Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ ต้องทำอย่างไร

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยกิน หมูสะเต๊ะ และอีกหลายคนเช่นกันน่าจะติดใจเมนูสุดฟินนี้ที่มีเอกลักษณ์คือเนื้อหมูนุ่มๆ ไม้เล็กๆ พอดีคำ กลิ่นหอมจากเตา ทานคู่กับน้ำจิ้ม ส่วนใหญ่มักรับประทานเป็นอาหารว่าง อาหารทานเล่น แต่พอได้กินจริงๆ บางทีก็เพลินกับรสชาติรู้ตัวอีกทีก็เหลือแต่ไม้เปล่ากองอยู่เต็มโต๊ะ

ที่สำคัญหมูสะเต๊ะเป็นธุรกิจที่การลงทุนไม่สูง ลูกค้ามีความต้องการแน่นอน เปิดร้านที่ไหนก็ขายได้ และก็ทำได้ไม่ยาก อุปกรณ์ไม่มาก ถ้าในย่านไหนที่ยังไม่มีร้านหมูสะเต๊ะประจำการอยู่

ขอแนะนำว่านั้นคือย่านทำเลทองที่จะช่วยทำให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น และเมื่อเห็นช่องทางแบบนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ไม่รอช้าขอนำเสนอขั้นตอนการเริ่มต้นสำหรับคนสนใจ Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ ได้อย่างมืออาชีพ

ลองมาดู 6 ข้อสำคัญก่อนคิดเปิดร้านหมูสะเต๊ะว่าควรเตรียมตัวอย่างไร

Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ

1.รู้วิธีการทำหมูสะเต๊ะ

อย่าคิดว่าหมูสะเต๊ะใครๆ ก็ทำได้ เมนูนี้มีจุดเด่นที่การหมักหมูที่ต้องมีเทคนิคเพื่อทำให้หมูนุ่ม เครื่องเทศเข้าแทรกเข้าไปในเนื้อหมู รวมถึงการน้ำจิ้มและอาจาด ซึ่งเป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้ หากไม่รู้วิธีทำควรศึกษาจากคนที่มีประสบการณ์และทำให้ช่ำชองก่อนที่จะคิดถึงเรื่องอื่นต่อไป

2.ทดลองกินเอง หรือแจกให้คนใกล้ชิดลองทานดูก่อน

เมื่อรู้วิธีทำก็ต้องลองทำ ในครั้งแรกๆที่ทำรสชาติอาจจะยังไม่คงที่ นอกจากทดลองกินเองก็ควรแจกให้เพื่อน หรือญาติช่วยวิจารณ์ว่าเป็นอย่างไร รวมถึงอาจลองซื้อหมูสะเต๊ะในตลาดมาเปรียบเทียบรสชาติว่าขาดตกบกพร่องอย่างไรบ้าง

Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ

3.หาอุปกรณ์สำคัญในการเปิดร้าน

เมื่อได้รสชาติที่มั่นใจว่าสูตรนี้ทำขายได้แน่ ลองมาหาอุปกรณ์เบื้องต้นซึ่งที่สำคัญก็มี เตาปิ้งหมูแบบยาว , โต๊ะ, ตู้กระจก ,ไม้เสียบหมู ,ถุงบรรจุน้ำจิ้ม , ถาดรองหมูสะเต๊ะ ซึ่งนอกจากอุปกรณ์พื้นฐานเหล่านี้ที่เหลือก็ตามแต่ผู้ลงทุนเองว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมในการเปิดร้านอีกบ้าง

4.หาแหล่งวัตถุดิบคุณภาพดีในการทำหมูสะเต๊ะ

อุปกรณ์ในการเปิดร้านหมูสะเต๊ะนั้นหาไม่ยาก แต่ที่ต้องเน้นไม่แพ้กันคือวัตถุดิบซึ่งมีทั้งเนื้อหมูที่ส่วนใหญ่ใช้บริเวณสันใน ซึ่งเราควรมีแหล่งเนื้อหมูที่สดสะอาดและราคาไม่แพงจะช่วยลดต้นทุนได้มาก นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบอื่นๆ สำหรับทำการหมักและน้ำจิ้มเช่น ผงกระหรี่ ,นมสด , สีผสมอาหาร (ต้องมีสัญลักษณ์ อย.) , น้ำตาล , ถั่วลิสง , กะทิ , แตงกวา เป็นต้น

Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ

5.เลือกทำเลที่ดีที่สุด

ทำเลที่เหมาะสมสำหรับการขายหมูสะเต๊ะ คงเป็น ทำเลทั่วไปคือ มีผู้คนพลุกพล่าน ในตลาด ใกล้โรงเรียนหรืออาจจะเช่าหน้าร้านขายอาหารเลยก็ได้ ข้อดีของทำเลพลุกพล่านจะทำให้เราขายหมูสะเต๊ะได้ในปริมาณมากโดยปกติลูกค้าจะสั่งกันเป็นชุด ชุดละ 10-20 ไม้ ราคา 30-50 บาท หมูสะเต๊ะเป็นเมนูที่เวลาทานต้องกินจำนวนมากๆ ซึ่งต่างจากสินค้าอื่น

6.รู้จักการทำตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น

นอกจากทำเลหน้าร้านที่เรามีลูกค้าแน่นอน เราควรเพิ่มช่องทางการขายในออนไลน์หรืออาจเข้าไปติดต่อกับร้านอาหารเพื่อส่งหมูสะเต๊ะเป็นออร์เดิฟให้ลูกค้าได้ทานเล่นก่อนทานอาหารจริงๆ ข้อดีของหมูสะเต๊ะคือกินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อและมีลูกค้าหมุนเวียนไม่ขาดสาย

Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ

ต้นทุนกำไรคำนวณง่ายๆสำหรับเปิดร้านหมูสะเต๊ะ

  • ต้นทุนหลักๆ ของร้านหมูสะเต๊ะจะอยู่ที่วัตถุดิบเช่นเนื้อหมู (สันใน) และค่าอุปกรณ์หลักอย่างเตาปิ้งย่าง
  • เตาปิ้งย่างแบบยาวที่ใช้ราคาไม่แพงประมาณตัวละ 200-300 บาท
  • เนื้อหมู (สันใน) ราคาประมาณ 120-150 บาท เนื้อหมู 1 กก. ทำหมูสะเต๊ะได้ประมาณ 200-300 ไม้
  • วัตถุดิบอื่นๆ เช่น กะทิ , ผงกะหรี่ , สีผสมอาหาร , แตงกวา , พริก , ถั่วลิสง , ไม้เสียบหมู , ถุงพลาสติก ฯลฯ ต้นทุนของวัตถุดิบอื่นๆประมาณ 500 บาท

เบ็ดเสร็จในการเปิดร้านใช้งบลงทุนครั้งแรกประมาณ 1,000-1,500 บาท (ไม่รวมค่าเช่าสถานที่) ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ อาจหาแบบไม่ต้องเสียเงิน เช่นโต๊ะ ถาดรอง เป็นต้น

และราคาขายของหมูสะเต๊ะเฉลี่ยจะอยู่ประมาณไม้ละ 3-5 บาท หากเนื้อหมู 1 กก. ทำหมูสะเต๊ะได้ประมาณ 300 ไม้จะมีรายได้เบื้องต้นประมาณ 1,000-1,500 บาท ซึ่งถือว่าสูสีกับต้นทุนในครั้งแรกแต่อย่าลืมว่าเตาย่างเราซื้อครั้งเดียว วัตถุดิบอื่นๆ ก็ใช้ได้หลายครั้ง

นั้นหมายถึงในการขายครั้งต่อไปจะทำให้กลายเป็นกำไรได้ไม่น้อยกว่า 50% หรือหากเรามีลูกค้ามากๆ ขายได้ในปริมาณมากๆ รายได้ก็จะยิ่งมากตามไปด้วย

Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ

ทั้งนี้หากจะให้ดีใน Step by step เปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ เราต้องเรียนรู้เทคนิคการทำหมูสะเต๊ะและเทคนิคการบริหารจัดการร้านควบคู่กันไป ซึ่งทั้งสองอย่างจะสอดคล้องกัน

คือถ้าเทคนิคการทำเราดี หมูสะเต๊ะรสชาติอร่อย และสามารถบริหารจัดการร้านให้ถูกใจลูกค้าจะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าทั้งขาประจำและทั่วไปได้มากขึ้นซึ่งหมูสะเต๊ะไม้เล็กๆธรรมดาๆ นี้อาจทำให้เรากลายเป็นเศรษฐีมีเงินแสนเงินล้านได้ในอนาคต


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3hZ5iaZ

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด