เงินทุนน้อย ก็เป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์ยี่ห้อดังได้

หากถามว่า เราจะมีวิธีการอย่างไร ที่จะได้เป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์ยี่ห้อดังๆ ไม่ว่าจะเป็น 7-Eleven KFC แมคโดนัลด์ มิสเตอร์โดนัท ดังกิ้นโดนัท สเวนเซ่นส์ กาแฟอเมซอน อินทนิล ฯลฯ ตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า จะต้องเก็บเงินให้ได้มากๆ แล้วนำไปซื้อแฟรนไชส์ยี่ห้อเหล่านี้ แต่ถ้าคนที่มีเงินทุนน้อย แต่อยากเป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์เหล่านี้ จะทำอย่างไร

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอนำเสนอวิธีการที่จะทำให้คุณเป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์ยี่ห้อดังๆ โดยที่คุณไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากๆ ไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์ ไม่ต้องเสียค่าการตลาดที่จ่ายเป็นรายเดือนให้กับแบรนด์เหล่านี้

f,hkgjfjgkl;l;l;l;
ภาพจาก goo.gl/J4aP9s

หลายคนคงรู้จัก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เขาเป็นคนที่มีหัวนักลงทุนอยู่ในสายเลือด เพราะตั้งแต่เป็นเด็กอายุ 13 ขวบ บัฟเฟตต์ก็เริ่มทำตัวเป็นเถ้าแก่ซื้อเครื่องเล่นเกมพินบอล (Pinball) เครื่องละ 25 เหรียญ มาตั้งให้บริการในร้านตัดผม ซึ่งไม่นานเขาก็มีเครื่องพินบอลถึง 7 เครื่อง และสามารถทำงานได้สัปดาห์ละ 50 เหรียญ

บัฟเฟตต์เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โตต่างๆ ได้ ก็เพราะการซื้อหุ้น เขามองการลงทุนในหลักทรัพย์เหมือนกับการลงทุนทำธุรกิจ และธุรกิจที่บัฟเฟตต์สนใจลงทุนมากที่สุด ก็คือ ธุรกิจที่มีแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรมากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ผู้บริโภคนิยมมากกว่าสินค้าของคู่แข่ง เช่น โค๊ก, มีดโกนยิลเล็ตต์, หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เป็นต้น พูดง่ายคือเป็นธุรกิจที่อยู่ในความต้องการและจำเป็นของผู้คน เป็นธุรกิจที่คนใช้กันทั่วโลก

fghjkl.,jmnbvvfds
ภาพจาก goo.gl/rsC617

แล้วจะเกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์ยี่ห้อดังอย่างไร บอกเลยว่าเกี่ยวเนื่องกันครับ เพราะแม้ว่าคุณจะมีเงินทุนน้อย ไม่เพียงพอกับงบประมาณการลงทุนแฟรนไชส์ยี่ห้อดังๆ คุณก็สามารถเป็นผู้บริหาร หรือเป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์ยี่ดังเหล่านี้ได้ โดยวิธีการลงทุนในหุ้นบริษัทที่บริหารร้านแฟรนไชส์แต่ละยี่ห้อ

ยกตัวอย่าง ใครจะเชื่อว่า ดร.นิเวศน์ นักลงทุนหุ้นชื่อดังของเมืองไทย ก็เป็นเจ้าของหรือผู้บริหารร้าน 7-Eleven อยู่ในตอนนี้เขาเริ่มต้นจากไม่มีทรัพย์สินอะไร เก็บเงินสะสมจากการทำงานประจำ ปัจจุบันเขาถือหุ้น CPALL อยู่ 45 ล้านหุ้น เขาเริ่มซื้อหุ้น CPALL เมื่อตั่งแต่ที่ราคา 60 บาท ซื้อได้ 100 หุ้น ปัจจุบันเห็นไหมว่าเซเว่นมีกี่สาขา และจะถึง 1 หมื่นสาขาเร็วๆ นี้

dfghjkl;l,kmjnbhgfds
ภาพจาก goo.gl/mgqfXg

วิธีการเลือกลงทุนในหุ้น ต้องดูที่ความเป็นผู้นำในธุรกิจนั้น เมื่อเราเลือกลักษณะธุรกิจได้แล้ว ก็ต้องมาดูว่าในธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทนั้น ใครมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะมันหมายถึงตำแหน่งในตลาดของเรา

การเป็นเบอร์ 1 นั้น มีหลายแบบ บางทีอาจเป็นที่ยี่ห้อ บางทีอาจมีสาขามากจนครอบคลุมทั้งประเทศ คนสามารถไปใช้บริการที่ไหนในประเทศก็ได้ เช่น 7-11 KFC แมคโดนัลด์ เป็นต้น ที่สำคัญต้องดูที่ผลกำไรของบริษัทที่บริหารร้านแฟรนไชส์ยี่ห้อดังต่างๆ ด้วย ถือว่าสำคัญมาก เพราะจะเป็นผลตอนแทนที่เราจะได้จากการลงทุน

303323256223

ภาพจาก goo.gl/U97z4H

ขณะเดียวกัน เราต้องดูในเรื่องจังหวะในการลงทุน ถึงแม้ว่าเราจะศึกษาบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์จนทะลุแล้ว แต่ถ้าราคาหุ้นขณะนั้นมีราคาแพงอยู่ เราก็ควรรอจังหวะในการซื้อก่อน เพราะตลาดหุ้นมีขึ้นมีลง เหมือนเราอยากซื้อของในห้าง แต่เราอยากได้ของถูก เราก็รอจนกระทั่งสิ้นเดือน หรือช่วงเขาขนออกมาเลหลังขาย

ที่สำคัญในการซื้อหุ้นบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์เหล่านี้ ต้องดูเป้าหมายการขยายสาขาของร้านแฟรนไชส์ด้วย เพราะถ้าขยายได้มากก็แสดงว่าเขาไม่มีคู่แข่ง สินค้าและบริการเป็นที่ต้องการของผู้คน ทุกคนจำเป็นต้องใช้บริการ ขาดไม่ได้

ได้เห็นแล้วว่า วิธีการเป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์ยี่ห้อดังๆ แม้ว่าจะมี เงินทุนน้อย กว่างบประมาณของแต่ละแฟรนไชส์ ทำได้ได้ด้วยวิธีการลงทุนในหุ้นบริษัทที่เป็นเจ้าของร้านแฟรนไชส์เหล่านี้ แต่ต้องดูแผน ดูเป้าหมายของแต่ละแฟรนไชส์ด้วยครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์ www.thaifranchisecenter.com/home.php
สนใจซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/37KvDqh

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช