8 เทคนิคการจัดร้านใน ตลาดนัด

แม้ว่าจะเป็นเพียงสินค้า ตลาดนัด แต่ถ้าเรามีการจัดวางรูปแบบร้านให้น่าสนใจไม่ใช่แค่ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาต้องสนใจ การจัดร้านที่ดีมีสไตล์ อาจเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้อย่างไม่รู้ตัว ลองเทียบกันดูว่าระหว่างร้านวางของระเกะระกะกับร้านที่มีสินค้าแบบเดียวกันแต่จัดวางอย่างมีสไตล์ ถ้าเราเป็นลูกค้าจะเลือกเข้าร้านไหนก่อนดี

www.ThaiSMEsCenter.com มี 8 เทคนิคแห่งการจัดร้านในตลาดนัดให้ดูมีความเป็นมืออาชีพกันมากขึ้น ซึ่งหลายคนบอกว่าแค่พื้นที่เล็กๆจะต้องมีเทคนิคอะไรมากมาย แต่เชื่อหรือไม่ว่าจุดเริ่มต้นของเศรษฐีเมืองไทยหลายคน เช่น Mywarisa แบรนด์รองเท้าชื่อดังที่ทำยอดขายได้เกือบ 200 ล้านบาท/ปี ก็เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาจากการขายแบกะดินที่เรามองว่าไม่สำคัญนี่แหละ

1.เยอะไว้ก่อนเป็นดี

ตลาดนัด

นี่คือพื้นฐานสำคัญและจงอย่ามองข้ามเป็นอันขาด อะไรที่เรามีดีอยู่ในร้านอย่าขี้เกียจเด็ดขาดต้องรีบเอามาโชว์ เอามาตั้ง จัดเต็มไว้ก่อน แต่ความเยอะที่ว่านี้ห้ามไร้นระเบียบเด็ดขาด ต้องให้ลูกค้ารู้ด้วยว่าเราจะขายอะไร

แต่อย่างไรก็ตามมันก็ต้องอยู่ที่ว่าเราขายสินค้าอะไรถ้าเสื้อผ้า หน้าผม แบบนี้อาจจัดเต็มได้มากสักหน่อยแต่ถ้าเป็นของทรงคุณค่าภาพวาด หรือของหายากเหล่านั้น อาจจะไม่ต้องจัดเต็มพื้นที่มากนักก็ได้

2.อุปกรณ์ประกอบฉากก็มีความสำคัญมาก

b7

ยิ่งเป็นพื้นที่เล็กความโดดเด่นยิ่งต้องมาก อุปกรณ์ประกอบร้านที่ทำให้ดูโดดเด่นได้เช่น การใช้หญ้าเทียมปูกันไปเลย หรือเพิ่มชั้นวางของแบบเก๋ๆ อาจจะเป็นแบบแฮนเมดด์หรือเลือกแบบที่มีดีไซน์หน่อยก็ได้ หรือไม่ก็หาของประดับที่แปลกแต่ควรให้เข้ากับสินค้าที่วางขายจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้อีกไม่น้อย

3.แต่งร้านแบบเล่นสี

ww7

ถือเป็นเทคนิคชั้นเลิศทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นร้านKitty ในตลาดน้ำที่นครปฐมเลือกใช้โทนสีชมพูทั้งร้าน ดูเด่นเห็นมาแต่ไกล หรือร้านขายเสื้อก็อาจใช้การไล่เรียงเฉดสสี จากโทนอ่อนไปหาเข้ม

เพื่อให้สวยสะดุดตาและง่ายต่อการเลือกซื้อของลูกค้า หรือถ้าเป็นร้านขายนาฬิกาอาจใช้ผ้าปูสีดำ และทำฉากหลังให้สินค้าดูมีค่ามีราคาขึ้นมา เหล่านี้ก็ถือเป็นตัวอย่างที่น่าจะมองเห็นภาพและเอาไปปรับใช้กับสินค้าที่เราต้องการวางขายได้

4.เลือกการกองสินค้าเพื่อเพิ่มปริมาณคนซื้อ

i2

เป้าหมายของสินค้าแบบกองนั้นเน้นเรื่องเดียวคือเน้นปริมาณการขายเพราะสินค้าราคาไม่สูงมาก ส่วนใหญ่ใช้กับพวกรองเท้ามือสอง เสื้อผ้า ตุ๊กตา เสน่ห์ของสินค้าแบบกองคือลูกค้าจะเข้ามาเลือกซื้ออย่างเมามัน งานนี้อาจมีเทคนิคลับๆที่เรียกว่าใช้หน้าม้าทำมารื้อค้นๆ เชื่อเถอะถ้าคนอื่นเห็นก็ต้องสนใจจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสี่ ร้านเราก็จะดูคึกคักขึ้นมาทันทีทันใด

5.เน้นความเป็นระเบียบกันไปเลย

z4

แตกต่างจากข้อแล้วเทคนิคนี้ใช้ทักษะความเป็นระเบียบเข้ามาสร้างจุดขาย ซึ่งบางทีก็ดึงดูดสายตาได้ดีทีเดียว เช่นการจัดเรียงสินค้าให้เป็นแถวเดียวกัน เรียงตามขนาดจากเล็กไปใหญ่ หรือเรียงตามรูปทรง กลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หรือถ้ามีหัวทางด้านศิลปะก็อาจจัดเรียงในรูปแบบแปลกๆที่ชวนให้คนมองและต้องมีสักคนละนะที่สนใจซื้องของเรา

6.กำหนดธีมของร้านให้ชัดเจนก็น่าสนใจ

tt2

หลากหลายวิธีการแต่สุดท้ายอันนี้น่าจะสร้างจุดเด่นได้ดีเช่นกันกับการเลือกธีมร้านเจาะจงไปเลยว่าต้องการแบบไหน ไม่จำเป็นต้องตามใครใส่คาแรคเตอร์ของตัวเองเข้าไปในร้านได้เลยยิ่งดี

การ Mix&Match เป็นสิ่งสำคัญในเทคนิคนี้ มีหลายแนวที่เราเลือกได้เช่น น่ารักสดใส เถื่อนดิบฮาร์ดคอ หรือจะมาแนวศิลปะ ก็ยังได้ เหนือสิ่งอื่นใดถ้าเลือกการจัดร้านแบบนี้คือคุณต้องมั่นใจอย่าแคร์สายตาคนอื่นอย่าคิดว่าจะมีคนไม่ชอบ เพราะคนที่ชอบจะต้องมีและนี่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คของร้านคุณได้อย่างชัดเจน

7.ทำโชว์ให้เห็นกันหน้าร้านแบบสดๆ

qq24

การโชว์ที่ว่านี้ก็เหมือนการ Live ที่พร้อมดึงดูดคนผ่านไปผ่านมาได้แน่นอนยิ่งเป็นสินค้างานฝีมือ ยิ่งได้เปรียบ หรือร้านที่เกี่ยวกับการทำเครื่องประดับก็น่าสนใจ การหยุดดูของลูกค้าหนึ่งคนจะส่งผลต่อคนที่สองและสาม สุดท้ายยิ่งมุงกันมาก เรายิ่งขายของได้ดี จาก 10 คนมุงต้องมีสัก 1 หรือ 2 คนที่ซื้อสินค้าเราแน่ๆ

8.รู้จักการใช้แสงไฟให้ถูกต้อง

ii7

สำหรับตลาดนัดยิ่งเป็นตลาดกลางคืนการใช้ไฟนั้นถือว่าสำคัญสุดๆ แต่ส่วนใหญ่ผู้จัดจะกำหนดให้ใช้ไฟได้แค่ร้านละ 1-2 ดวง เพื่อป้องกันหม้อแปลงของตลาดทำงานหนัก

ดังนั้นเมื่อโอกาสใช้ไฟมีไม่มากก็ต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นการใช้ไฟส่องไปที่ตัวสินค้าแบบตรงๆ ซึ่งร้านที่ทำแบบนี้ได้ก็คือพวกขายเครื่องประดับ หรือจะเลือกส่องไปทางด้านบนสุดของร้านเพื่อให้สว่างทั่วถึงทั้งร้านบางร้านมีการเปลี่ยนจากหลอดแสงไฟใสๆเป็นหลอดไฟแสงสีส้มเพื่อให้ลูกค้ามองเห็นได้จากระยะไกลนั่นเอง

ทั้ง8เทคนิคนี้ต้องมีคนถามว่าแล้วจะใช้ทั้ง 8 ข้อพร้อมกันได้เลยจะดีไหม? เรื่องนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณเป็นสำคัญดีกว่าบางครั้งเลือกใช้แค่ 3-4 ข้อก็น่าจะสร้างจุดเด่นได้มากพอตัวหรือถ้านอกจาก 8 ข้อนี้มีวิธีน่าสนใจกว่าก็สามารถเอามาประยุกต์ใช้กันได้สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรก็ได้ให้ร้านน่าสนใจให้มีคนเข้าร้านมากๆ โอกาสขายเราก็จะมากขึ้นด้วย


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3lMFCBz

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด