กลยุทธ์ D-R-I-V-E งานนี้เพื่อจูงใจให้คนอยากทำงานเกินร้อย

การสร้างกำไร ให้เกิดขึ้นกับการทำธุรกิจส่วนหนึ่งต้องเกิดมาจากประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากร การบริหารทีมงานในยุคใหม่นั้นต้องเน้นที่การซื้อใจทีมงานก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำงานมากกว่าจะใช้แค่ประโยคคำสั่ง

เพราะคิดว่าเราจ่ายเงินเดือนให้แล้ว ด้วยประสิทธิภาพของคนเรานั้นจะถูกดึงออกมาใช้ได้ดีที่สุดเมื่อเขารู้สึกว่าอยู่แล้วดี อยู่แล้วสบายใจก็ทำให้มีใจที่จะคิดสร้างสรรค์สิ่งต่างๆออกมาก็เป็นผลดีกับองค์กรและการทำธุรกิจนั้นๆ

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีกลยุทธ์สำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดกับพนักงานเรียกกันว่าเป็นวิธี D-R-I-V-E ที่สามารถใช้อย่างได้ผลในการทำงานของสังคมยุคใหม่ แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจทั้งหลายเองก็ต้องปรับเปลี่ยนและยอมรับในวิธีการเหล่านี้ให้ได้รวมถึงการเปลี่ยนทัศนคติแง่ลบ

และให้มองพนักงานที่ไม่ใช่แค่คนที่จ้างมากินเงินเดือน จากนั้นก็ใช้กลยุทธ์นี้โดยอาจปรับให้เหมาะสมกับรูปแบบของธุรกิจที่ตัวเองมีเชื่อได้ว่าจะเป็นการซื้อใจพนักงานที่อยากทำงานให้กับองค์กรหรือธุรกิจที่เขารู้สึกว่าสบายใจที่ได้ทำงานที่นี่

1.Development

คือการพัฒนาและฝึกอบรมเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถจูงใจพนักงานให้ทำงานได้ คงไม่มีใครอยากที่จะทำงานกับหัวหน้าที่ไม่เคยคิดที่จะส่งเสริมหรือสนับสนุนให้พวกเค้ามีความรู้และความสามารถที่เพิ่มขึ้นซึ่งเจ้าของกิจการหรือหัวหน้างานเองก็ต้องตระหนักไว้เสมอว่า

ไม่ต้องกลัวพนักงานจะเก่งหรือดีกว่าตนเอง จนเป็นเหตุให้ไม่สนใจที่จะพัฒนาทีมงานซึ่งการพัฒนาทีมงานนั้นมีหลายวิธีเช่น การสอนงานให้เข้าใจวิธีการและความรับผิดชอบ , การส่งลูพนักงานเข้ารับการฝึกอบรมกับหน่วยงานภายนอก , การให้คำปรึกษาแนะนำ รวมถึงการโยกย้ายสับเปลี่ยนงานเพื่อให้เกิดทักษะที่หลากหลายมากขึ้น

2.Relation

การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับกับคนที่ทำงานด้วยเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรเพิกเฉย เพราะสัมพันธภาพที่ดีจะทำให้ทีมงานอุทิศและตั้งใจในการทำงานให้กับคุณอย่างจริงใจมิใช่การบังคับ ทั้งนี้วิธีการในการเสริมสร้างให้คุณเองมีสัมพันธภาพที่ดีกับทีมงาน

เช่น การพาไปเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นเนื่องในโอกาสพิเศษซึ่งอาจจะเป็นเลี้ยงวันเกิด หรือการเลื่อนตำแหน่ง รวมถึงการเริ่มต้นทักทายพนักงานก่อน หรือการถามเรื่องอื่นๆกับที่ไม่ใช่เรื่องงาน การซื้อของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ การรับฟังและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาที่อาจไม่ใช่เรื่องการทำงาน รวมถึงการสร้างอารมณ์ขันให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาด้วย

3.Individual Motivation

ทีมงานในแต่ละองค์ล้วนมีหลากหลายสไตล์ ในฐานะของเจ้าของธุรกิจหรือหัวหน้างานจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวิเคราะห์ถึงนิสัย บุคลิกลักษณะและความต้องการของแต่ละคนซึ่งจะมีแบบฉบับที่แตกต่างกันไป การจูงใจจึงย่อมต้องแตกต่างกันไป จงอย่าใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งกับหลาย ๆ คนที่มีความต่างกัน

เช่น หากพบว่าทีมงานของตนขอบที่จะแสดงความคิดสร้างสรรค์ หัวหน้าควรจะมอบหมายงานที่ส่งเสริมให้พวกเค้าได้ใช้ความคิดและสามารถนำเสนอแนวคิดต่าง ๆ ได้ หรือหากทีมงานเป็นคนชอบโวยวายเมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ในฐานะหัวหน้างานควรจะสงบนิ่งและพูดคุยกับทีมงานอย่างมีเหตุผลเพื่อจูงใจให้เห็นด้วย

4.Verbal Communication

คำพูดเปรียบเสมือนดาบสองคมที่ส่งผลทั้งด้านบวกและด้านลบกับตัวคุณเองในฐานะที่เป็นหัวหน้างานหรือเจ้าของธุรกิจ บางครั้งการไม่พูดหรือนิ่งเฉย จะดูดีกว่าการพูดออกไป โดยเฉพาะคำพูดในทางลบที่เช่น คำพูดที่ประชดประชันเหน็บแนม คำพูดที่ออกคำสั่งโดยไม่มีเหตุผล คำพูดดูถูกความสามารถ คำพูดที่ปัดความรับผิดชอบหรือโยนความผิดให้กับคนอื่น เป็นต้น

แต่เจ้าของกิจการหรือหัวหน้างานที่ดีต้องพยายามเลือกใช้คำพูดทางบวกที่สร้างสรรค์และจูงใจให้คนอยากทำงาน เช่น พูดชดเชยเมื่อพนักงานทำงานสำเร็จ พูดให้กำลังใจเมื่อพนักงานวิตกกังวลหรือเผชิญปัญหา พูดกล่าวแสดงความขอบคุณเมื่อพนักงานทำงานให้ พูดเสริมกำลังใจถึงความเชื่อมั่นว่าพนักงานสามารถทำงานนั้น ๆ ได้สำเร็จ เป็นต้น

5.Environment Arrangement

สภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถจูงใจให้ทีมงานอยากทำงาน เพื่อมิให้รู้สึกจำเจหรือเบื่อหน่ายกับสภาพแวดล้อมแบบเดิม ๆ พบว่ามีหลากหลายวิธีที่เราสามารถเลือกใช้เพื่อสภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศที่ดีในการทำงาน เช่น การปรับเปลี่ยนรูปโฉมออฟฟิศใหม่ , การจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ ให้พร้อม

การอนุญาตให้เปิดเพลงเบา ๆ ฟังเพื่อคลายความตึงเครียด , การสร้างทีมงานให้เป็นทีมแห่งการเรียนรู้เพื่อให้เกิดบรรยากาศในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง , การจัดประชุมร่วมกันเดือนละครั้งหรือสองครั้งตามความเหมาะสมเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานเป็นทีมร่วมกัน ทั้งนี้เราอาจใช้เวทีของการประชุมเพื่อแจ้งให้พนักงานรับทราบถึงนโยบายของบริษัท ภารกิจหน้าที่ของทีมงาน และการให้ทุกคนมีส่วนร่วมเสนอไอเดียใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงระบบงานให้ดีขึ้น

กระบวนการเหล่านี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ทีมงานเกิดความรู้สึกที่ดีกับองค์กร ทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งซึ่งไม่ถูกกดดันจนเกินไปรวมถึงการให้ค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลกับงานที่ทำ จะยิ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้พนักงานทุ่มเทเกินร้อยมากขึ้น การเอาใจเขามาใส่ใจเราก็เป็นกระบวนการบริหารที่สำคัญและสามารถรักษาคนเก่งๆไว้อยู่ทำงานให้กับเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดังนั้นขอให้หัวหน้างานเริ่มสำรวจตัวเองนับแต่ตอนนี้ว่าได้ใส่ใจที่จะหาวิธีจูงใจลูกน้องให้ทำงานมากน้อยแค่ไหน หัวหน้างานที่มีทั้งศาสตร์ในการบริหารคนและศาสตร์ในการบริหารงานนั้นมักจะเป็นหัวหน้างานที่ประสพความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้รับการยอมรับและความเคารพศรัทธาจากลูกน้องด้วยความจริงใจ

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S