงรายได้ที่ชัดเจน

โดยหลักฐานที่สถาบันการเงินจะขอดูเป็นพิเศษเช่น บัญชีหมุนเวียน เพื่อเช็ก Statement ย้อนหลัง 6 เดือน หรืออาจดูความเคลื่อนไหวทางการเงินของธุรกิจย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อตรวจสอบว่าธุรกิจมีรายรับ – รายจ่ายเท่าไร มีกำไรมากน้อยแค่ไหน และมีเงินคงเหลือเท่าไร ซึ่งใช้ประกอบกับการพิจารณาว่า เราจะสามารถผ่อนชำระคืนกับสถาบันการเงินตามวงเงินที่ขอกู้มาได้หรือไม่ ถ้าเอกสารในส่วนนี้ไม่ชัดเจนตัวเลขรายได้ไม่แน่นอน การพิจารณาส่วนใหญ่จะมองว่าผู้กู้อาจไม่มีความสามารถในการชำระคืนที่ดีพอ ก็ปล่อยกู้ไม่ได้

8.เตรียมหลักทรัพย์ค้ำประกันที่มากพอ

โดยเฉพุการกู้เงินเพื่อเริ่มธุรกิจจำเป็นต้องใช้วงเงินที่มากพอควร ดังนั้นสถาบันการเงินจำเป็นต้องการหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน หลายคนลาออกจากงานประจำเพื่อมาสร้างธุรกิจ ที่อาจจะยังไม่มีทุนสร้างทรัพย์สินมากนัก ทำให้ธุรกิจ SME ส่วนใหญ่ไม่มีหลักทรัพย์ที่เพียงพอในการใช้ค้ำประกัน ทำให้สถาบันการเงินมองว่าไม่มีความมั่นคงเพียงพอที่จะชำระ โดยสินทรัพย์ค้ำประกันส่วนมาก ได้แก่ สิ่งปลูกสร้าง บ้าน ที่ดิน รถยนต์ หรือทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ตามแต่ผู้ให้บริการแหล่งเงินทุนเห็นว่าสามารถใช้ค้ำประกันสินเชื่อเพื่อธุรกิจได้

15

9.เขียนแผนธุรกิจให้ชัดเจนน่าสนใจ

ในกรณีที่ต้องการขอกู้เงินเพื่อทำธุรกิจจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน โดยแผนธุรกิจจะต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ วิสัยทัศน์ (Vision) ภารกิจ (Mission) วัตถุประสงค์ (Objective) เป้าหมาย (Goal) และแผนการดำเนินงานของกิจการ การเขียนแผนธุรกิจที่ดี ผู้ประกอบการควรสะท้อนแผนธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ และสอดคล้องกับความเป็นจริง

โดยแผนธุรกิจที่ดีที่จะขอกู้เงินผ่านง่ายจะดูจากความเป็นไปได้ของโครงการ , มูลค่าการลงทุนที่ต้องใช้เงินอย่างเหมาะสม , การมีแผนสำรองในกรณีฉุกเฉิน , ความน่าสนใจของสินค้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

10.ใช้วิธี “กู้ร่วม” จะอนุมัติได้ง่ายขึ้น

การกู้ร่วมคือการทำสัญญายื่นกู้สินเชื่อก้อนเดียวกัน เพื่อให้ทางสถาบันการเงินเห็นว่าจะคนมาช่วยรับผิดชอบชำระหนี้จะ ทำให้ขออนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น หรือได้วงเงินสูงขึ้น โดยปกติแล้วจะกู้ร่วมได้ไม่เกิน 3 คน สามารถกู้ร่วมได้ในสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ โดยผู้กู้ร่วมได้จะต้องเป็นคนที่มีนามสกุลเดียวกัน เช่น พี่ น้อง พ่อ แม่ ลูก หรือพี่น้องท้องเดียวกันแต่คนละนามสกุลก็กู้ร่วมได้แต่ต้องแสดงทะเบียนบ้านหรือสูติบัตรว่ามีพ่อแม่คนเดียวกัน รวมถึงผู้กู้ร่วมที่เป็นสามี-ภรรยา เป็นต้น

อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะมีเทคนิคหรือการเตรียมความพร้อมก่อน ขอกู้เงิน มากสักแค่ไหน สิ่งสำคัญกว่าคือหลังจากที่ได้รับเงินกู้มาแล้ว ต้องมีการวางแผนในการชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการขอกู้ก็ไม่ควรให้เกินพอดีจนไม่มีความสามารถในการชำระคืน การขอกู้จากสถาบันการเงินหนึ่งเพื่อนำมาปิดหนี้อีกสถาบันการเงินหนึ่ง อาจทำได้แต่ในระยะยาวย่อมส่งผลต่อผู้กู้อย่างชัดเจน ดังนั้นวิธีบริหารการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญโดยเงินกู้เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการนำมาใช้ที่ต้องระมัดระวังให้มาก


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3PCXIVD , https://bit.ly/3LANdPf , https://bit.ly/3wFqaig , https://bit.ly/3Ntugzx

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3LLKO4s

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด