มีเงิน 1 ล้านบาท ทำอะไรดีครับ พี่น้อง!

ดูจะกลายเป็นเรื่องน่าสนใจกับข่าวที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ(ขสมก.)ได้เร่งทำแผนฟื้นฟูหลังขาดทุนกว่า 103,598 ล้านบาท หนึ่งในมาตรการที่คาดว่าจะเป็นไปได้คือการปรับลดพนักงานเก็บค่าโดยสารที่มีกว่า 2,000 คนเพื่อหันมาใช้ระบบตั๋วรวม ซึ่งงานนี้คาดว่าหากเกิดขึ้นจริงจะมีการใช้งบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท นั้นหมายความว่าพนักงานเก็บค่าโดยสารที่เข้าร่วมโครงการปรับลดพนักงานครั้งนี้จะมีเงินเข้ากระเป๋ากว่าคนละ 1 ล้านบาท กันเลยทีเดียว

แต่ประเด็นที่ www.ThaiSMEsCenter.com สนใจนั้นไม่ใช่เรื่องว่ามาตรการนี้จะเกิดขึ้นจริงไหม หรือถ้าไม่ใช่แล้วจะดำเนินมาตรการอย่างไรแทน แต่เรามาติดตรงที่คำว่าเงิน 1 ล้านบาทที่หากเป็นเราเองที่มีแนวโน้มว่าจะได้เงินล้านมาไว้ในกำมือแบบนี้ก็คงต้องคิดว่าเงินล้านที่ได้มานี้จะเอาไปทำอะไรดี

ล้านบาท

ถ้าหากเป็นยุคเก่าก่อนงานนี้ก็ต้องบอกเลยว่าเอาไปฝากกินดอกเบี้ยดีที่สุด เพราะอะไร? ก็ยุคที่ว่านั้นดอกเบี้ยเงินฝากนั้นสูงกว่า 12% ต่อปี ลองคิดดูกันละกันว่าหากมีเงิน 1 ล้านบาท แล้วได้ดอกเบี้ยขนาดนี้คิดแบบเลขกลมๆไม่ต้องเป๊ะอะไรมากได้ดอกเบี้ยกว่า 120,000 บาทต่อปีเฉลี่ยต่อเดือนก็มีเงินเข้าบัญชีกว่า 10,000 บาท นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนเมื่อก่อนเวลามีเงินถึงเอาไปฝากธนาคารคือดีที่สุดเพราะอัพบุ๊คแต่ละทียิ่งมีเงินมากยิ่งยิ้มแก้มแทบปริทีเดียว

ข้ามมาถึงสมัยนี้กลับตาลปัตรกันหมดสิ้นการมีเงิน 1 ล้านแล้วเอาไปฝากธนาคารดอกเบี้ยที่ได้นั้นคือ 0.75-1.2% ต่อปี นั้นหมายความว่าดอกเบี้ยที่เคยได้ปีละเป็นแสนหดลงมาเหลือแค่ประมาณหมื่นเดียว (นี่คือต่อปีแล้วนะ) ก็เลยเป็นคำถามต่อมาอีกว่าไม่ฝากแบงค์แล้วทำอะไรได้อีก

000232332565652332

เอาตามความเข้าใจและความเป็นจริงถ้าเราได้เงิน 1 ล้านสิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่จะทำก็คือ “การใช้หนี้” คำว่าเป็นหนี้ในที่นี้อาจจะเป็นค่าส่งบ้าน ส่งรถ หรือหนี้กู้ยืมอะไรก็ตามแต่ ยิ่งคนที่ส่งบ้านส่งรถด้วยแล้ว เงินล้านที่ได้มานี่จะต้องเอาไปตัดเงินต้นลงกันแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามขอให้คิดดีๆอีกสักครั้ง อย่างไรก็ควรแบ่งเงินให้เป็นสัดเป็นส่วนไว้ก่อนเพื่อความมั่นคงทางการเงินที่ดี นั้นคือหลัก 3:4:3 (เงินเก็บ : เงินลงทุน : เงินใช้จ่าย)

ตีความให้แคบเข้าไปอีกเงินล้านที่เรามี ควรเก็บไว้แบบไม่ต้องใช้สัก 300,000 เป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปอีกประมาณ 300,000 บาท ที่เหลือเป็นเงินลงทุนในการต่อยอดให้มีเงินมากขึ้นประมาณ 400,000 บาท ดังนั้นการเอาเงินล้านไปตัดต้นหนี้ที่เรามีเป็นเรื่องที่ดีแต่ในเบื้องต้นไม่ควรให้เกินไปจากยอดที่ว่านี้เอาไว้ลงทุนต่อยอดแล้วสำเร็จเมื่อไหร่ค่อยไปตัดโป๊ะอีกทีก็ยังได้

คำถามต่อมาแล้วจะเอาเงินไปลงทุนอะไรที่ให้ผลงอกเงยในยุคนี้ได้ดีที่สุด มีหลายทางที่น่าสนใจเช่น

1.ฝากประจำพิเศษ

vvmk

ภาพจาก goo.gl/MzvxUK

ก็ยังพอมีบางโปรแกรมของธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยดีอยู่แต่ว่าต้องดูเป็นกรณีไปเพราะเท่าที่เห็นจะมีมากสุดก็ฝากประจำแบบ 15 เดือนที่ได้ดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดซึ่งจะไปสูงสุดเอาตอน 3 เดือนสุดท้าย แต่เฉลี่ยแล้วดอกเบี้ยที่ได้ก็ประมาณ 2 % เท่านั้น

2.ลงทุนกับตราสารหนี้

0032356532000

ภาพจาก goo.gl/q1JPsc

เช่นกันว่าการลงทุนแบบนี้เมื่อก่อนดีมากแต่เดี๋ยวนี้ไม่ดีเท่าใดนักแต่ก็ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารแต่ความเสี่ยงก็มากกว่าเช่นกัน ก็ต้องลองดูผลตอบแทนของแต่ละตราสารหนี้ให้ดีว่าตัวไหนเหมาะสมกับเราและมีเงื่อนไขที่ให้กำไรเราดีที่สุด

3.ทุ่มซื้อฉลากออมสิน/ ฉลาก ธกส.

.00325622300

ภาพจาก goo.gl/gbTdbA

ใช้ดวงกันมากสักหน่อยแต่ไร้ความเสี่ยงใดๆทั้งสิ้น เข้าตำรายิ่งซื้อมากยิ่งมีสิทธิ์มาก ส่วนเทคนิคว่าซื้อแบบไหนอย่างไรให้ถูกรางวัลนั้นคงพูดยากแต่เอาเป็นว่าถ้าซื้อแล้วถูกงานนี้มีทุนไว้ต่อยอดอีกมหาศาลทีเดียว

4.กองทุนหุ้นก็น่าสนใจ

dfghnmnbgvfdsa

ภาพจาก goo.gl/dGso8E

หากแนะนำก็เป็นพวก Passive Fund กองทุนหุ้น SET50, SET100 ในระยะยาวหุ้นกลุ่มนี้จะดีมีผลตอบแทนเอาชนะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากได้ไม่ยาก หรือจะเลือกเป็นการลงทุนกับ LTF RMF ก็ต้องศึกษาว่าจะเลือกแบบไหนอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเอง แต่โดยรวมแล้วยุคนี้มีเงินล้านก็น่าจะแบ่งเอามาเล่นพวกนี้ดูบ้างน่าจะดีไม่น้อย

5.เปิดร้านลงทุนด้วยตัวเอง

0323223320003232

หลายวิธีที่พูดมาต้องอาศัยประสบการณ์และความรอบรู้เป็นพิเศษแต่หากจะพึ่งตัวเองแบบไม่อยากง้อใครก็ต้องเปิดร้านหรือทำกิจการของตัวเอง เงินล้านที่ได้มาในยุคนี้ไม่ได้มากมายนักแต่คงพอให้เริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆของตัวเองได้แต่ไม่ควรให้เกินงบประมาณที่ตัวเองมีเด็ดขาด

เดี๋ยวนี้มีแฟรนไชส์เข้ามาช่วยในเรื่องการลงทุนก็ทำให้เซฟต้นทุนได้มาก ก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือกอะไรดีที่ตลาดต้องการและเราทำได้ หรือจะเลือกขายของออนไลน์เองก็น่าสนใจเพราะไม่ต้องใช้เงินทุนมากแต่ต้องศึกษาวิธีการตลาดให้ดีเพราะยุคนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีอยู่เต็มเมืองทีเดียว

เหนือสิ่งอื่นใดการได้มาซึ่งเงินล้านนั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่โจทย์ใหญ่คือทำอย่างไรให้เงินล้านนั้นต่อยอดงอกเงยได้มากขึ้น เงินล้านยุคนี้ไม่ใช่จะมากมายเมื่อเทียบกับค่าครองชีพต่างๆ บางทีเงินล้านหากไม่มีแผนการใช้ที่ดีก็เหมือนลมพัดผ่านที่มาแล้วก็ไป หากเรารู้ว่ามีสิทธิ์จะได้เงินล้านไว้ในกำมือสิ่งแรกที่ควรทำก็คือการวางแผนใช้เงินนี่แหละสำคัญที่สุดแล้ว

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด