อาชีพเพิ่มรายได้ “การเลี้ยงปลานิล” ทำง่าย รายได้ดีจริง

ในน้ำมีปลา ในนามีข้าวคือภาพลักษณ์ของเมืองไทยที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี อาชีพการเลี้ยงปลาถือเป็นอีกหนึ่งเกษตรกรรมที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน และยิ่งสังคมมีการพัฒนามากขึ้น เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาก็ได้ผนวกเอาความรู้ใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้กับการเลี้ยงปลาเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีขายได้ราคามากขึ้น

หนึ่งในปลาเศรษฐกิจที่น่าสนใจคือ “ปลานิล” ที่ได้ชื่อว่าเลี้ยงง่าย จับขายได้ไว หลายคนเปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่าของตัวเองเป็นบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งหากศึกษาวิธีการเลี้ยงอย่างถูกต้อง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าจะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี ในที่นี้เราได้รวบรวมวิธีเบื้องต้นเกี่ยวกับการเลี้ยงปลานิล การทำบ่อ การดูแล มาฝากเป็นข้อมูลให้ได้ศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน

เทคนิคการเตรียมบ่อ

1. ลักษณะของบ่อ

การเลี้ยงปลานิล

ภาพจาก bit.ly/3jL58pd

ควรเป็นบ่อดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดตั้งแต่ 400 ตารางเมตรขึ้นไป ระดับของน้ำในบ่อควรลึกประมาณ 1 เมตร ตลอดปี ทั้งนี้เพื่อจะได้ใช้เลี้ยงปลาซึ่งมีขนาดโต และใช้สำหรับเพาะลูกปลาพร้อมกันไปด้วย โดยที่ปลานิลเป็นปลาที่วางไข่โดยการขุดหลุมตามก้นบ่อ

ดังนั้น จึงควรมีชานบ่อหรือทำให้ตามขอบบ่อมีส่วนเชิงลาดเทมากๆ ซึ่งจะเป็นแหล่งตื้นๆ สำหรับให้แม่ปลาได้วางไข่ ถ้าบ่อนั้นอยู่ใกล้กับแม่น้ำ เช่น คู คลอง แม่น้ำ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวิดน้ำเข้าออก

เพียงแต่ทำท่อระบายน้ำแล้วกรุด้วยตะแกรงตาถี่เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาที่เลี้ยงไว้หลบหนีออกไปก็ใช้ได้ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ศัตรูของปลาที่เลี้ยงไว้หลบหนีออกมาอีกด้วย แต่ถ้าบ่อนั้นไม่สามารถจะทำท่อระบายน้ำได้ก็จำเป็นต้องสูบน้ำเข้าบ่อเมื่อเวลาน้ำลดลง และต้องมั่นเปลี่ยนน้ำในเวลาที่เกิดน้ำเสีย

2. การเตรียมบ่อ

4

ภาพจาก bit.ly/2Dhbj4y

  1. บ่อใหม่ หากเป็นบ่อที่ขุดใหม่ ดินมักมีคุณภาพเป็นกรด ควรใช้ปูนขาวโรยให้ทั่วบ่อ ในอัตรา 1 กิโลกรัม ต่อเนื้อที่ 10 ตารางเมตร
  2. บ่อเก่าจำเป็นต้องปรับปรุงบ่อ โดยกำจัดวัชพืชออกให้หมด เช่น ผักตบชวา จอก บัว และหญ้าต่างๆ เพราะวัชพืชเหล่านี้จะปกคลุมผิวน้ำเป็นอุปสรรค์ต่อการหมุนเวียนของอากาศ ซ้ำยังจะเป็นที่หลบซ่อนอยู่อาศัยของศัตรูที่เป็นอันตรายต่อปลา และเป็นการจำกัดเนื้อที่ซึ่งปลาต้องใช้อยู่อาศัยอีกด้วย
  3. การใส่ปุ๋ยเพื่อให้เกิดอาหารธรรมชาติ เพราะโดยทั่วไปแล้วปลาจะกินอาหารซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติและจากที่ผู้เลี้ยงให้ ดังนั้นในบ่อเลี้ยงปลา ควรดูแลให้มีอาหารธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่เสมอ จึงจำเป็นอยู่เองที่จะต้องมีการใส่ปุ๋ยลงไปเพื่อให้เกิดอาหารธรรมชาติ ปุ๋ยที่ใช้ได้แก่ มูลวัว มูลควาย มูลหมู มูลเป็ดและมูลไก่ นอกจากปุ๋ยมูลสัตว์ดังกล่าวแล้ว ปุ๋ยหมักและปุ๋ยพืชสดต่างๆ ก็ใช้ได้อัตราการใส่ปุ๋ย ในระยะแรกนั้นควรใส่ประมาณ 250-300 กิโลกรัมต่อไร่ ในระยะหลังๆ ควรใส่ในอัตราครั้งละครึ่งหนึ่งของระยะแรก 

เทคนิคการปล่อยปลาลงเลี้ยง

  1. จำนวนปลาที่ปล่อย เนื่องจากปลานิลเป็นปลาที่ขยายพันธุ์ได้เร็ว ดังนั้นจำนวนปลาที่จะปล่อยลงเลี้ยงในบ่อครั้งแรกจึงไม่จำเป็นต้องปล่อยให้มากนัก สำหรับบ่อขนาดเนื้อที่ 1 งาน (400 ตารางเมตร) ควรใช้พ่อแม่ปลานิลเพียง 50 คู่ หรือถ้าเป็นลูกปลาซึ่งมีขนาดเล็กก็ควรปล่อยเพียง 400 ตัว หรือ 1 ตัวต่อ 1 ตารางเมตร
  2. เวลาปล่อยปลา เวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปล่อยปลา ควรเป็นเวลาเช้าหรือเวลาเย็น เพราะระยะเวลาดังกล่าวนี้อุณหภูมิของน้ำไม่ร้อนเกินไป ก่อนที่จะปล่อยปลา ควรเอาน้ำในบ่อใส่ปนลงไปในภาชนะที่บรรจุปลา แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้ปลาคุ้นกับน้ำใหม่เสียก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ จุ่มปากภาชนะที่บรรจุปลานิลลงบนผิวน้ำพร้อมตะแคงภาชนะปล่อยให้ปลาแหวกว่ายออกไปอย่างช้าๆ

การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์สำหรับเพาะเลี้ยง

3

ภาพจาก bit.ly/31JIFTc

การคัดเลือกพ่อแม่ปลานิล ให้สังเกตลักษณะภายนอกของปลาที่ปราศจากบาดแผล พ่อแม่ปลาที่พร้อมจะวางไข่นั้นสังเกตได้จากอวัยวะเพศถ้าเป็นปลาตัวเมีย จะมีสีชมพูแดงเรื่อ ส่วนปลาตัวผู้สังเกตได้จากสีของตัวปลาที่เข้มสดใส ขนาดของปลาตัวผู้และตัวเมียควรมีขนาดไล่เลี่ยกันคือมีความยาวตั้งแต่ 15-25 ซม. น้ำหนักตั้งแต่ 150-200 กรัม สำหรับอัตราส่วนในการพ่อแม่พันธุ์ประมาณไร่ละ 400 ตัว และควรปล่อยอัตราส่วนพ่อปลา 2 ตัว แม่ปลา 3 ตัว เพื่อโอกาสในการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติที่มากขึ้น

การให้อาหารปลานิลในบ่อ

2

ภาพจาก bit.ly/2DlcL64

การเลี้ยงปลานิลจำเป็นต้องให้อาหารสมทบหรืออาหารผสมได้แก่ ปลายข้าว สาหร่าย รำละเอียดในอัตราส่วน 1:2:3 โดยให้อาหารดังกล่าวแก่พ่อแม่ปลานิลประมาณ 2% ของน้ำหนักตัว ส่วนปุ๋ยคอกแห้งก็ต้องใส่ในอัตราส่วนประมาณ 100-200 กก./ไร่/เดือน

เพื่อเป็นการเพิ่มพูนอาหารธรรมชาติในบ่อได้แก่พืชน้ำขนาดเล็ก ไรน้ำและตัวอ่อน อันจะเป็นประโยชน์ต่อลูกปลานิลวัยอ่อน การให้อาหารปลานิลจึงถือเป็นต้นทุนหลักของเกษตรกร ส่วนใหญ่ที่ใช้กันเช่น รำข้าว ผสมกับปลาป่น กากถั่ว และวิตามิน นอกจากนี้ยังมีแหนเป็ด และสาหร่าย ก็สามารถใช้เป็นอาหารเสริมแก่ปลานิลได้อย่างดีเช่นกัน

ระยะเวลาในการเติบโตและผลผลิต

1

ภาพจาก bit.ly/3gM99ri

ปลานิลเป็นปลาที่มีการเจริญเติบโตเร็ว เมื่อได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องจะมีขนาดเฉลี่ย 500 กรัมในเวลา 1 ปี ผลผลิตไม่น้อยกว่า 500 กก./ไร่/ปี ซึ่งระยะเวลาในการจับจำหน่ายขึ้นอยู่กับขนาดของปลานิลและความต้องการของตลาด โดยทั่วไปหากเป็นปลานิลในบ่อรุ่นเดียวกันจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงจะจับจำหน่าย ราคาของปลานิลถ้าเป็นไซด์ขนาด 0.7-1.2 กิโลกรัม ราคาประมาณกิโลกรัมละ 65 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วย)

หากคำนวณต้นทุนโดยเฉลี่ยต่อบ่อจากเกษตรที่ประสบความสำเร็จให้ตัวเลขคร่าวๆ ว่าหากเป็นการเลี้ยงประมาณ 6 เดือนแล้วจับขายได้ปลาน้ำหนักประมาณ 800 กรัมขึ้นไป ต้นทุนในการเลี้ยงต่อ 1 บ่อจะอยู่ประมาณ 30,000 บาท แต่ก็สามารถขายมีรายได้ต่อบ่อ 40,000 -50,000 บาท ต้นทุนส่วนใหญ่คือค่าอาหารซึ่งเกษตรกรที่มีความชำนาญก็จะมีวิธีทำสูตรอาหารที่ประหยัดมากขึ้น ทำให้มีกำไรจากการลงทุนมากขึ้นเช่นกัน

*** เทคนิคและวิธีการเลี้ยงอาจแตกต่างกันในบางพื้นที่ ข้อมูลที่นำเสนอเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น***

ปัญหาและอุปสรรคของการเลี้ยงปลานิลก็คือเรื่องโรค และศัตรูที่อาจรบกวน เกษตรกรต้องมีความรู้รอบด้านและหาวิธีเลี้ยงที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ดีปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลการเลี้ยงปลานิลที่เราสามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ หรือจะลองปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์เลี้ยงปลานิลมายาวนานก็จะถ่ายทอดเทคนิคและภูมิปัญญาที่ในตำราอาจไม่ได้พูดถึงให้เราได้ทราบและนำไปปรับปรุงใช้ต่อไปได้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/32pB4s2https://bit.ly/3gQ3SiB

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2QMCAiE

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด