7 เรื่องที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Root Beer

ในธุรกิจเครื่องดื่มที่ทุกวันนี้มีหลากหลายยี่ห้อแต่ดูเหมือนว่าเครื่องดื่มเหล่านั้นแม้จะแตกต่างแบรนด์แต่คุณสมบัติสินค้าแทบจะไม่มีความต่างกัน และถ้าเราเป็นนักดื่มที่สนใจธุรกิจนี้โดยตรงก็คงรู้เช่นกันว่า เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่เปิดตัวกันมาแสนนานแม้ประวัติจะไม่แน่ชัดแต่เชื่อว่าเริ่มต้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18

และด้วยความโดดเด่นของรสชาติที่เป็นได้ทั้งเครื่องดื่มดับกระหายและไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนก็ทำให้รูทเบียร์ได้ชื่อว่าเป็นสินค้ายอดนิยมถึงขนาดที่ร้านA&W นำมาเป็นเครื่องดื่มประจำร้านแล้วขยายแฟรนไชส์ไปทั่วโลก ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com  มีมุมมองที่น่าสนใจเป็น7 สิ่งที่คนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับรูทเบียร์ที่เราเคยเห็นและกินกันอยู่บ่อยๆ

1. Root Beer เริ่มต้นจากการเป็นยาขมปี๋

assa1

ภาพจาก goo.gl/wqvMIo

เครื่องดื่มกลิ่นสมุนไพรที่มีส่วนผสมหลักมาจากรากไม้ กลิ่นของรูทเบียร์ที่บางคนว่าหอม บางคนว่าไม่ ที่จริงแล้วเริ่มต้นจากการเป็นยาขมปี๋ ส่วนผสมหลักคือ ดอกแดนดิไลออน เปลือกไม้เบิร์ชดำ ราก sassafras และ sarsaparilla นำมาต้มเป็นน้ำสมุนไพรรักษาทุกโรคในยุคล่าอาณานิคม ฮอตฮิตจนร้านขายยาสมุนไพรกึ่งสำเร็จรูปขายให้ลูกค้าซื้อไปต้มรูทเบียร์ดื่มเองที่บ้าน โดยคำว่า Root ในรูทเบียร์มาจากส่วนผสมหลักที่เป็นรากไม้นั่นเอง

2. Charles Elmer Hires ผู้เปลี่ยนยาขมให้เป็นเครื่องดื่มทานเล่น

น้ำสมุนไพรเปลี่ยนสถานะเป็นของดื่มเล่น เมื่อเภสัชกรชื่อ Charles Elmer Hires ปรุงเครื่องดื่มสุดซ่า แสนอร่อย เป็นน้ำพุรูทเบียร์แจกฟรีในเทศกาลเฉลิมฉลองครบ 100 ปีประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงเวลาเดียวกับที่แอลกอฮอล์ถูกห้ามขายในหลายๆ รัฐ ก่อนจะขยับขยายเป็นทั้งอเมริกา เมื่อดื่มเบียร์ไม่ได้ ผู้คนก็ขอจิบรูทเบียร์เย็นๆ ให้ชื่นใจแทน

3.มีชื่อเล่นน่ารักๆว่า Black Cow

assa2

ภาพจาก goo.gl/oN9tZM

รูทเบียร์มีชื่อเล่นว่า Black Cow ตั้งแต่เริ่มผลิตเป็นขวดน้ำอัดลม รูทเบียร์ก็เป็นที่นิยมจนขายได้หลายล้านขวดต่อปี ถึงขั้นมีคนตั้งชื่อเล่นของรูทเบียร์ว่า Black Cow หรือวัวดำ เพราะสีดำสนิท ที่เหมือนน้ำนมสีดำ

4.รูทเบียร์ยุคแรกราคาแค่ 5 เซนต์เท่านั้น

กำเนิดฟองซ่า รอย อัลเลน (Roy Allen) หนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกัน ตัดสินใจซื้อสูตรการทำรูทเบียร์ทั้งหมดจากนักเคมีคนหนึ่ง มาเปิดร้านรูทเบียร์เล็กๆ ที่เมือง Lodi รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยคิดราคาเครื่องดื่มแสนอร่อยเพียงแค่แก้วละ 1 นิกเกิล หรือ 5 เซนต์เท่านั้น

รสหวานซาบซ่าไม่เหมือนใคร ทำให้รูทเบียร์นี้ ขายดิบขายดีราวกับเทน้ำเทท่าอย่างรวดเร็ว จากความสำเร็จ ทำให้เขาร่วมมือกับแฟรงก์ ไรต์ (Frank Wright) อดีตพนักงานในร้านสาขาแรกที่กลายเป็นหุ้นส่วน ทั้งคู่เปิดสาขา 2 ที่เมือง Stockton และขยายสาขาเล็กๆ ไปทั่วเมือง Sacramento อักษรย่อนามสกุลของทั้งคู่จึงกลายเป็น A&W Root Beer

5.รูทเบียร์สูตรเฉพาะของ A&W เป็นสูตรลับในห้องทดลอง

assa

สูตรลับจากห้องทดลอง รูทเบียร์สูตรเฉพาะของ A&W กำเนิดขึ้นจากนักเคมีคนหนึ่ง ผู้คิดค้นรูทเบียร์สูตรพิเศษที่อร่อยด้วยรสชาติหวานละมุนจากสมุนไพร เครื่องเทศ เปลือกไม้ และเบอร์รี่ต่างๆ รวม 14 อย่าง ซึ่งอร่อยแตกต่างจากโซดาน้ำดำเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาดและปราศจากคาเฟอีน ซึ่งต่อมาความอร่อยของเครื่องดื่มชนิดนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก

6.รูทเบียร์แจ้งเกิดพร้อมวัฒนธรรมไดร์ฟ-อิน

รูทเบียร์ได้แจ้งเกิดพร้อมวัฒนธรรมไดร์ฟ-อิน รูทเบียร์สุดซ่าของ A&W ที่เกิดในปี 1920 ที่วัฒนธรรม Drive-in กำลังเฟื่องฟู เพราะเป็นยุคสมัยที่ใคร ๆ ก็เห่อซื้อรถยนต์มาขับ จะทำกิจกรรมก็ต้องทำในรถไปซะทุกอย่าง รูทเบียร์เย็นเจี๊ยบจากร้านอาหารจึงต้องลอยไปให้ดื่มอย่างชื่นใจถึงข้างพวงมาลัย โดยมีบริกรชายหญิงจะถือถาดใส่แก้วมัคใบโตไปเสิร์ฟลูกค้าถึงที่

7.ดื่มให้ชื่นใจต้องใส่แก้วมัคแช่เย็นเท่านั้น

assa3

ภาพจาก goo.gl/yih98a

ว่ากันว่ารูทเบียร์หากจะดื่มให้อร่อยต้องดื่มในแก้วมัคแช่เย็นเท่านั้น ดื่มไวน์ให้ดีต้องใช้แก้วก้านยาว ดื่มกาแฟให้อร่อยต้องใช้ถ้วยเซรามิก แต่ถ้าจะดื่มรูทเบียร์ให้ชื่นใจแบบออริจินัล ต้องใช้แก้วมัคเนื้อหนาที่มีหูจับอันโต ที่สำคัญต้องแช่เย็นล่วงหน้าด้วยอุณหภูมิ -17 องศาเซลเซียล พร้อมบรรจุรูทเบียร์เย็นเฉียบสำหรับดับกระหายให้นักดื่มทุกวัย

และถึงขณะนี้รูทเบียร์ก็น่าจะเป็นเครื่องดื่มยี่ห้อเดียวที่แตกต่างมากที่สุดกับบรรดาเครื่องดื่มอื่นๆที่สำคัญคือสร้างยอดขายที่ดีทั่วโลกได้ด้วยนอกจากนี้รูทเบียร์ยังเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยส่งเสริมรสชาติอาหารให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะรับประทานคู่กับเมนูของคาวหรือของหวาน และกลายมาเป็นเครื่องดื่มประจำของ A&W ที่มีสาขาหลายแห่งทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด