7 Step สร้างแบรนด์ครีม กับ โรงงานผลิตครีมแบบ OEM

ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) พูดถึงสูตรเครื่องสำอางว่ามีการจดทะเบียนกับคณะกรรมการอาหารและยามากกว่า 500,000 สูตร มีผู้ประกอบการมากกว่า 8,000 ราย มูลค่าตลาดเครื่องสำอางสูงกว่า 300,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโตมากขึ้นทุกปี

ผลิตภัณฑ์หลักๆส่วนใหญ่คือครีมบำรุงผิว เส้นผม และน้ำหอม แม้ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางจะมีคู่แข่งมากแต่ด้วยความง่ายของการทำแบรนด์ที่สามารถจ้างผลิตได้ซึ่งแต่ละโรงงานก็มีแพคเกจการลงทุนที่แตกต่างกันไปทำให้การเริ่มต้นในธุรกิจเครื่องสำอางแบบมีแบรนด์ตัวเองไม่ต้องใช้เงินทุนสูงมาก

OEM

แต่สำคัญอยู่ที่การตลาดว่ามีสินค้าแล้วจะทำอย่างไรให้ขายได้ และเพื่อปูทางให้คนสนใจในการทำธุรกิจนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี7 ขั้นตอนมาบอกให้ทราบถึงสเต็ปของการสั่งผลิตครีมจากโรงงานว่ามีอะไรบ้าง

ปัจจุบันการสั่งผลิตครีมจากโรงงานแบบ OEM จะมีด้วยกัน3ลักษณะคือ

  1. สั่งผลิตอย่างเดียวไม่บรรจุ (ลูกค้าซื้อยกกิโลนำไปบรรจุเอง)
  2. สั่งผลิตและบรรจุ (ลูกค้าจัดหากระปุกและสติ๊กเกอร์ส่งมาให้โรงงานบรรจุ)
  3. สั่งผลิตแบบ Package Beginner (One stop service สำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ)

24

หากเป็นการสั่งผลิตอย่างเดียวไม่บรรจุ ปริมาณขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า 1 กก. แต่ในกรณีที่มีการขอ อย.ด้วยต้องมียอดในการสั่งทำสินค้าไม่น้อยกว่า 5,000 บาท สำหรับการสั่งผลิตและบรรจุหากลูกค้าไม่มีแพคเกจมาเองก็ต้องมาคุยกับทางโรงงานว่าต้องการแพคเกจแบบไหนอย่างไร ซึ่งราคาของการสั่งผลิตก็จะแยกจากการออกแบบและผลิตแพคเกจ เบื้องต้นก็ต้องมีงบประมาณที่สูงขึ้นกว่าการทำแบบไม่บรรจุ

สุดท้ายคือ Package Beginner ที่คนทำธุรกิจเครื่องสำอางมักสนใจเพราะเราไม่จำเป็นต้องสั่งสินค้าทีละมากและสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ที่โรงงานมีอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่มีขั้นต่ำในการผลิตที่ประมาณ 30 ชิ้น แต่ในกรณีที่มีการขอจดขึ้นทะเบียน อย. ด้วยก็ต้องมียอดการสั่งสินค้าขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 10,000 บาท

อย่างไรก็ดีแม้ว่าปัจจุบันแต่ละโรงงานจะมีแพคเกจสำหรับการผลิตโดยที่เราเลือกได้เลยว่าต้องการอะไรแบบไหนแต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เข้าใจแนวทางของการสั่งทำครีมจากโรงงานดีพอเราจึงยกมาอธิบายเป็นสเต็ปๆให้เข้าใจดังนี้

26

1.เลือกโรงงานที่เราต้องการให้ผลิตเครื่องสำอาง

สเตปแรกสุดคือตัดสินใจว่าอยากทำสินค้าแบบไหนจากนั้นให้มองหาโรงงานผลิตที่มีประสบการณ์อย่าดูว่าราคาถูกอย่างเดียวแต่ไม่มีคุณภาพและควรมองภาพรวมลึกๆในแต่ละโรงงานเช่น มีสูตรดี วัตถุดิบดี ผลิตสินค้าได้ทันที มีบริการครบวงจร ตั้งแต่ผลิต ออกแบบโลโก้ ขอ อย. มีเครื่องมือในการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีสินค้าให้ทดลองก่อนตัดสินใจ เป็นต้น

j6

2.คุยกับเจ้าหน้าที่ว่าเราต้องการสินค้าแบบไหน

เลือกโรงงานเสร็จก็ต้องมาอธิบายให้ผู้ผลิตทราบว่าเรามีความต้องการจะได้สินค้าแบบไหน เป็นครีม หรืออาหารเสริม และสินค้าเราอยากได้ลักษณะเนื้อครีมแบบไหน กลิ่นอะไร สรรพคุณแบบไหน ราคาประมาณไหน เราต้องแจ้งให้เขาทราบ ในขั้นตอนนี้อาจพ่วงเรื่องการตกลงต่อรองราคาว่าจะลดแลกแจกแถมอะไรได้บ้าง รวมถึงอาจมีการวางมัดจำในเบื้องต้นด้วย

j2

3.ลองสินค้าที่โรงงานมีก่อนตัดสินใจ

โรงงานผลิตแบบ OEM มักจะมีสินค้าให้ลูกค้าได้ลองก่อนตัดสินใจหากไม่ใช่การผลิตสูตรใหม่ วิธีนี้ก็จะเริ่มต้นแบรนด์ตัวเองได้ง่ายกว่าแต่ข้อเสียคือครีมตัวอย่างนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีในท้องตลาดอยู่มากด้วย ลูกค้าบางคนตัดสินใจสร้างสูตรเครื่องสำอางใหม่ทางโรงงานส่วนใหญ่ก็จะมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านนี้แต่หากเป็นเคสนี้ค่าใช้จ่ายก็จะสูงมากขึ้นด้วย

j5

4.คิดชื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่ของโรงงาน

เมื่อสรุปว่าจะผลิตสินค้าแบบไหน อย่างไร ในแพคเกจไหน หรือคิดสูตรใหม่ สิ่งสำคัญต่อมาคือการตั้งชื่อแบรนด์ทางที่ดีเราควรคิดร่วมกับทางโรงงานในการกำหนดชื่อแบรนด์เพราะเขามีเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์เราจะได้ตั้งชื่อแบรนด์ที่ตรงตามหลักของกฏหมายเวลาจะทะเบียนจะได้ผ่านง่ายๆ

27

5.ให้โรงงานขึ้นทะเบียน อย.ให้จะสะดวกกว่า

ส่วนใหญ่โรงงานที่ผลิตเครื่องสำอางก็จะมีบริการนี้ควบคู่อยู่ด้วยเป็นความง่ายที่เราไม่ต้องมาเสียเวลาลดขั้นตอนที่เราไม่ถนัด ที่สำคัญให้โรงงานติดต่อขอขึ้นทะเบียนอาจผ่านง่ายกว่าเราทำเองก็ได้ แต่เราก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่คุ้มค่ากว่า

j3

6.ออกแบบฉลาก และบรรจุภัณฑ์

ขั้นตอนนี้ ลูกค้าต้องแจ้งความต้องการเรื่องหน้าตาของสินค้าให้ละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้ได้ งานออกแบบที่โดนใจที่สุด เช่น ธีม, โทนสี, ลักษณะของตัวอักษร, แนวการวางลาย หรือหากมี ตัวอย่างมาให้ดูแบบที่ต้องการ จะตรงตามความต้องการและย่นระยะเวลาได้รวดเร็วมากขึ้น

j4

7.สั่งผลิต

หลังจากสรุปงานออกแบบได้แล้ว จะเป็นกระบวนการผลิต ทั้งบรรจุภัณฑ์ และ ผลิตภัณฑ์ ระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยซึ่งเราสามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง และส่วนใหญ่เมื่อผลิตเสร็จตามที่ตกลงทางโรงงานจะมีบริการจัดส่งไปให้ลูกค้าถึงบ้านหรือว่าที่ออฟฟิศได้เลยด้วย

ภาพรวมของการมีแบรนด์เครื่องสำอางตัวเองไม่ใช่เรื่องยากสิ่งสำคัญคือเมื่อมีสินค้าแล้วจะจำหน่ายอย่างไร ทำอย่างไรให้สินค้าเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นกำไรได้ โรงงานผลิตบางแห่งนอกจากรับผลิตยังมีส่วนของการแนะนำการตลาดให้เรารู้ว่าควรทำแบบไหนอย่างไรเพื่อให้สินค้าติดตลาดได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราควรปรึกษาเพราะหากเราเป็นมือใหม่ก็ควรศึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า

yj


SMEs Tips

  1. ตัดสินใจเลือกสินค้าที่เราอยากสร้างแบรนด์
  2. เลือกโรงงานและวิธีการผลิตที่เราต้องการ
  3. แจ้งเจ้าหน้าที่ของโรงงานว่าเราต้องการสินค้าแบบไหน อย่างไร
  4. ทำงานร่วมกับโรงงานในการตั้งชื่อแบรนด์ ออกแบบฉลาก เพื่อจะได้ขออนุญาตผ่านง่ายขึ้น
  5. เริ่มต้นการสั่งผลิต

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด