การเตรียมความพร้อมก่อนซื้อธุรกิจแฟรนไชส์

ถึงแม้ว่า ธุรกิจระบบแฟรนไชส์ จะมีระบบงานที่มีมาตรฐานและมีความเป็นเอกภาพเดียวกัน ตลอดจนการมีระบบการให้คำปรึกษาแนะนำ และช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด แต่ความสำเร็จในการเข้าร่วมประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ยังขึ้นอยู่กับตัวเราเองเป็นสำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการลงทุนซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ใดๆ นั้น ต้องมีการเตรียมความพร้อมศึกษาหาความรู้

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ ไปเตรียมความพร้อมให้แก่ตนเอง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ มาดูว่าคุณต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้

ธุรกิจระบบแฟรนไชส์

1.มีความเข้าใจในระบบธุรกิจแฟรนไชส์อย่างชัดเจน

2.ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายของบริษัทแฟรนไชส์ที่สนใจ ว่าลักษณะสินค้าหรือบริการเป็นอย่างไร บริษัทมีนโยบายทางการตลาดอย่างไร มีการเข้มงวดในการคัดเลือกผู้ซื้อสิทธิมากน้อยเพียงใด มีมาตรฐานการจัดทำคู่มือการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างชัดเจนหรือไม่ ตลอดจนความน่าเชื่อถือของบริษัทในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญา

3.พิจารณาอุปนิสัยของตัวเอง ว่า จะสามารถดำเนินธุรกิจภายใต้กฎระเบียบและกติกาของบริษัทเจ้าของสิทธิ และทำงานร่วมกับบุคคลอื่นได้มากน้อยเพียงใด

jm2

4.ต้องมีความตั้งใจจริง มีความมานะพยายาม มีความอดทน สามารถสู้งานหนักได้ เพราะการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถเลิกกลางคันได้

5.มีเงินทุนที่เพียงพอ โดยการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ จะต้องมีเงินทุนที่จะต้องลงทุนเริ่มแรก ทั้งเป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้า Franchise Fee ค่าสถานที่ ค่าวัสดุอุปกรณ์ และจะต้องมีเงินทุนสำรองไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนส่วนหนึ่งด้วย

jm3

6.ต้องอ่านและพิจารณาสัญญาให้ละเอียด และทำความเข้าใจในเงื่อนไขของสัญญาแต่ละข้อให้ชัดเจน ซึ่งโดยทั่วไปสัญญาจะมีเนื้อหาดังนี้

6.1 รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบริษัทเจ้าของสิทธิ
6.2 รายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิของผู้ซื้อสิทธิ ดังนี้

  • รายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิที่ผู้ซื้อสิทธิจะได้รับจากเจ้าของสิทธิ
  • รายละเอียดเกี่ยวกับการอบรมให้ความรู้ การให้คำปรึกษา และการช่วยเหลือจากเจ้าของสิทธิ
  • รายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิในการซื้อสินค้า หรือวัตถุดิบจากบริษัทเจ้าของสิทธิ
  • รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการตลาด และการส่งเสริมการขายของเจ้าของสิทธิ
  • รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการรับสมัครบุคลากร และการฝึกอบรมบุคลากรให้แก่ผู้ซื้อสิทธิ ฯลฯ

6.3 รายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านหน้าที่ของผู้ซื้อสิทธิ ดังนี้

  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับความรับผิดชอบด้านค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ค่าวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ
  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดทำรายงาน เช่น รายงานยอดขาย รายงานข้อผิดพลาด ฯลฯ เป็นต้น

6.4 รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น การโอนสิทธิให้แก่บุคคลที่ 3 อายุสัญญา การต่อสัญญา การรับประกันการไม่เปิดกิจการในพื้นที่ทับซ้อน เป็นต้น

เห็นได้ว่าการศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องระบบแฟรนไชส์ มีผลดีต่อเจ้าของแฟรนไชส์ และผู้ซื้อแฟรนไชส์ จะมีส่วนช่วยให้การทำธุรกิจแฟรนไชส์มีความง่าย นำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

ทำไมต้องซื้อแฟรนไชส์แทนที่จะเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเอง

jm6

ความพิเศษของธุรกิจแฟรนไชส์ คือ การขยายสาขาแฟรนไชส์ซีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด แต่การขยายสาขาได้มากขึ้น นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจแฟรนไชส์มีข้อดีมากมาย จึงทำให้คนส่วนใหญ่หันมาลงทุนกันมาก แทนที่จะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยตัวเราเอง แต่ความพิเศษของธุรกิจแฟรนไชส์ที่ว่าดีกว่าการเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเอง มีอะไรกันบ้างล่ะ

1.แฟรนไชส์มีแบรนด์เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว

jm4

ผู้เลือกซื้อแฟรนไชส์ส่วนมาก มักเลือกจากชื่อเสียงและความสำเร็จของแบรนด์ที่ต้องการจะเป็นผู้รับสิทธิ์ (Franchisee) ด้วยเพราะเครื่องหมายการค้า ที่จะได้รับสิทธิ์ได้มาถือเป็นเครื่องรับประกันความน่าเชื่อถือ คุณภาพ มาตรฐาน และความพอใจที่ผู้บริโภคทั้งหลายได้พิสูจน์มาแล้ว

ทำให้ผู้รับสิทธิ์ไม่ต้องเสียเวลาสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ไม่ต้องลงทุนทำการตลาดใหม่แต่ต้น ซึ่งไม่เหมือนการสร้างแบรนด์เอง ที่อาจต้องใช้เวลาหลายต่อหลายปี กว่าจะเป็นที่รู้จัก

2.บริหารแฟรนไชส์ได้ แม้ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน

jm8

 

เราสามารถทำธุรกิจแฟรนไชส์ได้ ขอแค่รักที่จะเรียนรู้ มีความเป็นผู้นำ มีความสามารถด้านการจัดการ สนใจการตลาด หรือมีความสามารถด้านธุรกิจอื่นๆ เราก็สามารถทำธุรกิจแฟรนไชส์ได้แล้ว เพราะระบบแฟรนไชส์นั้น

มีข้อดีที่เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ได้ทลองผิดลองถูกมาเป็นเวลานาน เขาคิดค้นสูตรสำเร็จในการทำธุรกิจนั้นๆ ได้แล้ว และพร้อมถ่ายทอดให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แม้ไม่เคยจับงานด้านนี้มาก่อนเลยก็ตาม

3.มีการถ่ายทอด และอบรมการทำแฟรนไชส์ให้

jm7

แฟรนไชส์ที่ดีนั้นเจ้าของแฟรนไชส์ จะทำการบันทึกข้อมูลการพัฒนาและขั้นตอนการทำให้ธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จไว้ในคู่มือ แต่ที่ดีกว่านั้นคือเจ้าของแฟรนไชส์จะสอนสิ่งเหล่านั้น ให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ผ่านการอบรม ถือเป็นการให้ข้อมูลและคำแนะนำอันมีประโยชน์อย่างยิ่งในระยะเวลาสั้นๆ

เพราะข้อมูลทั้งหมดนี้ เจ้าของแฟรนไชส์ได้ทำการลองผิดลองถูกจนได้วิธีที่ดีที่สุดด้วยตนเองแล้ว ผู้รับแฟรนไชส์จึงประหยัดเวลาในการเรียนรู้มากกว่า จะมาเริ่มต้นทำธุรกิจที่คิดขึ้นเอง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะพบวิธีทำให้ประสบความสำเร็จได้

4.ได้รับการสนับสนุนระหว่างดำเนินธุรกิจ

jm10

เจ้าของแฟรนไชส์ จะให้ความช่วยเหลือผู้แฟรนไชส์ในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

4.1 การดำเนินการขั้นต้น บริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ จะมีพนักงานประจำคอยให้คำปรึกษาเรื่องการดำเนินการ สำหรับนักธุรกิจมือใหม่ ทำให้เราไม่รู้สึกว่าต้องแก้ปัญหาเพียงลำพัง อีกทั้ง ถ้าเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์มีการทำการตลาดที่ดีก็จะช่วยทุ่นแรงในการโปรโมทกิจการของเราได้อีกมาก

4.2 การตลาด บริษัทเจ้าของแฟรนไชส์จะจัดเตรียมที่ปรึกษาทางการตลาดไว้ให้ โดยที่ปรึกษาทางการตลาดจะจัดหาเครื่องมือ หรือกลวิธีดึงดูด รับมือลูกค้าในแบบต่างๆ ให้เรา วิธีเหล่านั้นได้ผ่านการใช้งานจริงมาแล้ว ที่ปรึกษายังช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายขั้นเริ่มต้น และช่วยพัฒนาแผนการตลาดในปัจจุบัน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของเราประสบความสำเร็จ

4.3 การหาทำเลที่ตั้ง แฟรนไชส์ส่วนใหญ่มักมีคู่มือ และที่ปรึกษาคอยช่วยเราหาทำเล เพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจและช่วยต่อรองราคาค่าที่ให้ ทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง

jm11

4.4 การก่อสร้าง บริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ยังช่วยเหลือ เรื่องการออกแบบร้าน หรืออาคารที่ให้เหมาะสมกับพื้นที่ และงบประมาณภายใต้รูปแบบที่บริษัทกำหนด ทั้งยังเลือกผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้ให้กับเราด้วย รวมไปถึงออกความคิดเรื่องการใช้สาธารณูปโภคที่เรามีอยู่แล้ว ให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้นในการทำธุรกิจใหม่

4.5 การเงิน บางบริษัทแฟรนไชส์ยังช่วยเหลือผู้ซื้อแฟรนไชส์ในการเจรจากับแหล่งเงินกู้ เพราะการขอกู้ในนามบริษัท หรือในนามกลุ่มใหญ่ๆ จะช่วยให้ได้รับอนุมัติได้ง่ายกว่าการขอกู้เป็นรายบุคคล

4.6 การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การทำแฟรนไชส์ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการ (Royalty Fee) เป็นรายเดือน 2 หรือ 3 เดือนตามแต่ที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งค่าธรรมเนียมอาจหมายรวมถึงการที่เจ้าของแฟรนไชส์ จะทำการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้กับเราด้วย และหากเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์มีการทำการตลาดที่ดี ก็จะช่วยโปรโมทธุรกิจเราได้เยอะ

5.ช่วยลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจ

jm5

ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการซื้อแฟรนไชส์เลยก็ได้ เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว ผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้ว

อีกทั้งมีเทคนิค มีระบบการทำงานที่เป็นสูตรสำเร็จ และกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งยังเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคมาก่อนแล้ว เงินทุนที่ใช้ลงทุนในการดำเนินการเป็นจำนวนที่แน่นอน ผิดกับการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยตัวเอง ที่มักใช้เงินเกินงบประมาณที่วางแผนเอาไว้เสมอ

แม้ว่าการทำธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ ในแต่ละเดือนเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ก็อาจดีกว่าการที่เราต้องไปหมดเงินไปกับข้อผิดพลาดต่างๆ ในการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยต้นเอง ซึ่งนอกจากจะเสียเงินแล้ว บางครั้งยังเสียความรู้สึก และความตั้งใจด้วย หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น

01565898888

ท่านใดสนใจอยากให้สร้างระบบแฟรนไชส์ แจ้งความประสงค์ได้ที่
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช